นอนชิลล์วิวทะเลที่ AVANI Pattaya Resort รีสอร์ทใหญ่ทำเลดี ติดหาดพัทยา

ห่างหายการรีวิวที่พักในพัทยาค่อนข้างนานทีเดียว สองปีกว่าที่ไม่ได้ไปพัทยาเลยค่ะ ปีนี้ถือโอกาสดีที่ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ คัมแบคสู่พัทยากันอีกครั้งเมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมา AVANI Pattaya Resort เป็นโรงแรมห้าดาวขนาดใหญ่ อยู่ติดริมถนนพัทยาสาย 2 ทำเลดีเยี่ยมเนื่องจากตัวตึกของโรงแรมอยู่ติดกับห้าง Royal Garden Plaza แบบเดินเชื่อมกันได้

ครั้งนี้เรามาพักที่นี่ 2 คืนนะคะ จองตรงทางโรงแรมเลยเพราะมีโปรเด็ดให้เลือกเยอะแยะ ของเรารอบนี้จองห้องไทพ์เริ่มต้นเป็น Avani Garden View แต่ได้อัพเกรดห้องเพราะรวมในโปร กลายเป็นห้อง Avani Sea View มองเห็นวิวทะเลเต็มตา รวมอาหารเช้า+เครดิตห้องอาหารอีก 500 บาท ทั้งหมดรวมราคาออกมา 4400 บาท เฉลี่ยคืนละ 2200 บาทสุทธิ ได้อัพเกรดกับเครดิตอาหารอีก ราคานี้กับโรงแรมห้าดาวเครือใหญ่ได้มาตรฐาน ถือว่าไม่ได้เห็นบ่อยๆ เลยไม่ลังเลในการจองเลยค่ะ

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด


AVANI Pattaya Resort เป็นโรงแรมในเครือ Minor ตั้งอยู่ระหว่างถนนเลียบหาดและพัทยาสายสอง
ทำเลใจกลางเมืองพัทยา สามารถเดินเข้าได้จากทั้งทางหน้าหาด และรถยนต์เข้าทางถนนพัทยาสายสองค่ะ

ความสะดวกสบายของอวานีพัทยาไม่ได้มีดีแค่ติดชายหาด แต่รีสอร์ทเค้ายังติดห้างอีกด้วย
ติดขนาดใช้ผนังเดียวกันก็ได้ว่าค่ะ เพราะฉะนั้นในล็อบบี้จะมีทางเดินเชื่อมระหว่างโรงแรมกับห้างดัง
Royal Garden Plaza หรือห้างที่มี Ripley’s Believe It or Not ตั้งอยู่นั่นเอง แม้ว่าในห้างจะไม่ได้คึกคัก
แต่ก็มีร้านอาหารดังๆ ให้เลือกพอสมควร ตอนเที่ยงเรายังเดินมาซื้อของกินขึ้นไปกินบนห้องพักเลย สะดวกค่ะ

ทรงตึกของที่นี่อาจจะดูดีไซน์เก่าไปสักหน่อย เนื่องจากเดิมที ตรงนี้เคยเป็นโรงแรม Marriott พัทยามาก่อนค่ะ
แต่เค้าบำรุงรักษาดี ห้องพักก็รีโนเวทมาให้ดูสวยใหม่ ตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก เราไม่รู้สึกว่าเป็นโรงแรมที่สร้างมานานเลย

วนรถเข้ามาจอดหน้าล็อบบี้เพื่อนำกระเป๋าต่างๆ ลงได้เลยค่ะ ทันทีที่จอดรถปุ๊ป พี่ๆ Concierge ก็มาต้อนรับปั๊ป

ก่อนเข้าโรงแรมก็จะมีการวัดอุณหภูมิ เซ็นชื่อและลงเบอร์ติดต่อตามนโยบายไทยชนะด้วยค่ะ

ฟรอนต์เดสก์จะอยู่ด้านซ้ายมือทันทีที่เดินเข้ามาเลยค่ะ พนักงานมีการป้องกันอย่างดี ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย
มีแบริเออร์กันระหว่างพนักงานและลูกค้า ปากกาที่ให้เราเซ็นใบต่างๆ ก็ถูกใส่ในกล่องและเขียนว่าฆ่าเชื้อแล้ว

ล็อบบี้ค่อนข้างกว้าง เป็นแบบเปิดโอเพ่นแอร์ ตกแต่งสไตล์ไทยๆ สวยงามดีค่ะ

เพดานต่ำไม่หน่อยแต่ด้วยความที่กว้างและเปิดโล่งทั้งหมด เลยไม่รู้สึกอึดอัดเลย

ด้านหลังล็อบบี้เป็นห้องอาหาร ชื่อ Elephant Bar จะเน้นเมนูพวกค็อกเทลและสแน็คต่างๆ

เดินไปอีกนิดจะเจอ The Pantry เป็นโซนขายของกินและเครื่องดื่มง่ายๆ ค่ะ ออกแนวคอฟฟี่ช็อปหน่อยๆ

ด้านซ้ายสุดของล็อบบี้จะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังห้าง Royal Garden Plaza ได้ค่ะ

เช็คอินเรียบร้อย มาดูห้องกันนะคะ เราได้ห้องพักที่ชั้น 9

Avani Sea View ผังห้องจะเหมือนกับไทพ์ Garden View ทุกอย่างเลย ต่างกันแค่ความสูงของห้องและวิวเท่านั้นเองค่ะ

เตียงนอนและหมอนนุ่มสบาย

โต๊ะทำงานและเก้าอี้ทำงานขนาดใหญ่ ใครเอางานไปทำนี่ไม่ต้องกลัวหลังขดหลังแข็ง หรือเก้าอี้จะปวดหลังเลย นั่งสบายมากก

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องมีครบครัน ผ้าคลุมอาบน้ำ เตารีด นาฬิกาปลุก ตู้เซฟและไดร์เป่าผม

มินิบาร์ กาน้ำร้อน น้ำเปล่าฟรีวันละสองขวด ชา กาแฟมีให้เลือกเยอะอยู่นะคะ

ตู้เย็นที่นี่ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีช่องฟรีซให้ด้วย แช่น้ำแข็งได้ทั้งถุงเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนติดน้ำแข็งแบบเรามาก

มุมห้องจะมีเก้าอี้นั่งเล่นขนาดใหญ่ นั่งชิลอ่านหนังสือ จิบชายามบ่ายตรงนี้ก็ได้

ชอบดีเทลความน่ารักของที่แขวนหน้าห้องที่นี่มาก ปกติจะเจอแต่แบบป้ายธรรมดาเนอะ อันนี้เป็นถุง ด้านในเป็นอโรมาหอมๆ

ห้องน้ำของรูมไทพ์นี้เค้าจะมีหลายแบบค่ะ บางห้องก็ไม่มีอ่าง จะเป็นฝักบัวเลย แต่เราได้ห้องมีอ่าง
ซึ่งจะลำบากหน่อยตรงที่อ่างและส่วนฝักบัวไม่ได้แยกส่วนมาให้ น่าจะมาจากผังของโรงแรมเดิม
ทำให้เวลาจะอาบน้ำแบบไม่แช่อ่าง ต้องปีนเข้าออกหน่อยนึง สำหรับบางคนอาจไม่สะดวกค่ะ
เช่นผู้สูงอายุเป็นต้น เพราะฉะนั้นตอนเช็คอินอาจต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้สเรื่องห้องน้ำค่ะ นอกนั้นดีหมด
ระบบน้ำอุ่นเสถียร ใช้งานได้ดี แรงดันน้ำดีทั้งฝักบัว อ่างอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ ไม่มีปัญหาใดๆ

อ่างล้างหน้าเล็กไปนิด แต่ก็ทำให้พื้นที่วางของมีเพิ่มมากขึ้นค่า

Amenities ต่างๆ

วาร์ปมาที่ระเบียงกันบ้าง มีเก้าอี้ให้นอนดูวิวทะเลชิลๆ กันที่ระเบียงนี่แหละ

วิวจากระเบียงห้องพัก มองเห็นทะเลพัทยาไกลสุดตาเลย

ยิ่งสูงลมยิ่งดี ยิ่งช่วงเย็นออกไปนั่งดูวิว ไม่ร้อนเลยค่ะ

พามากินอาหารเช้ากันจ้า เราพักสองวัน สถานที่กินอาหารเช้าต่างกันหน่อยนึง วันแรกกินอาหารเช้าที่ Elephant Bar
ส่วนวันที่สองมากินที่ห้องอาหาร Garden Cafe ค่ะ ซึ่งรูปในส่วนของอาหารเช้าจะขอลงรวบทั้งสองวันเลยนะคะ

บรรยากาศในส่วนของห้องอาหาร Garden Cafe จะมีทั้งนั่งด้านในห้องอาหาร หรือเลือกนั่งด้านนอกก็ได้ค่ะ

ตอนเราไปแขกเข้าพักไม่เยอะมาก อาหารหลักบางอย่างจะต้องสั่งตามเมนู สั่งเท่าไหร่ก็ได้จนกว่าจะอิ่มเลย
ถ้าไปวันหยุดหรือสุดสัปดาห์ ทางโรงแรมถึงจะเปิดไลน์บุฟเฟ่ต์แบบเต็มรูปแบบค่ะ ถ้าวันธรรมดาก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ
(ราคาในเมนูสำหรับแขกที่เข้าพักแบบไม่รวมอาหารเช้า ถ้าจองแบบรวมอาหารแล้วไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ)

เดินสำรวจไลน์อาหารที่สามารถตักเองได้กันค่า

เครื่องดื่ม สลัด ขนมปังต่างๆ

ไส้กรอกที่นี่อร่อยมาก อย่าพลาดเชียว

สเตชั่นไข่ยังมีค่ะ สามารถสั่งไข่ดาว ไข่คน ออมเล็ตง่ายๆ ได้ที่เชฟเลย

แฮชบราวน์ตักเองได้ ข้าวต้มกุ้งสั่งมาค่ะ รสชาติกลางๆ ปรุงเพิ่มเองให้รสจัดหน่อยก็อร่อยแล้ว

เมนู Egg Benedict ที่ไม่ได้หากินได้ทุกโรงแรม เจอที่ไหนแฟนสั่งตลอด ที่นี่ทำได้ถูกใจ มัฟฟินและซอสฮอลลันเดสก็อร่อยมาก

ผัดซีอิ๊วแบบไทยๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน เดี๋ยวนี้เราติดกินอาหารไทยในมื้อเช้าโรงแรมมากเลย ต้องกินทุกที

ปิดท้ายมื้อเช้าด้วยวาฟเฟิลและผลไม้ฉ่ำๆ ราดน้ำผึ้งหรือไซรัป วาฟเฟิลที่นี่แป้งนุ่มหนึบมาก
ตอนแรกอิ่มมากแล้ว แต่พอได้กินวาฟเฟิลเข้าไป สุดท้ายหมดจานไม่รู้ตัวจริงๆ ค่ะ

ข้างห้องอาหาร Garden Cafe เป็นสวนผักของโรงแรมด้วยนะ มีปลูกผักและสมุนไพรหลายอย่างเลยค่ะ

กินอิ่มแล้ว ไปเดินสำรวจรอบโรงแรมให้ย่อยกันเลยดีกว่า บอกเลยว่าที่นี่มีที่ให้เดินดูนั่นนี่ไม่เบื่อเลย
จากมื้อเช้าจุกๆ กะมาเดินย่อยออกกำลังให้เสียเหงื่อสักนิดพอกรุบกริบ สรุปเสียเหงื่อหนักกว่าไปฟิตเนสอีกนะ

ลงบันไดมาจากล็อบบี้ จะเจอทางแบบนี้ ตรงกลางคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
จะเดินไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้เพราะทางเป็นวงกลมค่ะ

วันที่ถ่ายรูปแดดดีมากๆ แถมเป็นช่วงใกล้เที่ยง เดินไปหน้าเกือบมืดไป แต่ข้อดีคือรูปออกมาแสงสวย

สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่และมีหลายระดับมาก ลึกสุดอยู่ที่ 3 เมตรเลยค่ะ ใครมีเด็กเล็กหรือว่ายน้ำไม่เป็นต้องระวังด้วยนะ

จะมีกั้นสระเด็กไว้สำหรับเด็กเล็กด้วย ตรงสระเด็กก็จะมีสไลเดอร์ให้เล่นพอสนุกได้

ตรงนี้เป็นบาร์ริมสระ ชื่อ MANAO BAR สามารถสั่งเครื่องดื่มมานั่งดื่มชิลๆ ในน้ำก็ได้นะ

มีโต๊ะปิงปองให้เล่นด้วยนะคะ ไม้พร้อม ลูกปิงปองก็พร้อม

เดินถัดมาจากสระว่ายน้ำ จะเจอห้องอาหาร Sala Rim Nam (ศาลาริมน้ำ) ตอนเราเข้าพักห้องอาหารนี้ไม่เปิดค่ะ
ด้วยความที่แขกน้อย ต่างชาติไม่มีด้วยแหละ แต่เป็นห้องอาหารไทยที่สวยงาม น่ามานั่งทานมื้อค่ำมากเลย

บรรยากาศรอบๆ และทางเดินไปยังหน้าหาดพัทยา จะมีความป่าไม้ ร่มรื่นมาก แม้แดดจะส่องหัว แต่ก็มีร่มเงานะ

เดินมาจนสุดทาง จะเจอทางออกไปยังฝั่งชายหาดแบบนี้เลย แค่เดินออกประตูโรงแรมไป ก็เจอถนนเลียบหาดแล้ว

เดินออกมาก็จะเจอทางขึ้นไปยังห้องอาหาร Benihana ที่เราเคยรีวิวซูชิโรลไปเมื่อครั้งก่อน ไปอ่านได้นะคะ คลิกเลย

ซึ่งห้องอาหาร Benihana สามารถเดินทะลุเข้าห้าง Royal Garden Plaza ได้เช่นกันค่ะ
ถ้าไม่อยากเดินกลับล็อบบี้แบบร้อนๆ เราก็เดินเข้าห้างทางนี้ได้เลย และไปโผล่ที่ทางเชื่อมด้านใน

แว๊บมาดูสปากันหน่อย ที่นี่สปาอยู่ชั้นใต้ดินนะคะ เดินลงมาก็ได้ หรือลงลิฟต์ก็ได้

มีป้ายบอกโปรโมชั่นสปาอยู่ ใครสนใจสามารถมาใช้บริการได้น้า มานวดตัวแบบคู่มีลดราคาด้วยล่ะ

มีจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปาด้วย

ที่นี่มีสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ด้วยนะคะ เผื่อใครใข้รถยนต์ไฟฟ้า

วิวชั้น 9 จากอีกฝั่งของตึก มุมนี้มองเห็นพระอาทิตย์ตกชัดและสวยกว่าฝั่งห้องที่เราพักค่ะ มายืนดูตอนค่ำๆ ชิลมาก

โดยรวมประทับใจบริการที่นี่มาก ห้องพักก็สะดวกสบาย นอนหลับเต็มอิ่มทั้งสองคืน แอร์เย็น น้ำไหลแรง
เตียงนุ่ม หมอนดีไม่ปวดคอ อาหารเช้าก็จัดเต็ม ขนาดไม่ใช่ไลน์บุฟเฟ่ต์เต็มของเค้านะ ยังดีขนาดนี้
ถ้ามาช่วงแขกเยอะหน่อยแล้วได้ตักเอง น่าจะหลากหลายขึ้นอีกค่ะ พนักงานน่ารักทุกคนตั้งแต่รปภ.ยันแม่บ้าน

เป็นตัวเลือกที่ดีในการมาพัทยาครั้งหน้า ปกติเราไม่ชอบพักตัวเมืองพัทยา เพราะวุ่นวายไปหน่อย
แต่ที่นี่พอเข้ามาในส่วนโรงแรม เหมือนหลุดไปอีกที่ มันสงบ เงียบ ไม่พลุกพล่านเลยค่ะ ไม่บอกไม่รู้ว่าอยู่กลางพัทยา
ยิ่งสระว่ายน้ำช่วงเย็น แดดร่มไวเพราะต้นไม้เยอะ แถมมีตึกล้อม ว่ายสนุก เพลิดเพลินมาก สระลึกหลายระดับด้วย
ทำให้ว่ายเล่นได้ไม่เบื่อเลย อาหารก็อร่อย อย่างซูชิที่เราไปกินที่เบนิฮาน่าก็ดีมาก ใครไปพักที่นี่ไม่ควรพลาดค่า

เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.