ทวิงเกิลเบบี้พากินบุฟเฟ่ต์โรงแรมกันอีกแล้ว คราวนี้เรามากันที่โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park ค่ะ พิกัดอยู่ในซอยสุขุมวิท 22 เป็นโรงแรมใหญ่ของแถบนั้นเลย ห้องอาหารที่เป็นบุฟเฟต์ของเขาคือ Goji Kitchen+Bar ค่ะ ตั้งอยู่ชั้นเดียวกับล็อบบี้ มีบุฟเฟ่ต์ทั้งช่วงกลางวันและเย็น ราคาจะแตกต่างกันนะคะ แนะนำให้จองที่นั่งก่อนจะดีที่สุดค่ะ ที่นี่คนแน่นแทบทุกวันไม่เว้นวันธรรมดา
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
ส่วนตัวเราชอบอาหารของที่นี่มากค่ะ เขาเคลมว่าเป็นพรีเมียมบุฟเฟต์ ซึ่งก็พรีเมียมจริงอย่างที่พูด ไลน์อาหารมีให้เลือกเยอะ หลากหลาย รสชาติอร่อย คุณภาพอาหารคือให้เต็มร้อย อาหารทะเลสดและสะอาด มุมของหวานก็มีตัวเลือกที่ไม่จำเจ แตกต่างจากหลายๆ บุฟเฟ่ต์โรงแรมที่เคยไปกินมาค่ะ สำหรับเราเรียกได้ว่าคุณภาพเหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป รอบนี้เรามา Staycation ช่วงปลายปีที่โรงแรมด้วยก็เลยถือโอกาสจองกินบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันด้วยเลยค่ะ
ราคาบุฟเฟ่ต์จริงๆ เขามีเรทที่ต่างกันแล้วแต่วันและเวลาที่เลือกนะคะ สำหรับบุฟเฟ่ต์วันจันทร์-ศุกร์ มื้อกลางวันจะอยู่ที่คนละ 1,189++ (1,399net) แต่จะแอบกระซิบว่าห้องอาหารเขาจัดโปรโมชั่นอยู่บ่อยๆ นะคะสำหรับบุฟเฟ่ต์ช่วงกลางวันในวันธรรมดา แนะนำให้กดไลค์เพจของห้องอาหารไว้ได้เลยค่ะ มีแจ้งอยู่ตลอด fb.com/GojiKitchenAndBar
ส่วนราคาบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นหรือมื้อบรันช์วันอาทิตย์ แนะนำให้เข้าไปเช็คผ่านเว็บไซต์ของห้องอาหารได้เลยจะแน่นอนที่สุดนะคะ เผื่อว่าเขามีอัพเดทข้อมูลแล้วจะได้ไม่ตกหล่น แล้วก็สามารถจองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ www.gojikitchenbangkok.com ได้เลยด้วย
ห้องอาหาร Goji Kitchen + Bar ตั้งอยู่ที่โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park ค่ะ ชั้นเดียวกับล็อบบี้และแผนกฟรอนท์เดสก์เลย
เข้ามาถึงก็แจ้งกับพนักงานได้เลยว่าจองมาแล้วค่ะ ถ้าวอล์คอินอาจจะต้องเสี่ยงได้ที่นั่งไกลออกมาหน่อยนะคะ แนะนำให้จองไปดีกว่าค่ะ อย่างเราก็ขอเป็นโต๊ะติดหน้าต่างไป ทางห้องอาหารก็จัดให้ตามคำขอ
ห้องอาหารมีขนาดกว้างขวาง โต๊ะที่นั่งหลากหลาย เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อน ได้หมดเลยค่ะ บรรยากาศสบายๆ ไม่เป็นทางการจนเกินไป สามารถแต่งตัวสไตล์ Casual มาได้เลยไม่มีปัญหา
โต๊ะสำหรับหกที่นั่งที่อยู่ตามซุ้มแบบนี้ก็ดูเป็นส่วนตัวดีค่ะ ใครมาเป็นกลุ่ม 5-6 คนก็ขอโต๊ะแบบนี้ได้เลย
มาเริ่มสำรวจไลน์อาหารกันว่าบุฟเฟต์กลางวันของที่นี่มีอะไรให้เรากินบ้าง เริ่มที่ข้าวหน้าเป็ดเลย สับเป็ดต่อหน้าจานต่อจานค่ะ ชอบเนื้อหนังก็สั่งได้ตามใจ
ติ่มซำนึ่งร้อนๆ ในเข่ง ตอนเราไปคนหยิบฮะเก๋าไปหมด แต่ไม่นานก็มาเติมนะคะ ที่นี่เติมของเร็ว ไม่หงุดหงิดแน่นอน
มาดูหอยนางรมกัน ที่นี่เขาจะมีสเตชั่นหอยนางรมแยกต่างหากไปเลยค่ะ เพราะมีให้เลือกถึง 3 สายพันธุ์เลย
ส่วนตัวแล้วกินไปกินมาชอบสายพันธุ์ระยองที่สุดเลยล่ะ 55555
มุมซาชิมิหรือปลาดิบค่ะ ตรงนี้เราบอกได้เลยว่าต้องการกี่ชิ้น ต้องการปลาชนิดไหนบ้าง
ตัวเลือกมีแซลมอน ฮามาจิ และทูน่าแบบอากามิค่ะ
สำหรับเราต้องฮามาจิ+แซลมอนเท่านั้น และซ้ำฮามาจิล้วนไปหลายจานเลย 555555 ของโปรด
มุมซูชิหน้าต่างๆ ที่เราไม่ได้แตะเลย เน้นปลาดิบไม่เน้นข้าวค่ะ เดี๋ยวจุก
มุมซีฟู้ดออนไอซ์ของที่นี่เราจะต้องเลือกและให้พนักงานเป็นคนตักใส่จานให้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหลังจากมีโควิดเลยใช้มาตรการนี้มั้ย ก่อนหน้านี้น่าจะให้ตักเองนะถ้าจำไม่ผิด อาหารทะเลมีให้เลือก 5 ชนิดเลย
พอมีกระจกกั้นแบบนี้เลยทำให้ถ่ายรูปอาหารไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แอบเสียดายเหมือนกัน แต่มาตรฐานความสะอาดต้องมาก่อนเนอะ อันนี้เป็นกุ้งขาวจากไทยกับขาปูยักษ์จากชิลี
หอยหวานก็มีค่ะ สด หวาน อร่อย
ปูม้าจากไทยแลนด์และหอยแมลงภู่สีน้ำเงินจากออสเตรเลีย แต่ละป้ายจะมีบอกที่มาของอาหารทะเลนั้นๆ ด้วยค่ะ
ตรงนี้เป็นสเตชั่นโคลด์คัทส์ต่างๆ
สลัดบาร์เลือกได้ตามใจชอบเลย มีทั้งผักสด ผักนึ่งสุก น้ำสลัดหลากหลาย
สเตชั่นอาหารร้อนพวกนี้เราต้องให้เชฟตักให้ทั้งหมดค่ะ ส่วนตัวคิดว่าสะอาดปลอดภัยดี แต่ลำบากหน่อยตรงที่ไม่สามารถกะปริมาณได้ จะสั่งลดสั่งเพิ่มบางทีก็เกรงใจ พาสต้าคาโบนาราของที่นี่อร่อยมาก ก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็เด็ด ห้ามพลาดเลยนะคะก๋วยเตี๋ยวเนื้อ น้ำซุปคือสุดจัดปลัดบอก!
ส้มตำเป็นแบบตำไว้แล้วค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้แบบตำสดๆ ใหม่ๆ หรืออยากได้รสชาติเผ็ดมากน้อยแค่ไหนสามารถสั่งเชฟให้ทำตามใจเราได้เลยนะ
ไก่ย่างมาทั้งชิ้นส่วนสะโพกแบบนี้เลยค่ะ ข้างๆ เป็นคอหมูย่างด้วยนะ
ตรงนี้เรียกได้ว่าเป็นสเตชั่นยอดฮิตเลยก็ว่าได้ มีคนต่อแถวรออาหารตลอด ฟัวกราส์นาบกระทะร้อนๆ หอมๆ นั่นเอง ใครชอบตับห่านถูกใจสิ่งนี้แน่นอน กินได้ไม่อั้นเลย
ในจานจะเสิร์ฟตับห่านชิ้นใหญ่ๆ พร้อมกับขนมปังและซอสสองแบบ จะมีซอสเบอร์รี่ตัดเลี่ยนได้ดีเลยค่ะ
ไลน์อาหารร้อนอื่นๆ ค่ะ ลองชิมไม่หมด เยอะมาก แต่อันที่เป็นซีฟู้ดซอสครีมอร่อยมากกกก เราว่ารสมือเชฟอาหารเวสเทิร์นที่นี่ไว้ใจได้เลย ลองแล้วอร่อยเกือบทุกอย่าง ที่เป็นปลาอบทั้งตัวก็ทำดีมาก เนื้อปลาชุ่มฉ่ำสุดๆ
(ขออภัยที่แสงในรูปแปลกๆ ไปหน่อยนะคะ แสงจริงมันมืดและเหลืองมากๆ ปรับแล้วได้เท่านี้จริงๆ)
โซนอาหารอินเดียก็มีค่ะ แต่เราไม่ใช่สายนี้เลยไม่ได้ชิมน้า
มาถึงโซนโปรดของเราอย่างพวกของย่างกันบ้าง หมูกรอบของที่นี่หนังกรอบกร๊วบๆ เนื้อนุ่ม จิ้มกับซีอิ๊วหวานคือดีย์
สายเนื้อก็ต้องวากิวย่างค่ะ บอกเลยว่าเราเทียวตักเพิ่มไปห้าหกจาน กินจนจุกเลย 555 แต่เขาย่างเนื้ออร่อยมาก ปรุงรสกำลังดี ส่วนเราชอบกินเนื้อระดับแรร์-มีเดียมแรร์ ซึ่งเชฟเขาย่างมาประมาณนั้นเลย อร่อย ไม่เหนียว ละลายในปาก พูดแล้วก็อยากกินอีก
เนื้อวากิวย่างกินคู่กับกระเทียมย่างและซอสไวน์แดง สิบจานก็ยังไหว
มุมอาหารไทยค่ะ สามชั้นทอดกินตอนร้อนๆ ดีเลยแหละ แต่ถ้าเจอรอบที่ทอดทิ้งไว้ก็จะไม่ค่อยเวิร์คนะคะ ของทอดก็งี้เนอะ
กุ้งผัดพริกเผารึเปล่านะ ไม่แน่ใจ พอดีอันนี้ลืมถ่ายป้ายมาค่ะ
สเตชั่นต้มยำ ทำกันชามต่อชามเลย แนะนำให้สั่งนะคะ รสชาติคนไทยกินไม่ผิดหวังแน่นอน
สำหรับรสชาติน้ำซุปส่วนหนึ่งเขาจะปรุงมาแล้วค่ะ แต่ถ้าใครชอบเปรี้ยว หวาน เผ็ด เพิ่มตรงไหนก็ให้เชฟเขาปรุงเพิ่มได้เลย
อร่อยแซ่บสะใจมาก กุ้งสด เด้ง หวาน ตัวใหญ่ ตอนแรกสั่งมากินกะตัดเลี่ยนพวกเนื้อย่าง สรุปอร่อยจนต้องซ้ำถ้วยสองค่ะ
ตรงสเตชั่นไก่ย่าง คอหมูย่าง เขามีปลาหมึกกล้วยย่างด้วยนะ ตัวโตๆ เลยค่ะ
สั่งได้เลยอยากกินอะไร จะไก่ จะหมู จะหมึก มีครบค่า
มาส่องไลน์ของหวานกันบ้าง พวกนี้จะเป็นขนมไทยนะคะ วุ้นมะพร้าว ทองหยิบ ทองหยอด
ชอบที่ที่นี่มีบ้าบิ่นด้วย ไม่ค่อยเจอในบุฟเฟ่ต์โรงแรมที่ไหนเลยค่ะ
เค้กและขนมอบต่างๆ ช็อกโกแลต นามะช็อกโกแลตก็มี
คุกกี้ผีเสื้อของโปรดเราตอนเด็กๆ กินได้ไม่อั้นเลย ใครชอบแม็คคาเดเมีย แนะนำเค้กด้านหลังที่เป็นชีสเค้กค่ะ อร่อยแสงออกปาก
ไอศกรีมมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ท็อปปิงตักเองได้ตามชอบเลย
ผลไม้สดและโซนน้ำแข็งไสแบบไทยๆ มีเครื่องให้เลือกแน่นมากค่ะ น้ำเชื่อม น้ำเขียว น้ำแดง นมข้น มาครบ
ใครสายน้ำขิงเจองี้น่าจะถูกใจค่ะ กินของคาวมาแน่นๆ ตบท้ายด้วยบังลอยน้ำขิงร้อนๆ สักถ้วย แต่ส่วนตัวเราไม่กินน้ำขิงนะคะ กลิ่นแรงมากกินไม่ไหว
ตบท้ายมื้อด้วยข้าวเหนียวมะม่วงได้เลยค่ะถ้าใครยังไหว เราไปทีไรก็ไม่ได้กินเพราะอิ่มอย่างอื่นก่อนตลอด เสียดายทุกครั้งและคิดว่ารอบหน้าต้องกินให้ได้ สุดท้ายก็ยัดไม่ไหวอยู่ดี 55555555
จริงๆ ไลน์อาหารที่เราถ่ายมาอาจจะยังไม่ละเอียดมากเท่าไหร่ ด้วยความที่ทางโรงแรมมีฉากพลาสติกใสกั้นด้วยค่ะเลยทำให้บางอย่างไม่สามารถถ่ายมาชัดๆ ได้จริงๆ ก็เลยพยายามถ่ายมาเท่าที่ได้ แล้วก็เน้นเขียนบรรยายแนะนำแทนเนอะว่าเราชอบอะไร กินอะไรบ้าง บางอย่างก็ไม่ได้ลองชิมค่ะเพราะตัวเลือกเขาเยอะมากจริงๆ ถ้ากินทุกอย่างมีหวังได้กลิ้งออกจากโรงแรมแน่นอน
ส่วนตัวกับที่นี่เราโอเคกับไลน์อาหาร ราคา คุณภาพ และรสชาติค่ะ เป็นที่ที่เลือกกลับมากินเรื่อยๆ ตามโอกาสพิเศษบ้าง ตามความอยากส่วนตัวบ้าง การบริการจากพนักงานและเชฟทุกคนดีสมกับเป็นโรงแรมห้าดาว เคยไปกินมื้อค่ำแล้วพนักงานเดินเอาชาคาโมมายล์ร้อนมาให้ด้วยค่ะ บอกว่ากินแล้วจะทำให้นอนหลับสบาย ตอนนั้นประทับใจมากเลย รู้สึกว่าเขาเอาใจใส่ลูกค้าดีจัง สำหรับใครที่มองหาบุฟเฟ่ต์โรงแรมคุณภาพเลิศอยู่ เราแนะนำที่นี่นะ เทียบกับราคาเริ่มต้นที่พันนิดๆ (มื้อเที่ยงวันธรรมดา) นั่งกินสบายๆ ได้ตามเวลาเปิด-ปิดของห้องอาหารในช่วงนั้นๆ ไม่ต้องคอยรีบเร่งกลัวว่าจะหมดเวลาแล้วโดนปรับด้วย ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ
ห้องอาหาร Goji Kitchen + Bar @ Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park
ที่อยู่: 199 สุขุมวิท ซอย 22 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร, 10110
เบอร์โทรศัพท์: 02-059-5999
เวลาเปิด-ปิด: มื้อเช้า 06.00 – 10.30 น. / มื้อกลางวัน 12.00 -14.30 น. / มื้อเย็น 17.30 – 22.00 น.
พิกัด Google Maps: goo.gl/maps/zQPGBbs5J8Zx5CoA9
จองคิวผ่านเว็บไซต์: gojikitchenbangkok.com/th/
Facebook: fb.com/GojiKitchenAndBar
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.