สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำและรีวิวโรงแรมที่พักที่ประเทศสุดฮิตของคนไทยอย่าง ‘ฮ่องกง’ กันค่ะ
ฮ่องกงเป็นอีกประเทศที่เราเดินทางไปพักผ่อนบ่อยพอๆ กับเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยความที่ฟรีวีซ่า
แล้วก็มี Disney Land ทำให้ดิสนีย์แฟนอย่างเราเอะอะก็อยากไปฮ่องกง เพราะจะได้กลับไปสวนสนุก
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังเลยก็ว่าได้สำหรับดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง 55555 แต่ถึงไม่มีธีมพาร์คเนี่ย
ประเทศนี้ก็เหมือนเป็นประเทศอันเป็นที่รักของคนไทยหลายๆ คนเลย เพราะเดินทางไม่นานมาก อาหารอร่อยถูกปาก
บรรยากาศดี เที่ยวสนุกได้ทั้งครอบครัว ทั้งกลุ่มเพื่อน หรือคู่รัก เราว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่อื่นเลย
วันนี้ก็เลยถือโอกาสมารีวิวที่พักอีกที่ ที่เรามีโอกาสได้ไปพักมา และค่อนข้างชอบทีเดียว
เป็นครั้งแรกที่เราได้พักฝั่งฮ่องกง ปกติไปทีไร นอนฝั่งเกาลูนตลอดค่ะ รอบนี้ได้นอนฝั่งฮ่องกง เริ่มติดใจ
คิดว่าคราวหน้าก็คงพักที่นี่อีกแหงๆ รู้สึกว่าฝั่งฮ่องกงเงียบสงบและเป็นย่านอยู่อาศัยจริงๆ มากกว่าฝั่งเกาลูน
ส่วนตัวเลยจะชอบบรรยากาศโดยรอบมากกว่าค่ะ มันไม่วุ่นวายหรือพลุกพล่านดีอ่ะ
โรงแรม Grand City Hotel ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี MTR Sai Ying Pun ค่ะ เดินทางสะดวกมาก
เวลาเดินไปสถานี MTR แนะนำให้เดินออกทางซอยเล็กๆ ข้างโรงแรมแล้วลัดบันไดขึ้นไปค่ะ
พอออกจากซอย ข้ามถนนเดินต่อนิดเดียวก็เจอสถานีเลย สะดวกสุดๆ เดินใกล้มากค่ะ
โรงแรมนี้อยู่ในเครือของ Best Western มาตรฐานการบริการต่างๆ ถือว่าดีงามในราคาที่ไม่แพงเกิน
เราจองได้คืนละ 1,5xx ในช่วงปกติวันธรรมดา ไม่ติดวันหยุดหรือช่วงเทศกาล (ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า)
ถือว่าราคาดีมากๆ สำหรับโรงแรมที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ไว้ใจได้ ที่สำคัญใกล้รถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน
ซึ่งถือเป็นสายที่เดินทางสะดวก เพราะสามารถนั่งไป Causeway Bay / Central / Wan Chai / Kennedy Town
โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ หรือถ้าอยากข้ามฝั่งก็แค่นั่งไปลงสถานี Central แล้วเปลี่ยนไปสายสีแดงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ในส่วนของห้องพักและการบริการ เดี๋ยวจะเขียนไปพร้อมบรรยายรูปประกอบไปด้วยนะคะ ไปอ่านรีวิวกันเลยค่า
การเดินทางมายังโรงแรม Grand City Hotel จากสนามบินนานาชาติฮ่องกงมีดังนี้
เดินทางด้วย City Bus สาย A12 ลงป้ายที่ 5 Water Street แล้วเดินต่อประมาณ 250 เมตร
เดินทางด้วย Airport Express ลงสถานี Central แล้วต่อ MTR มาลงสถานี Sai Ying Pun ทางออก B1 (มีลิฟต์)
เดินทางด้วย Taxi หรือ Uber จ่ายค่าโดยสารตามระยะทาง
ล็อบบี้จะอยู่ที่ชั้น 3 ค่ะ ให้เดินเข้าตึกและขึ้นลิฟต์มาก่อน ลิฟต์จะบังคับให้มาโผล่ที่ล็อบบี้อยู่แล้ว
บริเวณข้างล็อบบี้จะเป็นห้องอาหาร สำหรับอาหารเช้าก็จะต้องมาทานตรงนี้ค่ะ
ถัดมาจะมีโต๊ะมากขึ้นหน่อย ไว้รองรับแขก แต่เดาว่าถ้าเต็มทุกห้อง ที่นั่งน่าจะไม่เพียงพอนะคะ
เพราะที่เล็กตามสไตล์ฮ่องกง 5555 พนักงานที่รีเซบชั่นพูดจาดี สุภาพ ภาษาอังกฤษดี สื่อสารเข้าใจ ยิ้มแย้ม
เท่านี้ก็ถือว่าได้ First Impression ไปแล้วค่ะ เพราะเวลาเที่ยวต่างประเทศเนี่ย
ไม่ค่อยได้เจอพนักงานหรือได้รับการบริการเท่าไหร่หรอกค่ะ มีห้องพักไว้นอนอย่างเดียว
เมนูเครื่องดื่มและอาหารที่มีให้บริการระหว่างวัน ครัวเปิดถึงแค่ 4 โมงเย็นเท่านั้น
หลังจากเช็คอิน ได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อย มีค่า Deposit ตามระเบียบโรงแรมฮ่องกง 500HKD ค่ะ
ที่นี่ให้คีย์การ์ดสองใบโดยไม่ต้องรีเควสท์เลย เราได้พักชั้นที่ 23 ค่ะ สูงพอสมควรเลย
จองมาเป็นห้อง Type ซูพีเรียร์เตียงดับเบิล ห้องกว้างกว่าที่คิดไว้
ขนาดห้องพักในฮ่องกงส่วนใหญ่ก็ไม่เกินกว่านี้เท่าไหร่ค่ะ
ถ้าอยากได้ห้องกว้างมากๆ ในราคาประมาณนี้ ต้องนอนไกลเมืองหน่อย
ถ้าในเมืองหรือติดรถไฟ ยิ่งห้องกว้างก็ยิ่งแพงค่ะ
มีเคาท์เตอร์เล็กๆ ให้พอวางโน้ตบุ้คทำงานได้ มีเก้าอี้ให้ ทีวีเป็นสมาร์ททีวี สามารถดูยูทูบได้ค่ะ สะดวกดี
อีกฝั่งของเตียงจะมีกระจกให้ค่ะ น่าจะไว้ทดแทนในห้องน้ำ เพราะที่นี่อ่างล้างมืออยู่ด้านนอกห้องน้ำ
ถึงจะเล็กไปหน่อย แต่ของใช้ Amenities ครบนะคะ มีแปรงสีฟัน สบู่ล้างมือ หมวกคลุมอาบน้ำ ฯลฯ
อ่างจะอยู่ด้านนอกค่ะ แต่ก็โอเคนะ ไม่มีปัญหาในการใช้งานอะไร
ตู้เสื้อผ้าบิลด์อิน ใส่ได้เยอะพอสมควร แต่ข้อเสียหลักของที่นี่คือห้องน้ำไม่มีประตู
มีแต่ผ้าม่านนะคะ ล็อคไม่ได้ค่ะ แต่ว่าระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ จะมีประตูเลื่อนบานนึงอยู่แล้ว
เราสามารถปิดประตูเลื่อนไปก่อนชั้นนึงได้ ถ้าให้แนะนำ หากไปกับเพื่อนหรือครอบครัว
ญาติที่ไม่ได้สนิทใจกัน อาจจะต้องข้ามโรงแรมนี้ค่ะด้วยเรื่องของประตูห้องน้ำ
ชั้นวางรองเท้าอยู่ด้านล่างของตู้เสื้อผ้า
ในตู้เย็นมีเครื่องดื่มไว้ให้ ค่าบริการก็แพงกว่าร้านสะดวกซื้อตามปกติของโรงแรม
มินิบาร์ มีฟรีน้ำเปล่าให้สองขวด ชา กาแฟก็ฟรีค่ะ นอกนั้นก็เสียเงินตามราคา
ห้องน้ำสะอาด ไม่มีกลิ่น แต่ขนาดก็จะแคบๆ สักหน่อยนึงค่ะ
ฝักบัวน้ำแรง น้ำอุ่น น้ำเย็นไม่ค่อยแปรปวน ปรับยังไงได้อย่างนั้น อาบสบายตัวมากค่ะ ประทับใจ
แยกส่วนเปียก-แห้งไม่ได้เลยค่ะ เพราะขอบเตี้ยมาก 55555 แต่เราไม่ซีเรียสนะ
เพราะโอเคกับการที่พื้นเปียกทั้งห้องน้ำ แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบอาจจะลำบากหน่อย
เพราะม่านกั้นไม่ดีเท่าที่ควร สุดท้ายก็เปียกทั้งห้องน้ำอยู่ดีจ้า
ตอนเช้า วิวจากหน้าต่างก็จะประมาณนี้ค่ะ ตึกเยอะไปหน่อย ถ้าตรงกลางไม่มีตึกจะเห็นอ่าววิคตอเรียชัดกว่านี้
แต่ว่าจริงๆ นี่ก็พอเห็นเรือแล่นไปมาทุกเช้าเลยนะ แต่กล้องอาจจะเก็บภาพมาไม่ได้ 55555
อันนี้คือซอยข้างโรงแรมที่บอกไว้นะคะ เวลาจะไป MTR ให้ออกทางนี้ เดินขึ้นบันไดไป
เดินจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอสถานี Sai Ying Pun เยื้องๆ อยู่เลยค่ะ สะดวกสบายมาก
ขากลับก็เดินตามทางเดิมกลับมาลงบันไดแล้วเข้าโรงแรมค่ะ
ถือเป็นว่าอีกโรงแรมที่อยู่ในย่านสงบ ไม่พลุกพล่าน แต่ก็สะดวกสบาย เดินทางง่ายมากๆ
รอบโรงแรมมีร้านอาหาร ร้านติ่มซำ ร้านบะหมี่ มีร้านขายขนม มีซูเปอร์มาร์เก็ทแถวสถานี MTR
ถัดจาก Sai Ying Pun มาแค่สองสถานีก็เป็นย่าน Kennedy Town แถวนั้นร้านรวงเยอะแยะเลย
ทั้ง Sushi Takeout ร้านหมูกรอบเป็ดย่าง Kai Kee แมคโดนัลด์ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ท
ของกินตรึมเลยค่ะ เป็นอีกย่านที่เราชอบบรรยากาศ เหมือนไม่ได้อยู่โซนเอเชียเลยอ่ะ
ถ้าได้กลับไปฮ่องกงรอบหน้า ก็คงเลือกพักแถวนั้นอีกเพราะชอบทั้งแถวโรงแรมและย่าน Kennedy Town เลย
ที่สำคัญจะนั่งไปคอสเวย์เบย์หรือเซนทรัลก็ไม่ไกล สะดวกไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟด้วย แฮปปี้มากค่าาาา
ในเรื่องการบริการ อาจจะไม่ได้ใช้บริการอะไรของโรงแรมเท่าไหร่นัก แต่เท่าที่เจอพนักงานต้อนรับ
แม่บ้าน รปภ. ทุกคนสุภาพและเต็มใจให้บริการดีไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ เราโทรขอตะเกียบตอนห้าทุ่ม (ครัวปิดไปแล้ว)
พนักงานก็ช่วยเหลือเต็มที่ ตอนแรกเค้าบอกไม่มี เป็นส้อมแทนได้มั้ย เราบอกได้ เค้าบอกว่าอีกสิบนาทีให้ลงไปรับที่ล็อบบี้ได้เลย
เราก็เตรียมตัวลงไปละ แต่ก็มีพนักงานมาเคาะห้องแล้วนำตะเกียบมาให้ก่อนค่ะ คือเค้าก็ไปหามาให้เราจนได้
ช่วยเหลือดี มีเซอร์วิสมายด์ค่ะ ตอนเช็คเอาท์แล้วนำกระเป๋าไปฝาก พนักงานฝั่ง Concierge ก็พูดจาดีและสุภาพเช่นกัน
เลยรู้สึกดีตลอดการเข้าพักเลยค่ะ ประทับใจการบริการเลย ราคาก็ไม่แพง คุ้มค่าทุกบาทที่จ่ายไปค่ะ
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.