รีวิว ‘Holiday Inn Bangkok’ โรงแรม 4 ดาวใจกลางกรุงเทพฯ เพียง 3 นาทีจากสถานี BTS ชิดลม

ถ้าถามว่ามีโรงแรมไหนบ้างที่เราจองมาเข้าพักแบบสเตย์เคชั่นมากกว่าหนึ่งครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Holiday Inn Bangkok ติดโผอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ยอมรับเลยค่ะว่าโปรโมชั่นช่วงที่ประเทศล็อคดาวน์เพราะโควิดนั้นคุ้มค่ามากจริงๆ เพราะเราได้สิทธิ์เช็คอิน 9 โมงเช้า และเช็คเอาท์ 5 โมงเย็นด้วย เรียกได้ว่าใช้ห้องได้คุ้มค่าตลอดระยะเวลาการเข้าพักเลย นอกจากนั้นยังได้ส่วนลด 20% ใช้กับห้องอาหารในโรงแรมทุกห้อง (รวมที่ InterCon ด้วย) กับเครดิตแทนเงินสดจำนวน 500 บาทต่อคืนด้วยค่ะ

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด

พอเราได้ลองพักครั้งแรกก็เกิดติดใจค่ะ ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลมแบบที่เดินแค่ 2-3 นาทีก็ถึง (ถ้าเดินช้าหน่อยอาจจะ 5 นาที) สามารถเดินลัดโรงแรมไปออกฝั่งถนนราชประสงค์ได้ด้วย แถมยังมี 7-11 สาขาใหญ่อยู่ใต้ตึกโรงแรมทำให้เวลาต้องการซื้ออะไรจุกจิกก็ไม่ต้องเดินไปไหนไกล ถ้าอยากจะไปหาอะไรกินที่ Central World หรือ BigC ราชประสงค์ก็สามารถเดินไปได้เลย ไม่ต้องต่อรถให้เหนื่อยกับการจราจร ส่วนตัวเราเลยชอบที่นี่มากจนจองกลับมาพักหลังจากนั้นอีก 2 รอบด้วยกันค่ะ ไปถี่จนพนักงานที่ห้องอาหารจำหน้าได้เลย 55555

โดยรีวิวครั้งนี้จะเป็นการรีวิวห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม และอาหารเช้าเช่นเคยค่ะ แต่ต้องบอกก่อนว่าช่วงที่เราไปพักนั้น ทางโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ไม่ได้เปิดห้องอาหารของโรงแรมไว้บริการมื้อเช้า แต่จะให้แขกที่เข้าพักไปกินที่ห้องอาหารของโรงแรม InterContinental Bangkok แทนค่ะ ทำให้ในโพสต์นี้ อาหารเช้าจะเป็นของทางโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัล ไม่ใช่ของทาง Holiday Inn นะคะ

อีกอย่างที่ชอบเลยก็คือร้านอาหาร Beer Republic ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมฮอลิเดย์อินน์นี่แหละ รสชาติอาหารถูกปาก บรรยากาศก็ดี แถมยังใช้เครดิตแทนเงินสด+ส่วนลดอีก 20% ได้ด้วยค่ะ เอาอะไรมาไม่คุ้ม~ สำหรับร้านอาหารเราเคยทำรีวิวไว้แล้วด้วย ใครสนใจ อ่านได้ที่นี่ เลยนะคะ


โรงแรม Holiday Inn Bangkok จะตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต ใกล้กับสถานี BTS ชิดลมแค่ไม่กี่นาทีด้วยการเดิน เป็นโรงแรม 4 ดาวขนาดใหญ่ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ข้างกันเป็นโรงแรม InterContinental Bangkok ซึ่งอยู่ในเครือ IHG เหมือนกัน มีทางเชื่อมระหว่างตึกเดินไปมาหากันได้ระหว่างสองโรงแรมค่ะ

ได้ออกมาถ่ายรูปหน้าโรงแรมช่วงกลางคืนเพราะตอนเช็คอินเรากระเป๋าพะรุงพะรังมาก เลยไม่ได้หยิบกล้องออกมาถ่ายตอนกลางวันเท่าไหร่ 5555

ล็อบบี้ที่นี่ใหญ่และมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากค่ะ มีเก้าอี้ โซฟา ที่นั่งหลากหลายและกระจายอยู่ทั่วเลย

เรามาถึงโรงแรมประมาณ 9 โมงนิดๆ เพื่อเช็คอินตามเวลาที่ได้สิทธิ์ค่ะ ด้วยความที่บ้านไม่ได้ไกลจากแถวชิดลมมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึง (ถ้ารถไม่ติดก็ 10-15 นาที) แต่เราจองเข้าพักวันธรรมดา การจราจรก็จะติดขัดหน่อยตามประสากรุงเทพฯ อ่ะเนอะ 5555

ได้คีย์การ์ดมาแล้วค่ะ จะมีพนักงานที่ Concierge ยกสัมภาระเราตามขึ้นไปให้ ส่วนเราก็ตามพนักงานฟรอนท์ไปยังห้องพักได้เลยแบบตัวปลิว

ห้องพักที่เราจะมารีวิวเป็นไทพ์ Premier Room ค่ะ ได้สิทธิ์อัพเกรดห้องพักจาก Deluxe Room จากโปรที่จองมา (เรามาพักที่นี่ 3 รอบ ได้นอนไทพ์พรีเมียร์ 2 ครั้ง แล้วก็ดีลักซ์ 1 ครั้งค่ะ)

ห้องแบบ Premier Room จะมีขนาดกว้างกว่าแบบ Deluxe Room ค่ะ พื้นที่ใช้สอยมากกว่า เตียงใหญ่กว่า ส่วนตัวเราชอบห้องพักที่นี่มากๆ ทุกอย่างลงตัวและใช้งานได้จริง

เตียงนอนขนาดใหญ่ คิดว่าน่าจะสัก 7 ฟุตได้ กลิ้งสองตลบยังไม่ตกเตียงเลยค่ะ ที่สำคัญคือนอนสบายมาก นุ่มแน่นกำลังดี ตื่นเช้ามาไม่ปวดหลัง แฮปปี้

หมอนมาให้เลือกทั้งแบบ Firm และ Soft เลยนะ เลือกนอนตามใจ สำหรับเราชอบทั้งคู่ค่ะ เอามาเกยกันนอน ลงตัวพอดี ใครที่หมอนไม่พอสามารถโทรขอแล้วแจ้งพนักงานได้เลยค่ะว่าอยากได้หมอนเสริมแบบนุ่มหรือแน่น

โต๊ะข้างเตียง มีโทรศัพท์ นาฬิกา โคมไฟ และสวิตช์ไฟต่างๆ

ทีวีจอใหญ่ มีช่องให้ดูพอประมาณเลย ทั้งหนัง ซีรีส์ รายการวาไรตี้ต่างประเทศ ฯลฯ

โต๊ะสำหรับกินอาหาร ทำงาน นั่งเล่น เอนกประสงค์ค่ะ เวลาเราสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาก็กินตรงนี้แหละ ดูทีวีไปกินไป

มุมนั่งเล่นจะเป็นเก้าอี้และที่วางขาแบบนี้ บอกเลยว่าตรงนี้นั่งสบายมาก เราเอาแล็ปท็อปไปกางเล่น ทำงาน จิบชายามบ่าย แทบไม่อยากลุกออกไปไหนค่ะ สบายยิ่งกว่าอยู่บ้าน

ถัดเข้ามาจากมุมนั่งเล่น จะเป็นมินิบาร์ มีชา-กาแฟ กาต้มน้ำ ตู้เย็นอยู่ในตู้เก็บของ และน้ำเปล่าวันละ 2 ขวดวางไว้ให้ แต่โทรขอเพิ่มก็ไม่มีค่าบริการนะคะ เราขอทั้งน้ำดื่มเพิ่มและน้ำแข็งด้วย มาเป็นถังใหญ่ๆ เลย ฟรีค่ะ

ตู้เสื้อผ้าของที่นี่ใหญ่และเก็บของได้เยอะมาก มีเตารีด ที่รองรีด ไม้แขวนเสื้อ ไฟฉาย สลิปเปอร์ส และตู้เซฟอยู่ด้านใน

มาดูห้องน้ำกันบ้าง สะอาดสะอ้าน ขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่เกิน ตกแต่งเรียบง่าย

Amenities ในห้องน้ำ ให้ครบจัดเต็มแบบนี้ทุกวันค่ะ (เราให้แม่บ้านทำห้องทุกเช้า)

สบู่ แชมพู โลชั่น จะเป็นกลิ่นหอมๆ แนวธรรมชาติ

หันมาด้านหลังจะเป็นห้องอาบน้ำแบบฝักบัวและเรนชาวเวอร์ กับผ้าคลุมอาบน้ำ 2 ผืน

ต่อจากห้องพัก ก็มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมกันนะคะ

ลงลิฟต์มาชั้นพื้นดิน ออกมาด้านนอกตึกก็จะเจอกับสระว่ายน้ำที่อยู่กลางโรงแรมเลย รอบๆ จะมีพื้นที่ให้นั่งเล่น สั่งอาหารมากินริมสระได้

ตัวสระว่ายน้ำจะอยู่กึ่งกลางค่ะ ล้อมรอบด้วยอาคารห้องพัก

สระว่ายน้ำขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ว่ายไป-กลับได้ง่ายเลย

ชอบสระที่อยู่กลางตึกแบบนี้เพราะแดดจะไม่ร้อนเลยค่ะ มีตึกสูงบังแดดให้เกือบทั้งวัน

ไปดูห้องออกกำลังกายกัน ทางลงจะอยู่ในตัวอาคารติดกับสระว่ายน้ำเลย

ถึงจะเป็นฟิตเนสแบบชั้นใต้ดิน แต่เพดานไม่ต่ำมากค่ะ ไม่อึดอัดเท่าไหร่ มีเครื่องเล่นเยอะ พื้นที่กว้างขวาง

มีตู้ล็อคเกอร์ ที่กดน้ำ ผ้าขนหนู และห้องสตรีมไอน้ำให้บริการ

ด้านข้างตรงนี้เป็นพื้นหินกรวดเพื่อสุขภาพ ไว้สำหรับเดินนวดฝ่าเท้าได้ด้วยน้า

มาต่อกันที่โซนล็อบบี้อีกครั้ง ตรงนี้จะเรียกว่า Connexion ค่ะ เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไว้สำหรับนั่งทำงาน พบปะพูดคุยธุระ หรือถ้านัดใครมาหาก็มานัดเจอกันตรงนี้ได้

เก้าอี้นั่งสบาย

มีพื้นที่ให้ใช้คอมพิวเตอร์ได้สำหรับแขกโรงแรม

มีบาร์ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ามีบริการเครื่องดื่มอะไรมั้ยนะคะ เพราะตอนเราไปก็คือเงียบกริบ ไม่มีพนักงานประจำอยู่ 55555

มุมโซฟานุ่มสบายก็มีให้เลือกนั่งค่ะ บอกแล้วว่าโรงแรมนี้พื้นที่ใช้สอยเขาเยอะมากจริง

ถึงเวลารีวิวอาหารเช้า! อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นโพสต์นะคะ ว่าตอนเราไปพัก ทางโรงแรมจัดให้แขกของฮอลิเดย์อินน์ไปกินอาหารเช้ารวมกับแขกที่ InterContinental ที่ห้องอาหาร Espresso ค่ะ โดยเราสามารถเดินผ่านทางเชื่อมระหว่างอาคารไปยังโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัลได้เลย ไม่ต้องไปเข้า-ออกทางประตูหลักให้เสียเวลา

เนื่องจากเราไปพักมาหลายครั้ง ครั้งละหลายคืน ได้ความว่าอาหารเช้าที่นี่จะมีวันที่เป็นแบบบุฟเฟต์เต็มรูปแบบ กับวันที่ต้องสั่งอาหารจานหลักกับพนักงานแบบอลาคาร์ท โดยไลน์บุฟเฟต์จะเปิดแค่อาหารบางชนิด เพราะฉะนั้นในรีวิวเราจะลงรูปในวันที่เป็นบุฟเฟต์แบบเต็มรูปแบบนะคะ และจะมีรูปอาหารแบบอลาคาร์ทรวมมาให้ด้านล่างค่ะ

ด้านในห้องอาหาร มีโต๊ะให้เลือกนั่งเยอะเลยค่ะ

มาเริ่มสำรวจไลน์บุฟเฟต์กัน ติ่มซำมีให้เลือกหลายอย่าง ทั้งขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า คนหยิบกันเยอะจนพนักงานเติมเกือบไม่ทันค่ะ

มุมขนมปัง เบเกอรี่ คุกกี้ และขนมไทย

หน้าตาเบเกอรี่น่ากินทุกอย่างเลย เราชิมไปไม่ครบ แต่เท่าที่กินก็คืออร่อยทั้งหมด หอมเนยชุ่มฉ่ำสุดๆ

แซลมอนเทอริยากิ เห็ดผัด แฮชบราวน์ และเบคบีนส์ จัดแยกให้เป็นชุดๆ แบบนี้หยิบง่ายดีค่ะ

ผัดผักรวม ผัดเผ็ดอะไรสักอย่างไม่แน่ใจ ข้าวผัดกุนเชียง

พวกผลไม้ โยเกิร์ต สลัดผัก แซลมอนรมควัน จะอยู่ในตู้กระจกแบบนี้ เปิดหยิบได้เลยค่ะ

มีโคลด์คัทส์ ชีส มูสลีด้วย

สเตชั่นก๋วยเตี๋ยวจะอยู่ใกล้ๆ กับที่ตักติ่มซำล่ะ สั่งเชฟทำชามต่อชามได้เลยค่ะ อร่อย

มีเส้นและลูกชิ้นให้เลือกเยอะเลย เกี๊ยวหมูก็มีนะ จะให้เป็นเกาเหลาก็ได้เช่นกัน

น้ำผลไม้รวม และผลไม้อื่นๆ อร่อยสดชื่นมากเลยค่ะ

เผลอแป๊บเดียวก็เต็มโต๊ะแบบนี้เลย จะบอกว่าลืมถ่ายสเตชั่นไข่มาค่ะ แต่เราก็สามารถสั่งให้เชฟทำจานต่อจานได้ทั้งออมเล็ท ไข่คน ไข่ดาว เหมือนโรงแรมอื่นๆ เลย

ข้าวต้มรสชาติดี ออมเล็ทกับก๋วยเตี๋ยวก็ด้วย กาแฟสั่งกับพนักงาน ตอนเสิร์ฟมีลาเต้อาร์ทมาด้วยน้า ถ่ายรูปได้สวยๆ

ถ้าเรากินก๋วยเตี๋ยวหรือสั่งพวกอาหารไทยในวันที่เสิร์ฟแบบอลาคาร์ท จะมีพวงพริกแบบนี้มาวางให้ด้วยล่ะค่ะ

ในวันที่ต้องสั่งอาหารจานหลักแบบอลาคาร์ทกับพนักงาน ก็จะมีเมนูที่วันบุฟเฟต์ไม่มีอย่าง Egg Benedict จานนี้ หน้าตาดูดี รสชาติก็ดี จะกินกี่จานก็ได้นะคะ สั่งได้เรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่ม

รวมเมนูในวันที่เราได้กินแบบอลาคาร์ทค่ะ กระเพาะปลาน้ำแดงรสชาติดีมาก สั่งเบิลไปสองรอบ ผัดไทยอร่อยเข้มข้น สลัดคินัวร์แตงโม ข้าวผัดไข่ดาว สลัดแซลมอนรมควัน และวาฟเฟิลกับครีมสด ทั้งหมดนี้เป็นอาหารเช้าจากห้องอาหาร Espresso ของโรงแรม InterContinental ในวันที่แขกเข้าพักน้อยจนไลน์บุฟเฟต์เปิดไม่เต็มค่ะ แต่สำหรับเราคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะพวกขนมปัง เบเกอรี่ ก็ยังตักเองได้ปกติ จานหลักก็สั่งเอาแบบนี้ ง่ายดีค่ะ

อยากแนะนำที่นี่เลยสำหรับใครที่หาโรงแรมในย่านชิดลม ใกล้หลายห้างมากๆ เดินทางไปไหนมาไหนง่ายและสะดวกมากๆ เพราะอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินไปสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลชิดลมได้ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมครบครัน ทั้งห้องอาหาร โซนฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำ พนักงานที่เจอคือทุกคนบริการดี พูดจาดีกันหมดตั้งแต่พนักงานรับกระเป๋ายันแม่บ้าน

ประทับใจหลายอย่างมากๆ ค่ะ ทั้งเรื่องเซอร์วิสมายด์ของพนักงานทุกแผนก มีคืนนึงเราโทรขอให้ครัวนำอาหารที่สั่งมาผิดไปปรุงสุกให้หน่อย (เราดันสั่งมาเป็นอาหารแบบดิบที่ต้องทำให้สุกเอง ไม่ได้กดสั่งแบบพร้อมกิน) ตอนนั้นก็พร้อมจ่ายเงินเพิ่มไม่เกี่ยงอยู่แล้วถ้ามีค่าบริการ แต่สรุปก็คือครัวโรงแรมนำไปปรุงให้ฟรีไม่คิดเงินเลย การบริการคือเต็มร้อยจริงๆ ถึงโรงแรมจะเป็น 4 ดาว แต่เรื่องเซอร์วิสของที่นี่เราว่าถึง 5 ดาวได้เลยในความรู้สึก ถ้ามีโอกาสอีกในอนาคตก็จะกลับไปพักอีกนะคะ เป็นโรงแรมที่ให้ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านทุกรอบเวลากลับไปเช็คอิน เลิฟมากค่ะ

Holiday Inn Bangkok โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ กรุงเทพฯ
ที่อยู่: 971 Phloen Chit Rd, Lumphini, Pathum Wan, Bangkok 10330
เบอร์โทรศัพท์: 02-656-1555
พิกัด GoogleMaps:
maps.app.goo.gl/1AWyzxHzsfTY8xhy8
เว็บไซต์: www.ihg.com
Facebook: fb.com/holidayinnbangkok

เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.