4 วัน 3 คืน เที่ยวไปเรื่อย เหนื่อยก็หยุดกิน ณ หัวหิน อิอิ

พอดีวางแผนว่าอยากไปหัวหินตั้งแต่ต้นปี แล้วก็ดูวันว่างทั้งของเรากับแฟน ก็เห็นตรงกันว่าช่วงเดือนมิถุนา
ตอนแรกกะว่าจะไป 3 วัน 2 คืน แต่ดันไปเจอดีลโรงแรม เกิดอยากเที่ยวต่อ เลยจองไปอีกหนึ่งคืน
รวมแล้วเป็น 4 วัน 3 คืน ก่อนไปหาข้อมูลไปพอสมควร แต่สุดท้ายก็เที่ยวมั่วค่ะ เที่ยวตามใจตัวเองมาก 555
ฝากติดตามด้วยนะคะ ถ้าชอบใจ อ่านสนุก กดบวกโหวตให้ด้วยน้า จุ้บๆ ♡

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด

 


….ออกเดินทาง….

♡ DAY 1

 

เราเริ่มเดินทางกันจากรังสิต โดยไปขึ้นรถตู้ รังสิต – หัวหิน คิวรถจอดอยู่ที่หน้าเมเจอร์รังสิต
ค่าโดยสารคนละ 200 ไปถึงท่ารถประมาณ 8 โมงเช้า ได้ขึ้นรถกันเป็นคนแรก
เลือกที่นั่งเองสบาย รถออกตอน 8.20 ตรง ตามในตั๋วเป๊ะๆ ไม่มีเลทสักนาที
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ผ่านชะอำ มาถึงหัวหินประมาณ 11.45

รถตู้ก็มาจอดส่งที่หน้าวัดหัวหินค่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นแดดร้อนและไม่รู้ประสีประสา – –
(แฟนมาหัวหินครั้งแรก ส่วนเรามากับที่บ้านตลอด ไม่เคยมาเองเลยไม่รู้ทิศทาง)
แต่ก็รู้มาว่ามีสองแถววิ่งรอบตัวเมืองจนถึงเขาตะเกียบ แต่วินาทีนั้นร้อนและหิวมาก
เลยเดินเลียบถนนใหญ่มาเหมารถตุ๊กๆ ให้ไปส่งที่โรงแรม ตอนแรกเขาคิด 150 แต่ก็ต่อๆ จนเหลือ 120

มาถึงโรงแรม เราจองผ่านอโกด้าจ่ายเงินเรียบร้อย
ราคาจองมาได้ที่ 1,224 บาทต่อคืนรวมภาษีแต่ไม่รวมอาหารเช้า

คนไม่เยอะมากเพราะเป็นวันพฤหัส เช็คอินเรียบร้อยก็ขึ้นมาบนห้อง เราพักห้อง 317
โรงแรมสะอาดมาก เตียงนุ่มสบายจนอยากหอบกลับบ้าน >< แอร์เย็นฉ่ำชุ่มปอด ไวไฟฟรีและเร็วปรี๊ดๆ
ห้องไม่กว้างมากค่ะ ไม่มีโต๊ะทำงาน มีแค่เบาะยาวๆ ไว้วางของ แต่อยู่กันสองคนไม่อึดอัด พักสบายมากเลยค่ะ
ห้องน้ำเล็กไปหน่อย แต่สะอาด ฝักบัวน้ำแรงสะใจสุดๆ อาบน้ำแล้วสดชื่นนนนนน โฮกๆๆ

มีมินิบาร์ ชากาแฟฟรี น้ำเปล่าฟรีสองขวด นอกนั้นจ่ายตังค์ค่ะ

ตู้เซฟ ตู้เย็น ไม้แขวนเสื้อ ตู้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวสำหรับลงสระ
มีครบตามมาตรฐานโรงแรมปกติ (ไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำน้า)

ระเบียงมีเก้าอี้ มีโต๊ะ ราวตากผ้า สะดวก สะอาด เยี่ยมเลยค่ะ

หลังเช็คอิน เราทั้งคู่ก็สลบเหมือด ตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงเกือบห้าโมงเย็น (งีบยาวเชียว)
ตื่นมาตกใจพระอาทิตย์จะตกแล้ว 555 แต่ด้วยความอยากเล่นน้ำสระ เลยเปลี่ยนชุดแล้วก็ลงไปเล่นน้ำค่ะ
ป๋อมแป๋มได้ไม่นานก็ขึ้นเพราะหิวมาก (มื้อเที่ยงกินแค่นิชชินคนละถ้วย T^T)
ขึ้นมาอาบน้ำสระผมเพื่อที่จะไปเดินตลาดโต้รุ้งกัน!

กว่าจะได้ออกจากโรงแรม ก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า รถรับส่งโรงแรมรอบเร็วสุดคือสองทุ่ม
เลยคิดว่าจะออกไปรอสองแถวเพื่อไปตลาด ออกไปชะโงกๆ ดูอยู่สักพักก็ไม่มี
ป้าเจ้าของรถสองแถวแบบเหมาก็เดินมาถามว่าจะไปไหนหนู เลยบอกไปว่ารอสองแถวจะไปตลาด
ป้าแกบอกไปรถป้าเถอะ คิด 150 ป้าอยากกลับบ้านแล้วหนู กะจะวิ่งรอบสุดท้าย
ไอ้เราก็อยากประหยัด เลยต่อกันไปต่อกันมา ป้าคงเห็นว่าเราไม่ใจอ่อนสักที เลยบอก อ่ะ 100 นึงก็ได้
เราเลยมองหน้ากันกับแฟนแบบ เออ ดึกแล้ว ไปเหอะ หิวด้วย กว่าจะได้กินอีก 5555
ก็เลยตกลงกันที่ 100 บาทค่ะ ป้าส่งเราถึงหน้าตลาด ละก็ไปหาของหม่ำกันนน

หน้าโรงแรมตอนกลางคืนค่ะ ถ่ายบนสองแถวป้า เลยไม่ค่อยชัด 5555

บรรยากาศภายในตลาดก็เหมือนเดิมค่ะ คึกคัก มีของกิน นักท่องเที่ยวเยอะ ต่างชาติแยะ คนจีนนี่เต็มเลยค่ะ
แต่ด้วยความเป็นวันธรรมดา คนเลยไม่พลุกพล่านเท่าไหร่นัก เดินกันสบายๆ อากาศไม่ร้อนมากด้วย
แฟนมาหัวหินครั้งแรก ตื่นเต้นไปหมด นางเห็นอะไรก็อยากกิน อยากซื้อ เลยบอกว่า ใจเย็นๆ 5555

หิวกันมากมาย แต่ก็ตกลงว่าจะซื้อกลับไปกินที่โรงแรม เพราะดึกแล้ว ไม่อยากกินข้างนอกด้วยค่ะ
เดินไปเดินมาได้ผัดไทกุ้งสดหนึ่งกล่อง ราคา 60 บาท หมูสะเต๊ะสิบไม้ ชุดละ 40 บาท (ไม่มีขนมปังนะคะ)
ละก็ได้ส้มตำไทย ไก่ย่าง ร้านไข่มุข ซีฟู้ด

รู้สึกว่าราคาสูงไปหน่อย แต่ก็ราคาแหล่งท่องเที่ยว ปริมาณที่ได้ก็ถือว่าโอเค ไม่เอาเปรียบ
ส้มตำไทยถุงละ 80 บาทไก่ย่างครึ่งตัว 200 บาท ซื้อครึ่งตัวด้วยความหิวบังตา *0* เห็นไรก็อยากกินไปโหม๊ดดดด

จริงๆ กินกันสองคนแค่นี้ก็น่าจะอิ่มสุดๆ แล้ว แต่ไม่! ด้วยความโรคจิตของพวกเรา
คือเราสองคนโปรดปรานซีฟู้ดเป็นอย่างมาก มาถึงหัวหินถิ่นมีหอยไม่กินอาหารทะเลได้ไง

จำได้ว่าเคยเห็นเพื่อนๆ ในพันทิปบอกว่าร้านครัวลุงจ่าอาหารอร่อย ราคาสมน้ำสมเนื้อ และสด
เลยเดินตรงไปที่ลุงจ่าอย่างว่องไว อิ__อิ พร้อมกับสั่งเสียงดังและมั่นใจว่า
“เพ่ๆ กุ้งเผาโล หมึกครึ่งโล แล้วก็หอยเชลทรงเครื่องด้วยค่ะ”

กุ้งเผาโลละ 600 บาท ปลาหมึกครึ่งโล 200 บาท หอยเชลทรงเครื่องที่ละ 150 บาท (ได้หลายตัวค่ะ)
(กุ้งเผาที่สั่งเป็นกุ้งก้ามกรามหนวดฟ้าๆ นะคะ ไม่ใช่กุ้งลายเสือหรือกุ้งมังกรนะ 5555)

พอได้อาหารตามที่อยากซวกปุ๊ปก็กรีดกรายกลับโรงแรมค่ะ อิอิ

คราวนี้เดินมาขึ้นสองแถวสีเขียวจอดรออยู่ในตลาดเลย ตอนประมาณสามทุ่ม
ผู้โดยสารมีแค่เราสองคน 5555 ตอนแรกไม่แน่ใจว่าเป็นสองแถวเหมารึเปล่า
แฟนเลยเดินไปถาม ปรากฎว่าไม่เหมา พอขึ้นไปนั่งปุ๊ป ออกปั๊ป ไม่เหมาก็เหมือนจะเหมา 5555
ไปส่งถึงหน้าโรงแรมในราคาคนละ 15 บาทขาดตัว ฮี่ๆ

กลับมาก็ฟาดกันไม่คิดชีวิต ไม่อยากจะเชื่อว่ากินกันแค่สองคน
สรุปไก่ย่าง ส้มตำ เหลือบานเบอะ แต่กุ้ง หมึก หอยเชลนี่ฟาดเรียบ

ร้านครัวลุงจ่าอาหารอร่อยมากๆ กุ้งสด ปลาหมึกสดเด้งๆ เลย
เรากับแฟนเป็นพวกท้องไส้ไม่ดี กินอาหารทะเลไม่สดทีไรจู๊ดๆ ตลอด
แต่นี่ปกติดีไม่มีถ่ายท้อง ถือว่าผ่าน 5555 แต่ที่ต้องลองคือหอยเชลทรงเครื่อง
ย่างกับเนยหอมๆ และก็เครื่อง อร่อยมาก อยากให้ลอง นี่กินกันจนแทบจะกินฝาหอย 555

มื้อนี้อิ่มมากค่ะ ค่าเสียหายไม่อยากจะคำนวน T_T แถมไก่เหลือเยอะมาก
เรากินไม่ไหว แฟนก็อิ่ม แต่สุดท้ายนางก็นั่งแทะจนหมด ปรบมือให้กับความพยายาม – –

หลังจากนั้นเราก็พักผ่อนกัน จบวันแรกด้วยวิวจากระเบียงห้องพักตอนกลางคืนนะคะ

พรุ่งนี้มีแผนจะไปตลาดน้ำสามพันนามแล้วก็ตลาดชิเคด้า
จบวันแรกไปด้วยกลิ่นอาหารอันคละคลุ้งทั่วห้อง ตลบอบอวนทีเดียวเชียว แหะๆ

♡ DAY 2

เราตื่นกันตอนแปดโมง ล้างหน้าแปรงฟันเตรียมลงไปทานอาหารเช้า (จริงๆ จองโรงแรมมาไม่รวมอาหารเช้านะคะ)
แต่มาซื้อและจ่ายเงินเพิ่มตอนเช็คอิน อาหารเช้าเรากับแฟนตกลงกันไว้ว่าซื้อไว้แค่วันแรกวันเดียว
เพราะไม่มีรถ จะเข้าเมืองไปหาของกินก็จะลำบากค่ะ เลยทานที่โรงแรมก่อนดีกว่า

ห้องอาหารของ ibis สะอาดสะอ้าน ไลน์อาหารก็ทั่วไป มีไข่ดาว หนมปัง ข้าวผัด ผัดผัก ข้าวต้ม
ผลไม้ สลัด ครัวซองต์ ชา กาแฟ อาหารรสชาติกลางๆ กินได้แต่ก็ไม่ถึงกับโอ้โห อร่อยจุงเบย – –

แต่พวกเราลิ้นจระเข้ กินไรก็อร่อยไปหมด 5555 (จริงๆ คือหิว) หลังจากทานกันอิ่มหนำสำราญ
ก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว รอบริษัทรถเช่าเอารถมาให้ที่โรงแรมค่ะ เราเช่ารถกันไว้สองวัน
ทางบริษัทบริการดีมาก พูดจาดี คุยดี ราคาสมเหตุสมผลดี ให้น้ำมันเต็มถัง ตอนคืนก็ต้องเต็มถังนะคะ

พอได้รถกันแล้วก็ลั่นล้า ตั้งเป้าหมายกันว่าจะไปตลาดน้ำสามพันนาม เปิดกูเกิลแมพเรียบร้อย
มั่นใจมากว่าไม่หลงหรอก ขับไปขับมา มันพาอ้อมเขาตะเกียบแล้วผ่านหน้าโรงแรมกลับมาเข้าตัวเมือง
เสียน้ำมันไปเกือบขีด -*- อิกูเกิลแมพพพพ 5555 สุดท้ายก็กลับมาตั้งหลักหน้าโรงแรม
ละออกเดินทางอีกครั้ง คราวนี้ไม่หลงแล้วค่ะ ไปถึงโดยสวัสดิภาพ 555555

ไปถึงก็เดินเล่นรอบตลาด บรรยากาศก็คล้ายตลาดน้ำทั่วไปค่ะ ไม่มีอะไรมาก ร้านขายของที่ระลึก
ของกินเล่น ก๋วยเตี๋ยว เสื้อผ้า เสื้อหัวหิน เสื้อคู่หัวหิน แบบเดียวกับที่ขายทั่วหัวหินนั่นแหละ 555

มีให้อาหารแพะน้อยด้วยแหละ น่ารักกก แต่ไม่ได้ให้นะคะ เข้าไปเล่นกับมันนิดหน่อยเอง

นกหล่อดีเลยแอบถ่ายมา หุหุ

อาหารเช้าที่กินกันมาก็เริ่มย่อยตามกาลเวลาที่เราหลงบนเขาตะเกียบ เลยมองหาร้านที่จะเติมกระเพาะให้เต็ม
จบลงที่ก๋วยเตี๋ยวเรือลูกชิ้นยักษ์ ราคาชามละ 40 บาท รสชาติโอเค ใช้ได้เลย ได้ลูกชิ้นชามละลูก

กินกันเสร็จก็เดินถ่ายรูปเล่นต่อจนวนกลับมาถึงทางเข้า ก็ออกจากตลาดค่ะ
คุยกันว่าจะไปหัวหินมาร์เก็ทวิลเลจดีมั้ย แต่ก็คิดว่ามันก็คือห้างเหมือนในกทม.

(ผู้ร่วมทริปตัวแสบ ไอ้บู้บี้ หมีน้อยแสนรักของจขกท.เอง 55555 พาตุ๊กตาไปเที่ยวด้วยแหละ)

ขับไปมาก็ตัดสินใจไปเพลินวาน แต่ก็นั่นแหละค่ะ ไม่มีอะไรมากมาย เข้าไปเดินๆ ละก็ออกมา
บรรยากาศในนั้นก็เป็นเหมือนตลาดสมัยก่อน มีของย้อนยุคน่ารักๆ ค่ะ เกิดทันเห็นบ้างไม่ทันบ้าง 5555

ด้วยความที่อยากของหวาน ไอติมหรือเค้กอะไรก็ได้ เลยเปิดเว็บหาร้านน่ารักๆ น่านั่ง
ก็เจอแนะนำกันหลายที่ เลยขับรถไปที่ถนนแนบเคหาสน์ ขับไปมาก็หลงบ้างมั่วบ้าง 5555
แต่ก็เจอร้านไอติมหนึ่งในร้านที่เขาแนะนำกัน ร้าน Eighteen Below Ice-cream

เป็นร้านไอศกรีมโฮมเมดเล็กๆ รสชาติไอติมอร่อยค่ะ วาฟเฟิลร้อนๆ หอมๆ กับนมแก้วนึง
ค่าเสียหาย ไอศกรีมกับวาฟเฟิล 140 บาท นมสดเย็นแก้วละ 40 บาท รวม 180 บาท
มีบราวนี่ด้วยแต่ไม่ได้กิน เก็บพุงไว้กินมื้อเย็นดีกว่า 5555 เราไม่ใช่สายของหวานเท่าไหร่นัก

หลังจากนั้นก็กลับโรงแรม เดินแวะไปรับลมทะเลนิดนึง ให้ได้รู้ว่ามาทะเลแล้วนะ แต่ไม่ได้ลงเล่นน้ำค่ะ

กลับมาที่ห้อง ก็แอบงีบกันอีกรอบ (กินแล้วก็นอน *-*) ตื่นมาเกือบหกโมงเย็น ก็ล้างหน้าล้างตา
เตรียมไป Cicada กัน ด้วยความที่โรงแรมอยู่ใกล้ และไม่อยากหาที่จอดรถ เราเลยตกลงกันว่าเดินค่ะ

ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 500 เมตร แต่ก่อนจะไปหาข้าวเย็นทานกัน เราก็ต้องประเดิมด้วยของหวานก่อน
5555 จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่ แต่แฟนตื้อจะกินให้ได้ นางบอกว่าร้านนี้ไม่กินไม่ได้ ต้องมาๆ
เลยแบบอ่ะๆ เดินไปกินเค้กก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมากินของคาวตามหลัง

ร้านเค้ก Wilaiwan อยู่ตรงข้ามตลาด Cicada เลยค่ะ ร้านสวยน่านั่งมาก วินเทจสไตล์เล็กๆ
มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวานให้เลือก เราก็สั่งกันไปคนละชิ้น (เรากินไปสองคำ ที่เหลือแฟนกิน)

เป็นคนไม่ค่อยชอบกินของหวาน อิแฟนเลยเขมือบแหลก 55555 ค่าเสียหายชิ้นละ 125 บาท
สั่งเป็น Blueberry Yogurt Cake กับ Strawberry Moose Cake รสชาติโอเค ไม่หวานมาก
แฟนบอกอร่อยมาก แต่สำหรับเราเฉยๆ พอกินได้ค่ะ ^^

หลังจากกินของหวานเรียบร้อย เราก็ต่อกันที่ของคาวค่ะ อิอิ เดินกลับไปที่ Cicada เพื่อหาอะไรหม่ำกัน
แลกคูปองกัน 300 บาท เดินดูอาหารมากหน้าหลายตา ตอนแรกคิดว่าราคาแอบแรงสำหรับอาหารทั่วไป

คิดไม่ออกว่าจะกินอะไรกันดี ได้ผักย่างมาไม้นึง ข้าวผัดปลาหมึกสองจาน แล้วก็คอหมูย่างจานนึง
ราคาผักย่างไม้ละ 35 บาท ข้าวผัดปลาหมึกจานละ 85 บาท คอหมู 80 บาท
พอได้ข้าวผัดมา ตกใจ มองหน้ากันกับแฟน จานใหญ่มากกก กินสองคนได้

แต่ซื้อมาแล้ว ก็เลยกินค่ะ เรากินข้าวไม่หมด เหลือเยอะมาก ส่วนแฟนฟาดเรียบ – –
นางบอกเราว่าทำไมกินไม่หมด ทำท่าเหมือนอยากกินให้ แต่นางก็อิ่มเกินที่จะกิน 5555
รวมแล้วมื้อนี้ 285 บาท อิ่มมากๆ ราคานี้ในแหล่งท่องเที่ยว สำหรับเราถือว่าไม่แพงค่ะ
ข้าวผัดอร่อยมาก ปลาหมึกชิ้นใหญ่ ให้เยอะค่ะ อร่อยและแฮปปี้มีความสุข โฮะๆ

พอกินกันเสร็จ เดินออกมาเห็นร้านรับวาดรูปล้อเลียนแบบการ์ตูน
อยากวาดมากกกก มองหน้าแฟนสายตาปริบๆ กระพริบตาฟรุ้งฟริ้ง

นางบอก “อยากวาดอ่ะเดะ” อิอิ สุดท้ายก็เลยได้วาด ค่าเสียหาย วาดสองคน 250 บาทค่ะ
แต่ถ้าไปคนเดียว 150 บาทค่ะ พี่เขาวาดน่ารักมาก ใส่ใจรายละเอียดดีด้วย
ประทับใจค่ะ เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ อิอิ

พอวาดเสร็จก็เดินเล่นดูของจุกจิกในตลาด
แล้วก็กลับโรงแรมพักผ่อนเตรียมเอาแรงในวันพรุ่งนี้ จะขับไปทางชะอำกันค่ะ

 


♡ DAY 3

ตื่นกันสายโด่ง สิบโมงกว่าๆ 555 ด้วยความที่ไม่ได้ซื้ออาหารเช้าไว้แล้ว
ตอนแรกก็กะจะตื่นเช้าเข้าไปกินตลาดมุ้งมิ้งๆ แต่สุดท้ายตื่นสาย -0-
เลยได้แต่ทำมาม่าคัพแบ่งกันกินอย่างหิวโซ ล้อหมุนตอนสิบเอ็ดโมงกว่าๆ เกือบเที่ยง

วันนี้เราจะขับย้อนกลับไปชะอำเพื่อไป Santorini กับ Camel Republic ค่ะ
ตอนแรกว่าจะแวะหาข้าวเที่ยงกินในหัวหิน แต่ก็ไม่รู้จะไปกินที่ไหนดี
เราเลยคิดกันว่าขับไปเรื่อยๆ เจอร้านก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวแกงข้างทางก็จอดแวะกินละกัน

ก็ขับกลับมาทางชะอำไม่นาน ผ่านเวเนเชียแวะถ่ายป้ายซะโหน่ย ไม่ได้เข้าไปค่ะ ค่าบัตรผ่านประตูแอบแพง
ทริปนี้เราเน้นกิน เอาเงินไปทุ่มกับของกินหมดแล้ว เรื่องเที่ยวประหยัดหน่อยนะกัน 55555 ตัดอะไรได้ก็ตัดค่ะ

ขับชะลอเข้าซ้ายหาร้านอาหารที่ดูโอเคไปเรื่อยๆ
มาเจอกับร้านอาหารตามสั่งที่ไม่มีชื่อร้าน เป็นเก้าอี้โต๊ะไม้เคลือบมัน
อยู่เลย FN Outlet มาไม่ไกลค่ะ ด้วยความที่หิวตาลาย เลยแบบไม่เลือกละ ที่นี่แหละ!

เราสั่งข้าวหมูกรอบพริกเผาไข่ดาว แฟนสั่งข้าวผัดทะเล แล้วก็สั่งไข่เจียวมาแบ่งกันกิน
ปริมาณที่ให้มาไม่น้อยเลยค่ะ อิ่มตื้อเลย อร่อยด้วย ใครผ่านขากลับกรุงเทพฯ ลองแวะกินดูนะคะ

พิกัดร้านนี้ 12.672590, 99.952316 อยู่ก่อนถึงวัดห้วยทรายใต้ค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปในร้านหรือหน้าร้านมาเลย)
เลย FN Outlet มาเจอปั๊มปตท. ขับมาอีกนิดก็เจอแล้วค่ะ มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างๆ

ในร้านโต๊ะเป็นโต๊ะไม้ แต่รูปจาก Google Streetview ตั้งแต่ปี 2011 ตอนนั้นคงเป็นโต๊ะหิน ตอนนี้โต๊ะไม้แย้วน้า
ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่กินมาแล้วราคาโอเคเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณ
ข้าวผัดทะเลของแฟนเรานี่กุ้งเป็นกุ้ง หมึกเป็นหมึก สดใช้ได้เลยค่ะ ให้มาไม่น้อยเลยด้วย
ราคามื้อนี้ ข้าวผัดทะเล+ข้าวหมูกรอบผัดพริกเผา+ไข่เจียว+น้ำเปล่าหนึ่งขวด = 105 บาท

หลังจากนั้นก็ไปซานโตรินี่ ไม่ได้เล่นสวนน้ำหรือเครื่องเล่นอะไรค่ะ อากาศและแดดร้อนมาก TT
แผดเผาผิวไหม้เกรียม 555 เลยเสียแค่ค่าบัตรผ่านเข้าไปแวะถ่ายรูปเล่นชิคๆ สวยๆ แค่นั้น

บ้านผีสิงข้างใน เห็นทัวร์จีนเล่นกันเป็นกลุ่ม กรี๊ดกร๊าดดังมาถึงข้างนอกเลยค่ะ 5555

ออกมาเราก็แวะพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทแต่ก็ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ แล้วเราก็ไป Camel Republic กันต่อ

Camel Republic เสียค่าเข้าชมคนละ 80 บาทค่ะ ด้านในก็เป็นสวนสัตว์ย่อมๆ
มีน้องอูฐเป็นตัวชูโรงเลย อัลปาก้า นกฟลามิงโก้ นกพันธุ์ต่างๆ เป็ดแมนดาริน หงส์ แพะ ยีราฟ

สัตว์ทุกชนิดสามารถให้อาหารได้โดยการซื้ออาหารสัตว์จากหน้ากรงของน้องๆ ทั้งหลาย
เราถ่ายรูปอย่างเดียวเลย ไม่ได้ให้อาหารค่ะ 5555 งกอ่ะ เอาเงินไปทุ่มกับของกินหมดตัวแล้ว T_T
ด้านในตกแต่งสวยงามสไตล์อินเดีย เข้ามาแล้วอยากจะวิ่งข้ามเขาร้องเพลงซะจริงๆ ฮุฮุ

เครื่องเล่นๆ ต่างน่าเล่นดีค่ะ เป็นเครื่องเล่นแบบเอ็กซ์ทรีม หวาดเสียวๆ หน่อย
อยากเล่นมากค่ะ แต่พวกเราไม่สู้แดดจริงๆ มันร้อนมากกกก แล้วก็ไม่มีใครเล่นเลยด้วย T^T

พอออกจากคาเมล ก็เตรียมกลับหัวหินไปเพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม Goodview เป็นที่ๆ เราจะพักเป็นคืนสุดท้าย

กลับมาถึงหัวหินก็เกือบห้าโมงค่ะ เข้าโรงแรมเช็คอินเรียบร้อย
โรงแรม Huahin Goodview อยู่ในซอยหัวหิน 94 (ซอยเดียวกับโรงแรม G Huahin Resort & Mall)
เข้ามาไม่ลึกมาก ผ่านทางรถไฟเจอเซเว่นก็ถึงเลย โรงแรมอยู่ซ้ายมือ ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าโรงแรมไว้เลยค่ะ

พอดีตอนนั้นเหนื่อยจากการขับรถด้วย ต้องถือกระเป๋าแบกของเข้าไปเช็คอินด้วยเลยไม่ได้ถ่ายรูปหน้าโรงแรมไว้เลย
แต่โรงแรมดีค่ะ ตอนแรกก็แอบหวั่นเพราะขายดีลใน Ensogo กลัวจะไม่โอเค แต่ก่อนซื้อดีล
ก็เช็ครีวิวในอโกด้าแล้วก็บุ้คกิ้งแล้ว คนส่วนมากบอกโอเค เลยซื้อดีลมาในราคา 999 บาทต่อคืน

น้ำเปล่าฟรีสองขวด ส่วนขวดลิตรเราซื้อแช่ไว้เองค่ะ

ตู้เสื้อผ้าใหญ่บิ๊กเบิ้มมาก มีเซฟ ผ้าเช็ดตัวสำหรับสระว่ายน้ำ รองเท้าแตะ ไม้แขวนเสื้อ

ห้องน้ำอาบไม่สะใจเท่าไอบิสเลยค่ะ แต่ก็โอเค 5555

วิวจากระเบียงค่ะ สวยงามตามท้องเรื่องงง อิอิ

หลังจากเก็บของอะไรเรียบร้อยก็ตกลงกันว่าจะไปหามื้อเย็นทานที่ตลาดโต้รุ้งเหมือนเดิม
เพราะอยากกินกุ้งเผากับหอยเชลของร้านลุงจ่าอีก (อร่อยจริงๆ 5555) ไปถึงตลาดก็ตรงไปที่สั่งอาหารไว้ก่อน
แล้วก็เดินไปซื้อโน่นนิดนี่หน่อย มีคอหมูย่าง แล้วก็ไก่ทอดข้าวเหนียว วันสุดท้ายเริ่มเบรคตัวเองได้แล้วค่ะ
วันแรกหน้ามืดซื้อด้วยความโหย ปรากฎเหลือ วันนี้เลยค่อยๆ คิด มีสติก่อนควักเงิน อิอิ

หลังจากกลับมาโรงแรมทานอาหารเสร็จก็ลงไปเล่นน้ำที่สระเกือบชั่วโมงก็ขึ้นมาพักผ่อนเตรียมตัวกลับบ้านวันรุ่งขึ้น ^^


♡ LAST DAY

เช้าวันรุ่งขึ้นก็เก็บของ เช็คเอาท์แล้วก็ออกจากโรงแรมตอนสิบเอ็ดโมงกว่า เอารถไปเติมน้ำมันให้เต็ม
แล้วก็ส่งรถคืนที่ท่ารถตู้ค่ะ ทางบริษัทมารับที่ท่ารถเลย (เราสามารถนัดได้ว่าจะคืนรถที่ไหน)
คืนรถเสร็จก็หิว หิวเราก็ต้องกิน 555 ซื้อตั๋วรถตู้กลับกทม.ไว้แล้วก็ข้ามถนนไปกินมื้อเที่ยงกันค่ะ

ร้านโกเซนเป็ดย่าง อยู่ตรงข้ามท่ารถตู้หัวหิน-รังสิต บะหมี่เป็ดอร่อย เกี๊ยวก็อร่อย น้ำซุปกลมกล่อม

กำลังถ่ายบรรยากาศร้าน ไม่ได้สนใจ แต่อยู่ๆ แฟนบอก “เธอๆ นันทบุเรงๆ” หันไป อ้าว! ต้น จักรกฤษณ์ คิดแล้วฮา 55555

หลังจากอิ่มกันด้วยมื้อสุดท้ายเราก็นั่งรถตู้กลับกรุงเทพฯ กันค่า บอกลาทริปนี้ไปด้วยความสุขสุดๆ
ได้เที่ยวกับคนที่รักอะไรก็ดีไปหมดแหละเนอะ ถึงจะเที่ยวแบบมั่วๆ กินแบบมั่วๆ 55555

ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้นะคะ กระทู้ยืดยาวจริงๆ หาสาระไม่ค่อยเจอด้วย แหะๆ
เจอกันทริปหน้าค่ะ ถ้าได้ไปไหนแล้วเจอของกินอร่อยๆ สถานที่เที่ยวสวยๆ จะแวะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

สวัสดีค่ะ ^^

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.