บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลี หมูดรายเอจสุดคุ้มที่ KBBQ สุขุมวิท 13 พร้อมเมนูอื่นๆ อีกเพียบ

ทวิงเกิลเบบี้กลับมารีวิวร้านปิ้งย่างเกาหลีกันอีกแล้วหลังจากที่ไม่ได้เขียนรีวิวร้านประเภทนี้มาสักพักใหญ่ อันที่จริงเราเองก็ไม่ค่อยได้ทดลองร้านหมูย่างเกาหลีใหม่ๆ สักเท่าไหร่เลยค่ะ ส่วนใหญ่กินร้านไหนแล้วชอบก็จะกินอยู่แบบเดิมๆ ซึ่งเป็นร้านใกล้บ้านที่ไลน์อาหารไม่ได้อลังการอะไรมาก เน้นอร่อยเป็นพอ นานทีปีหนถึงจะได้ลองร้านอื่นๆ บ้างตามโอกาส แต่ช่วงปีที่ผ่านมานี้เองที่เรามาติดใจร้าน KBBQ (เคบีบีคิว) เพราะพี่ชายกินบ่อยเลยชวนไปลองด้วยกัน เท่านั้นแหละ ติดใจตั้งแต่รอบแรกจนต้องกลับมาชวนแฟนไปกิน หลังจากนั้นก็กลายเป็นร้านที่ไปกินบ่อยขึ้นมาทันที ทั้งนัดรวมตัวเพื่อนๆ ไปกับแฟนสองคน ไปกินกับครอบครัว ที่บ้านก็ชอบและถูกใจมากค่ะ เพราะไลน์อาหารที่นี่เค้ามีให้เลือกเยอะมาก เน้นว่าเยอะมากกกก! มากแบบเลือกกินไม่หมด พอเราไปบ่อยเข้า ตอนแรกที่ไม่คิดว่าจะรีวิวก็กลายเป็นว่า ไม่ได้แล้ว กินซ้ำหลายครั้งขนาดนี้ต้องรีวิวแล้วล่ะ 5555555 แต่ร้านเค้าดัง มีลูกค้าเยอะอยู่แล้วด้วยนะคะ เห็นว่าเปิดมานาน มีหลายสาขาด้วย

สาขาที่เราไปประจำคือสุขุมวิท 13 ค่ะ (ใกล้บีทีเอสนานา) ลงจากรถไฟฟ้าสามารถเดินเข้าซอยสุขุมวิท 13 ได้เลย ไม่ไกลมากค่ะประมาณ 300 เมตร ถ้าใครขี้เกียจก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปได้ค่ะ ร้านอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร 15 Sukhumvit Residences ถ้าขับรถไปให้เลี้ยวเข้าไปจอดในตึกได้เลย บอกรปภ.ว่ามากินอาหารเกาหลีค่ะ

ส่วนราคาบุฟเฟต์ที่สาขาสุขุมวิท คนละ 399+ (427net) ต่อคนค่ะ มีเวลาจำกัด 1.30 ชั่วโมง ส่วนสาขาอื่นๆ เราไม่แน่ใจว่าจะเท่ากันรึเปล่านะคะ แนะนำให้โทรสอบถามแต่ละสาขาจะชัวร์ที่สุดค่ะ

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด


ถ้าไม่ได้นำรถมาแล้วเดินเข้าทางด้านข้างตึก จะเจอบันไดเลื่อนให้ขึ้นมาด้านบนนะคะ หน้าร้านจะอยู่ติดกับบันไดเลื่อนแบบนี้เลยค่ะ แต่ถ้านำรถมาเอง จอดรถเสร็จให้กดลิฟต์ลงมาชั้น 2 ค่ะ แล้วเดินเข้าประตูจากอาคารจอดรถมาจะเจอกับทางเชื่อมมายังหน้าร้าน

ร้านเปิดตั้งแต่ 11.30 น. เลยค่ะ ที่นั่งมีเยอะเลย แบบห้องส่วนตัวก็มีค่ะ เวลาเราไปกับครอบครัวก็โทรจองเป็นห้องส่วนตัวก่อนเลย เราเคยไปกินทั้งวันธรรมดาและเสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาคนจะน้อยกว่าหน่อยแต่ก็มีลูกค้าตลอดนะคะ ไม่เคยเงียบเหงา

ที่นี่ใช้เตาปิ้งย่างแบบถ่านที่ร้านเกาหลีส่วนใหญ่เลือกใช้ค่ะ มีที่ดูดควันให้ทุกโต๊ะ ไลน์อาหารจะรายล้อมโต๊ะแบบนี้เลย เป็นเคาน์เตอร์ยาวๆ ตั้งแต่หน้าร้านจนสุดร้าน ที่สำคัญคือมีเครื่องทำรามยอนแบบที่เอาชามไปต้มได้เลยด้วยค่ะ

เรามาดูไลน์อาหารเกาหลีประเภทที่ไม่ใช่ปิ้งย่างกันก่อนเนอะ เค้ามีให้เลือกเยอะละลานตาจนกินแทบไม่หมด ขนาดเราถ่ายมาเองยังคิดเลยว่าน่าจะมีตกหล่นไปบางเมนูบ้างแหละ เพราะมันเยอะมากจริงๆ ค่ะ บางอย่างก็มีคนตักอยู่ด้วยเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากกัน

ซึ่งเมนูร้อนเค้ามีตั้งแต่ของกินเล่นยันกินจริงจังเลยนะ ทั้งแกงกิมจิ ชับแช ไข่ม้วน จอนผักชนิดต่างๆ บุลโกกิ ข้าวผัดกิมจิ

ไก่ทอดที่มีทั้งแบบไม่คลุกซอสและแบบซอสยังนยอม ใบงาชุบแป้งทอด หัวหอมทอด คิมบับ ซุนดูบูจิเก(แกงเต้าหู้อ่อน) ออมุกเสียบไม้ เครื่องสำหรับทำบิบิมบับ

นอกจากที่เราจะตักเองได้แล้ว ยังมีครัวร้อนที่สามารถนำเบอร์โต๊ะมาหนีบแล้วพ่อครัวจะทำไปเสิร์ฟที่โต๊ะด้วยนะ มีเมนูพวกพาจอน ชูม็อกบับ(ข้าวปั้นที่เราต้องปั้นเอง) แล้วก็มีกุ้งทอดซอสเผ็ดหวานด้วยค่ะ อันนี้เราชอบมาก ไปทีสั่งหลายจานเลย

คราวนี้มาดูพวกหมูกันบ้าง เริ่มที่หมูบ่มหรือหมูดรายเอจเลยค่ะ เค้าจะแยกใส่ตู้ไว้แบบนี้เลยนะ เราสามารถเลือกหยิบเป็นถาดๆ หรือจะคีบใส่จานก็ได้ มี 2 ส่วนให้เลือกคือหมูสามชั้นและสันคอหมูค่ะ เราแนะนำให้กินส่วนดรายเอจนะ เพราะมันอร่อยกว่า ย่างสุกแล้วนุ่มกว่าแบบปกติมากๆ

ด้านล่างของตู้หมูบ่มจะเป็นผักต่างๆ ไว้สำหรับห่อหมูและย่างได้ค่ะ มีผักกาด ใบงา พริก แตงกวา แคร์รอท หัวหอมใหญ่ ฟักทอง

นอกจากหมูดรายเอจ ในไลน์บุฟเฟต์ก็ยังมีหมูสดแบบปกติให้เลือกเยอะเลยค่ะ ทั้งสามชั้น สันคอ ทั้งแบบสดและแบบหมักซอส แล้วหมูหมักโคชูจังที่นี่คืออร่อยมาก ไม่เผ็ด กลมกล่อมกำลังดี ตัวหมักคัลบี(ซอสถั่วเหลือง)ก็อร่อยค่ะ แต่จะมีความติดหวานนิดหน่อยนะ นอกจากนี้ยังมีหมักทเวนจัง(เต้าเจี้ยว)ด้วยนะ ตัวทเวนจังไม่ค่อยเจอที่ร้านบุฟเฟต์หมูย่างเกาหลีอื่นๆ ในไทยเท่าไหร่ค่ะ แต่ที่นี่มีนะเออ

พวกเห็ดออรินจิ เห็ดเข็มทอง เห็ดเข็มทองพันด้วยสามชั้นสไลซ์บาง หนังหมูหมักโคชูจัง ปลาหมึกสาย กุ้งขาว เนื้อไก่หมักอะไรแบบนี้ก็มีครบค่ะ

เครื่องเคียงที่นี่มีทั้งกิมจิขาว(ไม่ใส่พริก) กิมจิแบบไม่เปรี้ยว แบบเปรี้ยว กิมจิหัวไช้เท้า(กักตูกี) กิมจิมะละกอ สลัดผลไม้ สลัดมักกะโรนี และอื่นๆ อีกค่ะ เลือกตักกันตามชอบ

บาร์เครื่องดื่มแบบรีฟิลก็รวมในราคาบุฟเฟต์แล้วนะ มีทั้งชา-กาแฟ น้ำอัดลม น้ำชาแบบไม่มีน้ำตาลด้วย

อันนี้เป็นของหวานที่รวมในบุฟเฟต์ค่ะ พุงออปังแบบเนื้อแป้งพัฟเพสทรี กัดแล้วจะคล้ายๆ ครัวซองต์ แต่มีไส้ เป็นไส้คัสตาร์ดครีม ข้าวโพดปิ้งชุบน้ำตาลและชีสหวานๆ นัวๆ แล้วก็มีโคกูมัน หรือมันหวานเคลือบน้ำตาล อันนี้คือของหวานสไตล์เกาหลีขนานแท้เลย

รีวิวไลน์อาหารครบแล้ว มาเอาหมูลงเตาย่างกันดีกว่า~~~ หมูบ่มที่เราไปกี่ครั้งก็หยิบทุกครั้ง อร่อยนุ่มลิ้นจริงๆ ค่ะ ใครมากินที่นี่ยังไงก็ต้องลองหมูดรายเอจน้า

พวกเมนูอื่นๆ นอกจากหมูบ่มที่เรากินทุกรอบก็จะมีหนังหมูค่ะ ที่นี่หมักโคชูจัง ตัวหนังนุ่มไม่แข็ง ตอนย่างจะมีความดีดเปรี๊ยะๆ เล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับกระเด็นไปโต๊ะอื่นนะ 555555 เรากับแฟนชอบหนังหมูมาก เจอที่ไหนหยิบมาย่างตลอดค่ะ แนะนำเลยที่นี่หมักอร่อย

น้ำจิ้มเค้าจะเสิร์ฟมา 2 แบบค่ะ คือซัมจังและน้ำจิ้มซีฟู้ด ส่วนน้ำมันงา+เกลือนี่สามารถขอเพิ่มจากพนักงานได้เลย ถ้าเราไม่ขอร้านจะไม่ได้เสิร์ฟให้แต่แรกนะคะ สำหรับเรากินแค่ซัมจังกับน้ำมันงาเกลือนี่แหละ เดอะเบสต์ที่สุดแล้วววว

เอาของลงเตากันค่า เออ ที่นี่ปลาหมึกสายอร่อยนะสำหรับเรา แต่ส่วนใหญ่คนอื่นที่ไปกินด้วยกันลองเค้าจะว่าเหนียวกันค่ะ แต่เรากับแฟนนี่ย่างเอาๆ รู้สึกว่ามันอร่อยดี แบบหนึบๆ หนุบๆ สู้ฟัน แต่ถ้าใครไม่ชอบปลาหมึกเหนียวหน่อยก็ผ่านได้เลยค่ะเมนูนี้ ย่างพวกหมูหรือกุ้งแทน

ใครกินปิ้งย่างเกาหลีแล้วยังไม่เคยย่างกิมจิบนเตา อย่าลืมลองนะคะ เพราะเวลามันหมูมันมาโดนกิมจิที่ย่างอยู่นี่แหละ ทั้งกลิ่นทั้งรสคือดีสุดๆ ลดความเปรี้ยวของกิมจิลงได้ด้วยสำหรับใครที่ไม่ชอบกินเปรี้ยว

ย่างจนสุก ใช้กรรไกรตัดแล้วก็ลุยเลยยย แต่เวลาย่างพวกหมูหมักอย่าชะล่าใจทิ้งไว้นานนะ ไม่งั้นจะไหม้แบบในรูปได้ค่ะ 555555 มันมีพวกซอสหมักทำให้กระทะไหม้ไว ซึ่งตามมาตรฐานร้านปิ้งย่างเกาหลี เรียกพนักงานขอเปลี่ยนตะแกรงได้เลยนะ ที่นี่บริการดีมากค่ะ เติมน้ำจิ้ม เปลี่ยนตะแกรง เติมถ่าน ไม่มีอิดออดเลย แต่ถ้าวันไหนเจอคนเยอะอาจจะช้าหน่อยนึงค่ะ

ปิดรีวิวด้วยรูปนี้ บอกเลยว่าห่อเสร็จเข้าปากปุ๊ปแล้วเหมือนได้ยินเสียง พ็อพ! ดังในหัวเลย ฟีลแบบความอร่อยแตกซ่านในปาก เป็นโมเมนท์โปรดทุกครั้งเวลาที่ได้กินปิ้งย่างเกาหลีเลย การเอาหมูย่าง กระเทียมเกรียมๆ กิมจิผัด มารวมกันห่อผักนี่แหละคือที่สุดแล้ว เห็นแล้วก็อยากกินอีกกกก

เราไม่ค่อยมีข้อติของที่นี่เลยค่ะ อาจจะเพราะไปมาหลายรอบก่อนตัดสินใจทำรีวิวด้วย เลยค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นร้านที่ไปแล้วไม่ผิดหวัง แต่ก็มีเรื่องเวลากินที่อยากให้เพิ่มอีกสัก 30 นาทีก็จะดีมากค่ะ สำหรับเรา 1.30 ชั่วโมงแอบต้องเร่งรีบไปหน่อย สำหรับไลน์อาหารที่เยอะมากขนาดนี้ เพราะไปครั้งแรกนี่เลือกกินไม่ถูกเลย กว่าจะตักเสร็จหมดไปแล้วครึ่งชั่วโมง เหลือกินได้อีกไม่นานก็หมดเวลาแล้ว พอไปรอบสองรอบสามถึงจะรู้ว่าควรตักอะไรบ้าง ไลน์อาหารอะไรอยู่ตรงไหน คราวนี้ก็จะง่ายและรวดเร็วกว่าเดิมหน่อย

KBBQ (เคบีบีคิว) สาขา สุขุมวิท 13
ที่อยู่: อาคาร 15 Sukhumvit Residences ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 13 ถนนสุขุมวิท แขวง.คลองเตยเหนือ เขต.วัฒนา กทม. 10110
เบอร์ติดต่อ: 096-771-1000
เวลาเปิด-ปิด: 11.30 – 22.00 น.
พิกัด GoogleMaps: maps.app.goo.gl/DzfQtHxJYcSJfgZ66
Facebook:
KBBQ SUKHUMVIT

สำหรับสาขาอื่นๆ สามารถโทรสอบถามได้ตามข้อมูลนี้เลยนะคะ
สาขาเดอะสตรีทรัชดา โทร. 096-173-0555
สาขาลาดพร้าว (ติดสถานี MRT ลาดพร้าว 83) โทร. 083-229-8999
สาขารังสิต ใกล้ ม.กรุงเทพ (โครงการ The Forest) โทร. 083-249-8999
สาขานวมินทร์ (แม็กซ์แวลู นวมินทร์) โทร. 090-270-0009
สาขาบางนา (ซอยบางนา-ตราด 23) โทร. 02-396-0375

เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.