ชวนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ที่ Kirimaya เขาใหญ่

ทริปเขาใหญ่ปลายปี 2020 ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปพักที่โรงแรมคีรีมายาค่ะ แน่นอนว่าต้องเอารีวิวมาฝากตามเคย โรงแรมนี้ส่วนตัวเคยไปพักมาตอนที่เค้าเพิ่งเปิดไม่นาน ซึ่งก็ผ่านมาเป็นสิบปีเห็นจะได้ ตอนนั้นยังเป็นเด็กๆ อยู่ ไปเขาใหญ่ช่วงหลังๆ มานี้จะเลือกพักที่ DusitD2 ตลอดเลย เหมือนเป็นที่ประจำไปแล้วค่ะ (อ่านรีวิว DusitD2 คลิก)

แต่ครั้งนี้ได้กลับมาพักที่ Kirimaya Golf Resort Spa อีกครั้ง รู้สึกดีใจมากเพราะบรรยากาศยังดีเหมือนเดิม แม้ห้องพักจะมีการปรับเปลี่ยนด้านในไปบ้าง แต่รวมๆ ที่จำได้บรรยากาศและการเอาใจใส่ของพนักงานคือเต็มสิบ สมกับเป็นโรงแรม 5 ดาว ภายในห้องอาจมีร่องรอยการใช้งานเยอะไปบ้าง แต่ด้วยความเป็นโรงแรมเปิดมานาน แต่เราว่าทางรีสอร์ทดูแลดีจนทำให้ห้องและรอบๆ ไม่ได้ดูเก่าลงขนาดนั้นค่ะ ยังสวยและพักสบายมาก

ใครที่เคยมาพักในคีรีมายาจะรู้ดีว่าที่นี่เค้ามีสนามกอล์ฟในตัวรีสอร์ทด้วย ขนาดใหญ่และมีบริการครบครัน ในบริเวณเดียวกันจะมีอีก 2 รีสอร์ทแยกออกไปค่ะ นั่นก็คือ Atta Lakeside Resort และ Muthi Maya Pool Villa ซึ่งสไตล์การตกแต่งและห้องพักก็จะต่างจากคีรีมายาเลยค่ะ ใครสนใจสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ในเพจและเว็บไซต์นะ เดี๋ยวเราจะลงรายละเอียดทุกอย่างของโรงแรมไว้ให้ที่ด้านล่างหลังจากรีวิวจบเหมือนที่ทำกับทุกโพสต์เลยค่า

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด


การเดินทางมายังคีรีมายาก็ไม่ยากค่ะ ขับบนถนนธนะรัชต์มาจนเจอทางแยกขึ้นอุทธยานเขาใหญ่ให้เลี้ยวซ้าย
ขับต่อจากแยกมาอีกประมาณเกือบ 9 km ทางเข้ารีสอร์ทจะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ (เปิดกูเกิลแมพได้เลยพิกัดไม่มั่วค่ะ)

พอถึงโรงแรมแล้วก็ไปเช็คอินกันเลย ล็อบบี้ที่นี่จะเป็นแบบเปิดโล่งสบาย โอเพ่นแอร์ไปเลย

การตกแต่งจะเป็นสไตล์ไทยๆ หน่อย แต่ก็ไม่ได้ไทยโบราณขนาดนั้นค่ะ ยังมีความร่วมสมัยบ้าง

ก่อนเช็คอินก็ล้างมือกันหน่อย ที่นี่มาตรการป้องกันโควิดก็ตามมาตรฐานค่ะ

มีฉากกั้นระหว่างพนักงานและแขกเพื่อรักษาระยะห่าง ปากกาที่ให้เราเซ็นหรือกรอกข้อมูลก็ทำความสะอาดแล้วค่ะ

ที่ล็อบบี้มีดีวีดีหนังให้ยืมไปดูได้ที่ห้องพักด้วยนะคะ ของคีรีมายาจะน้อยหน่อย แต่ถ้าใครอยากเลือกเยอะไปดูที่อัตตาได้ค่ะ

หนังสือก็มีให้ยืมอ่านได้นะ

เช็คอินเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะพาเราเดินไปยังห้องพักค่ะ ตอนเราไปเป็นช่วงไหว้พระจันทร์
ทางรีสอร์ทมีงาน Lantern to The Moon จัดแสดงโคมไฟกระดาษสวยงามทั่วทั้งรีสอร์ทค่ะ
(มีรูปรีวิวงานโคมไฟเพิ่มเติมที่ด้านล่างโพสต์น้า)

ตึกที่เราพักครั้งนี้อยู่ตึกแรกเลยค่า โชคดีไม่ต้องเดินไกลหรือเรียกรถกอล์ฟมารับ สะดวกใกล้ที่จอดรถด้วยแหละ

ได้ห้องพักหมายเลข 111 ค่ะ อยู่ที่ชั้นพื้นดินเลยนะเพราะเราจองมาเป็นห้อง Plantation View

ก่อนวันเดินทางมีแจ้งกับพนักงานฟรอนท์ไว้ว่าเป็นทริปครบรอบกับแฟนค่ะ ทางโรงแรมจัดห้องไว้ให้แบบนี้ น่ารักมากๆ

ห้องพักสะอาดและไม่ดูเก่าหรือโทรมเลยสำหรับเรานะ เค้าคงดูแลและปรับปรุงอยู่ตลอดแหละ

ทีวีและเครื่องเล่นดีวีดีค่ะ มีให้แบบนี้ทุกประเภทห้องเลย ห้องพักที่อยู่บนตึกจะมี 3 แบบค่ะ
คือ Plantation View และ Horizon View (ต่างกันแค่อยู่ชั้นบนและชั้นพื้นดิน ตึกมีแค่สองชั้น)
อีกไทพ์จะเป็น Terrace Suite จะกว้างขึ้นและมีพื้นที่ห้องน้ำและระเบียงใหญ่เป็นพิเศษ
ส่วนไทพ์สุดท้ายจะเป็นแบบเตนท์ขนาดใหญ่สำหรับ 2 คน มีเตียงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบค่ะ

เครื่องชงกาแฟเป็นของ Nespresso ตอนไปช่วงไหว้พระจันทร์ เลยมีขนมไหว้พระจันทร์ให้ด้วยล่ะ

มีวิธีใช้เครื่องให้พร้อมสำหรับคนไม่เคยใช้ด้วยค่ะ

ที่นี่ของในตู้เย็นและขนมในมินิบาร์สามารถรับประทานได้ฟรีหมดเลยนะคะ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำเปล่า

ขนม ชา กาแฟซอง น้ำตาล ครีมเทียม ขนมฟรี แก้วน้ำ จานต่างๆ มีพร้อมค่ะ

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบราวไม้ไผ่เก๋ๆ ชุดคลุมอาบน้ำสองตัวแขวนเตรียมไว้ให้

มีเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยไว้ให้ด้วยค่ะ เป็นโรงแรมที่ใส่ใจแขกดีจัง ประทับใจ

สลิปเปอร์ที่นี่เป็นแบบสานด้วย ใส่สบายเท้าอยู่นะ

ในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ อยู่ติดกระจกเลย ถ้าเอาม่านขึ้นจะสามารถดูทีวีไปแช่น้ำไปได้แหละ

อ่างอาบน้ำเห็นจากรูปดูเหมือนจะไม่ใหญ่ แต่จริงๆ คือใหญ่มาก แช่สบายสุดๆ เหยียดตัวนอนได้เลย ขายาวแค่ไหนก็ไม่ติด

Amenities ต่างๆ แปรงสีฟัน สบู่ แชมพู โลชั่น คอตตอนบัด สำลีครบ

ที่นี่ฝักบัวน้ำแรงและไม่บาดผิว อาบสบายมาก ชอบฝักบัวทรงนี้ด้วยแหละค่ะ 5555 น้ำเย็นร้อนปรับได้ทันใจ เสถียรสุด

ระเบียงห้องของเรา ที่นั่งริมระเบียงกว้างมาก นอนดูวิวสบายมากกก

วิวที่ได้เป็นสระว่ายน้ำและห้องอาหารค่ะ ถ้าใครอยากได้วิวแบบธรรมชาติล้วน แนะนำให้แจ้งตอนเช็คอินว่าขอตึกที่ไม่ใช่วิวสระ
แต่สำหรับเราโอเคมากเพราะถึงจะเป็นวิวสระ แต่ช่วงที่ไปคือแขกน้อยค่ะ ไม่พลุกพล่านเลย ห้องอาหารก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
ที่สำคัญช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลโคมกระดาษ ทำให้เราได้เห็นวิวโคมแดงที่ริมสระน้ำทั้งกลางวันและกลางคืน สวยมากค่ะ

มาดูส่วนอื่นๆ ภายในรีสอร์ทกันค่า แผนที่ของคีรีมายา เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรย่อมๆ ก็คงไม่เว่อร์เกินหรอกเนอะ 555

ที่นี่เราสามารถใช้โทรศัพท์ที่มีอยู่ตามจุดต่างๆ เรียกรถกอล์ฟมารับ-ส่งได้ตลอดเลยนะคะ

ข้ามไปดูอีกฝั่งของสระน้ำกัน

เทศกาลโคมกระดาษของรีสอร์ทจะมีจุดที่ให้แขกที่ซื้อโคมไปเพนท์และแขวนไว้ตรงนี้ได้ด้วยค่ะ น่ารักมากก

มีลานรวมตัวทำกิจกรรมใกล้สระน้ำด้วย ใครไปเป็นหมู่คณะก็มาใช้สถานที่ตรงนี้ได้ค่ะ

รังนกเก๋ๆ ก็มีให้มาถ่ายรูปแหละ

ห้องอาหารริมสระตรงนี้ชื่อห้องอาหาร Acala เมื่อก่อนแขกที่นี่กินข้าวเช้าตรงนี้ค่ะ
ตอนเราเด็กก็กินตรงนี้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปกินรวมที่ Atta แทนค่ะ

สระว่ายน้ำที่นี่ตอนไม่มีคนลงเล่นน้ำจะนิ่งมาก สะท้อนทุกอย่างชัดแจ๋ว ไม่ได้ใช่ฟิลเตอร์ใดๆ เลยนะคะรูปนี้

สระอาจไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่บรรยากาศและความสงบคือดีมากๆ แบบนี้เราถึงชอบไปเที่ยววันธรรมดาค่ะ คนน้อย

แวะมาที่คลับเฮาส์กันบ้าง ที่นี่จะมีฟิตเนสและสปาด้วยนะ หรือใครที่จะไปออกรอบตีกอล์ฟก็แวะมาดูคอร์สที่นี่ได้ค่ะ

Maya Spa บรรยากาศรอบๆ น่ามานวดตัวเป็นที่สุด เงียบสงบ ลมพัดเย็นๆ ใครสายทำสปาเราว่าต้องชอบแน่เลย

ฟิตเนสมีอุปกรณ์ให้ใช้ประมาณนึง ไม่เยอะไม่น้อยไป มีห้องอาบน้ำและล็อคเกอร์ให้พร้อมค่ะ

ได้เวลาอาหารเช้ากันค่ะ ก่อนอื่นก็เรียกรถกอล์ฟมารับหน้าตึกได้เลย ไม่ก็เดินมาที่หน้าทางเข้าก็ได้ มีรถจอดรอบริการอยู่

เรากินอาหารเช้ากันที่ Atta เนอะอย่างที่บอกไป ก็จะได้เจอวิวสระของอัตตาและวิวภูเขากว้างๆ ระหว่างกินอาหารแบบนี้

เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอกเลยค่ะ อากาศช่วงเช้าเย็นสบายมากๆ ไม่ต้องมีห้องแอร์ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่

เวลาอาหารเช้า 6.00 – 10.30 น.

สลัดมีให้เลือกหลากหลายดี ทั้งผักสดและน้ำสลัด

โคลด์คัทต่างๆ ชีส โบโลนา ด้านบนมีผลไม้อบแห้ง แครกเกอร์

แกงมัสมั่น มะเขือเทศเชอร์รี่ย่าง ถั่วอบ มันฝรั่งผัด แพนเค้ก

ไส้กรอกหมู (มีไก่ด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายมาค่ะ) เบค่อนที่นี่กรอบอร่อยกำลังดี ไม่แข็งเกิน เลิฟเลยยย

ชอบที่นี่ตรงที่มีกับข้าวต้มเยอะสะใจมาก เราชอบกินพวกข้าวต้มขาวกับปลากรอบ ที่นี่มีปลากรอบด้วย ถูกใจที่สุด

ขนมอบต่างๆ เบเกอรี่ก็น่ากินทุกอย่าง ครัวซองต์อร่อยค่ะ กินกับเนยเค็มนะ หืมมม อ้วนก็ยอม

มีเฟรนช์โทสต์และแพนเค้กตรงนี้ แยม น้ำผึ้ง เมเปิลไซรัป

ปาท่องโก๋และซาลาเปาทอด ทอดสดๆ ตรงหน้าเลยค่ะ อร่อยมากกกก จิ้มนมข้น ดีย์

แสงหลอกๆ ตาหน่อยนะคะ โต๊ะที่เรานั่งแสงธรรมชาติเข้าไม่ค่อยถึง แถมมีไฟส่องอีก 5555 ปรับแต่งได้ประมาณนี้แล

ปาท่องโก๋สุดโปรด ขนาดเราเอามาบีบน้ำมันออกให้แบนแต๋ก่อนกิน ก็ยังอร่อยมากอยู่ดี

มื้อเช้าจุกๆ อิ่มจนไม่กินมื้อเที่ยงค่ะพูดเลย อาหารไทยอร่อยมาก วันที่สองมีแกงเขียวหวานด้วย กินเกลี้ยงจานค่ะ

อ่ะ หมดอาหารเช้าแล้ว มาดูโคมกระดาษที่ตกแต่งไปทั่วโรงแรมกันดีกว่าเนอะ เราคิดว่าโรงแรมน่าจะมีจัดทุกปีช่วงไหว้พระจันทร์นะคะ

ตอนกลางวันตรงนี้จะคัลเลอร์ฟูลมากกก สวยแบบมองเห็นได้ชัดเจนสวยงาม

ส่วนกลางคืนจะสวยอีกแบบเลยค่ะ พอไฟเปิดแล้วรอบข้างมืด โคมจะเด่นสุดๆ

บอกเลยว่าใครไปเขาใหญ่ช่วงที่เค้าจัดงาน อย่าพลาดไปถ่ายรูปนะ คนนอกก็เข้าได้นะคะ แต่มีค่าเข้าชม 200 บาทต่อคน
แต่ไม่ใช่ว่าเสียเงินฟรีนะคะ ถ้าซื้อบัตรเข้าชมงาน จะได้เครดิต 200 บาทกลับมาแลกเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มก็ได้จ้า

โคมแดงตรงสระว่ายน้ำตอนกลางคืนก็สวยเด่นไม่แพ้โคมสีๆ โรแมนติกสุดๆ

ใครอยากมาถ่ายรูปแบบนี้ ติดตามเพจโรงแรมไว้เพื่ออัพเดทรายละเอียดเทศกาล Lantern to The Moon ในปีต่อๆ ไปได้น้า

โดยรวมการเข้าพักที่คีรีมายายังทำให้เราประทับใจได้อยู่ไม่ต่างจากที่เคยมาพักตอนเด็กเลยค่ะ
เราว่าเค้าคงคุณภาพการบริการได้ดี ดูแลอาคารที่พัก ห้องพัก และบรรยากาศรอบๆ ได้ดี ไม่รู้สึกเก่าเลย
อาหารเช้าแม้จะต้องนั่งรถกอล์ฟไปกินที่อัตตา แต่สำหรับเราไม่รู้สึกลำบากเลยนะ ชอบด้วยซ้ำ 5555
ได้เห็นวิวในรีสอร์ทหลากหลายระหว่างทาง แถมวิวสระน้ำตรงอัตตาก็สวยมากค่ะ อาหารเช้าอร่อยมาก
แต่วันสุดท้ายเจอฝนตกหนักค่ะ การนั่งรถกอล์ฟเลยเลอะเทอะเล็กน้อย ถ้าไม่มีเรื่องฝนก็ไม่มีอะไรที่ไม่ชอบเลยค่ะ

Kirimaya Golf Resort Spa Khao Yai
ที่อยู่: 6 1/3 ถ.ธนะรัชต์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130
เบอร์โทรศัพท์: 044-426-000
เว็บไซต์: www.kirimaya.com
Facebook: fb.com/kirimayakhaoyaiofficialpage

เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.