แจกพิกัด 25 ร้านเด็ดใน Seoul ที่เลือกมาแล้วว่าอร่อยชัวร์ไม่มั่วนิ่ม ♡

สวัสดีค่ะ ห่างหายการเขียนรวบรวมรีวิวร้านอาหารแบบนี้ไปนานมากกกกก
เกาหลีอีดิชั่นก็กลับมาแล้วอย่างเป็นทางการ เย้! รอบนี้เป็นการรวมร้านอาหารเด็ดดวง
จากทริปเกาหลีเมื่อต้นปีที่เราไปกินกันมาอย่างหนักหน่วงไว้ด้วยกันนะคะ
ซึ่งก็จะมีทั้งร้านเก่าที่เคยกินและเคยรีวิวไปแล้ว และมีร้านใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเยอะเลยค่ะ

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด

ซึ่งใครอยากอ่านของเวอร์ชั่นปี 2017 ที่เคยรวบรวมและแจกพิกัดก็สามารถอ่านได้จากที่นี่เลย
แจกลายแทง 15 ร้านอร่อยใน Seoul (แต่แนะนำให้หาข้อมูลอัพเดทด้วยนะคะ เผื่อร้านไหนปิดไปแล้ว)
เพราะว่าร้านอาหารที่เกาหลีส่วนใหญ่จะผลัดเปลี่ยนสัญญาตึกค่อนข้างไวค่ะ บางทีไปเดือนนี้ร้านยังอยู่
แต่พอเดือนต่อไป ร้านปิดหรือย้ายก็มีนะคะ ถ้าหาข้อมูลอัพเดทได้ก็จะได้ไม่ผิดหวังตอนไปถึงเนอะ

ส่วนร้านเด็ดใหม่ๆ ที่เราจะแนะนำทุกคนในรอบนี้ รวมมาให้ถึง 25 ร้านด้วยกันจ้าาา
เยอะกว่ารอบก่อนถึงสิบร้าน เราก็หาข้อมูลจากเพจแนะนำร้านอาหารของเกาหลีด้วย
จาก Naver แนะนำด้วย แล้วแต่ว่าตอนนั้นอยากกินอะไร

ก่อนไปอ่านรีวิวทั้งหมด มีทิปเล็กๆ น้อยๆ อยากฝากให้เพื่อนๆ อ่านกันสักนิดค่ะ
เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่หัดเที่ยวเนอะ

หมายเหตุ: โพสต์นี้มีรูปภาพค่อนข้างเยอะ ถ้าหากว่าพบรูปภาพไหนที่ไม่โหลด
ให้ลองรีเฟรชหน้าหรือคลิกขวา reload รูปภาพนะคะ

Tips เล็กๆ น้อยๆ จาก TwinkleBaby ในการเที่ยวเกาหลี

– แอพ Naver Map ค่อนข้างสะดวกและใช้ได้ดีกว่า Google เพราะคนเกาหลีไม่นิยมใช้เสิร์ชเอนจินอื่นๆ
นอกจากของบ้านตัวเองเท่านั้น (Naver, Daum และอื่นๆ) ถ้าโหลดมาแล้วก็สามารถก๊อปชื่อร้านภาษาเกาหลีที่เราใส่ไว้
พอถึงที่โน่นก็เอาที่ก๊อปไว้ไปวางในช่องค้นหา แล้วก็เดินตามพิกัดได้เลยค่ะ สะดวกกว่ามากๆ

– บางทีเวลาเราอยู่ที่โน่นแล้วเบื่อไม่รู้จะกินไรดี เราจะเข้า Naver ละพิมพ์สถานที่ที่เราอยู่ ณ ตอนนั้น
แล้วเสิร์ชต่อด้วยคำว่า “맛집” (มัทจิบ) แปลว่า “ร้านอร่อย”
ข้อมูลร้านอาหารแถวนั้นก็จะขึ้นมาให้เลือก แล้วเราก็เลือกร้านที่น่าสนใจแล้วเดินตามพิกัดเลยค่ะ
ใครพออ่านเกาหลีออกนำไปใช้ได้นะคะ

ยกตัวอย่างเช่นสมมติตอนนี้เราอยู่ฮงแด แล้วไม่รู้จะกินอะไร
ก็เสิร์ชว่า 홍대 맛집 (ฮงแดมัทจิบ) แบบนี้ค่ะ วิธีนี้แนะนำสำหรับคนที่อ่านภาษาเกาหลีได้

– สำหรับคนที่จดพิกัดและตามรีวิวไป อย่าลืมเช็ควันเดือนปีของรีวิวนั้นๆ ด้วยนะคะ
ถ้าเริ่มเก่าสัก 1-2 ปีขึ้นไปเนี่ย อาจจะต้องเผื่อใจว่าไปถึงร้านอาจจะไม่มีแล้วค่ะ
เพราะเกาหลีเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าตามตึกร้านค้าแบบนี้ค่อนข้างบ่อยค่ะ
น้อยร้านที่จะอยู่นานเกิน 5-10 ปีค่ะ แนะนำให้เช็คดูก่อนว่าร้านยังเปิดมั้ย

วิธีเช็คง่ายๆ ก็คือเอาชื่อร้านไปเสิร์ชในเว็บ naver.com ได้เลยค่ะ (ในกรณีที่มีชื่อร้านภาษาเกาหลีเท่านั้น)
ถ้าเสิร์ชแล้วไม่ขึ้นพิกัดหรือรีวิวเมื่อเร็วๆ นี้ ร้านอาจจะปิดไปแล้วก็ได้ค่ะ

– พิกัดในแมพไม่ได้แม่นยำเสมอไปนะคะ แม้จะเป็น Naver Map เองก็ตาม
บางร้านก็มีการปักหมุดมั่ว ทำให้เราหลงทางได้ค่ะ ควรแคปรูปหน้าร้านที่ต้องการจะไป
เก็บใส่มือถือไว้เผื่อด้วย พอไปถึงถ้าเดินตามพิกัดแล้วไม่เจอจริงๆ เราก็ยังเปิดรูปเทียบแล้วหาต่อได้

– ควรรู้ศัพท์ในการสั่งอาหารและเรียกเก็บเงินไว้ด้วยค่ะ
บางร้านที่โลคัลมากๆ เจ้าของร้านไม่ได้ภาษาอังกฤษเลยก็เยอะค่ะ

เรียกสั่งอาหารง่ายๆ ได้ด้วยการพูดว่า “ชอกีโย ชูมุนัลเกโย” (주문할게요)
แล้วก็พูดชื่อเมนูหรือชี้เมนูได้เลยค่ะ ส่วนเวลาเรียกเก็บเงินให้พูดว่า
“คเยซาเน ชูเซโย” (계산해주세요) แปลว่า คิดเงินด้วยค่ะ/ครับ

ประมานนี้ค่ะ ร่ายยาวมากแล้วเนอะ ไม่เสียเวลาไปดูรีวิวทั้ง 25 ร้านกันเลยดีกว่า เล็ทซโก!


ร้านที่ 1

ชื่อร้าน: 정직한 남자의 육판 (정남육) | สถานี Sinchon ทางออก 2
คำอ่านภาษาไทย: ชองจิคัน นัมจาเอ ยุกพัน (คนเกาหลีจะเรียกย่อๆ ว่าชองนัมยุกหรือยุกพัน)
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 육판 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: บุฟเฟ่ต์หมู-เนื้อย่าง / สั่งอลาคาร์ทก็ได้
เวลาเปิด-ปิด: 12:00 – 05:00 น.
จุดเด่น: ร้านนี้มีให้เลือกทั้งมูฮันรีฟิล(บุฟเฟ่่ต์) และแบบสั่งเป็นเซ็ตนะคะ เราว่าแบบบุฟเฟ่ต์คุ้มกว่า
มีหลายราคาเริ่มตั้งแต่ 8900 วอนขึ้นไปค่ะ เมนูที่จะได้ก็จะต่างกันตามราคา ให้ดูรูปเมนูได้เลยว่าสั่งราคาไหนคุ้มกับเราสุด
การเดินทาง: จากสถานีชินชนทางออก 2 ให้เดินตรงมาเรื่อยๆ จนเจอร้าน minigold เลี้ยวซ้ายเดินตรงเรื่อยๆ ตามพิกัดที่ปักหมุดค่ะ
ใครกลัวหลงแนะนำเปิด Naver Map เดินตามได้เลย เจอร้านแน่นอนไม่มีพลาด ในซอยนั้นของกินเพียบ

****ร้านนี้อัพเดทล่าสุด เดือน11/2019 ร้านปิดแล้วค่ะ****

รูปหน้าร้านค่ะ ร้านนี้จะมีหลายเซ็ท หลายแบบให้เลือกทั้งบุฟเฟ่ต์และอลาคาร์ท
บุฟเฟ่ต์เริ่มที่ 8,900 วอน (จะเป็นหมูอย่างเดียว) จริงๆ ราคาดีงามมากนะ

ภายในร้านสะอาดสะอ้าน มีที่นั่งเยอะพอสมควรนะคะ คนไม่เยอะมาก
มีเด็กอีแดมานั่งกินเป็นกลุ่มๆ คู่รักบ้างอะไรบ้าง พนักงานบริการดีค่ะ

เมนูแบบมูฮันรีฟิลหรือบุฟเฟ่ต์ค่ะ มีทั้งหมด 5 ราคา เริ่มตั้งแต่ A-E
แต่ละเซ็ทจะมีชนิดของหมูและเนื้อเพิ่มเรื่อยๆ ตามราคา มีภาษาอังกฤษให้ด้วย

อันนี้เป็นเมนูแบบอลาคาร์ทค่ะ เริ่มตั้งแต่ 2 หมื่นนิดๆ
ไปจนถึง 6 หมื่นกว่าๆ เนื้อก็พรีเมี่ยมขึ้นตามราคา

เซลฟ์บาร์ค่ะ มีข้าวฟรี เครื่องเคียงฟรี ซุปฟรี

ผักห่อ กระเทียมเอาไปย่างได้ แล้วก็พริกค่ะ ทั่วๆ ไป

เราเลือกกินเป็นเซ็ท D นะคะ ได้หมูทุกส่วนและได้เนื้อติดมัน (อูซัมกยอบ)
มาด้วย ราคาหัวละ 11,900 วอนเท่านั้น คุ้มสุดๆ เนื้อก็ดีด้วยนะ ไม่ได้มาแบบเหนียวๆ แย่ๆ อร่อยเลยแหละ

เบิ้ลอีกจานขอเค้าเอาแต่อูซัมกยอบ (เนื้อติดมัน) อย่างเดียวเพราะว่ากินหมูไม่ไหวละ
อิ่มเกิน ร้านก็ใจดีค่ะ ให้ด้วย บางร้านขอเฉพาะส่วนไม่ได้นะ ต้องสั่งใหม่ทั้งจาน

ตอนใกล้อิ่มก็สั่งข้าวมา วางบนเตาแบบนี้ รอให้ร้อน
ชีสละลายแล้วก็คลุก เป็นการปิดมื้อที่อิ่มหนำฉ่ำใจสุดๆ

สักคำมั้ยคะ อร่อยนะบอกเลยยยยยย 55555

พิกัดจากทางออก 2 สถานี Sinchon ค่ะ เดินตามที่เราบอกด้านบนได้เลย ไม่หลงชัวร์


ร้านที่ 2

ชื่อร้าน: 어바웃 샤브 (About Shabu) สาขาอีแด | สถานี Ewha Woman Univ. ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: อาบาอุท ชยาบือ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 어바웃샤브 이대점 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: เซ็ตชาบูเสิร์ฟพร้อมผักและเส้นสด
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: น้ำจิ้มอร่อย ซุปมีให้เลือกสามแบบ เราชอบซุปปลาคัตสึโอะที่สุดค่ะ กลมกล่อม
การเดินทาง: สถานี Ewha Woman Univ. ทางออกสาม เดินตรงไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงประตูมหาลัย
ร้านอยู่ชั้นสองขวามือ ด้านล่างเป็นร้าน Chouet

ร้านนี้เข้าได้สองทางนะคะ จากบันไดข้างร้าน Chouet
หรือจะเดินขึ้นทางชันมานิดหน่อยเพื่อเลี้ยวขวา มาเข้าข้างๆ ร้านพิซซ่าก็ได้

ร้านนี้เราเคยเขียนรีวิวตั้งแต่กระทู้เก่าเวอร์ชั่นปี 2017 แล้วนะคะ
แน่นอนว่าเป็นร้านโปรดสมัยเรียน ทำให้เรากลับไปกินอีกและเอามาลงในลิสต์อีกครั้ง

วันนี้มากินเป็นเซ็ตกลางวันค่ะ เลือกเซ็ตเนื้อวัว ก็จะได้เนื้อสำหรับสองคน
เส้นบะหมี่สด ผัก เลือกซุปเป็นซุปปลาคัตสึโอะเหมือนเคย อร่อยไม่เปลี่ยน

ชาบูแบบเกาหลีนี่ กินแล้วรู้สึกได้ว่าเป็นอาหารสุขภาพจริงๆ
เค้าจะเน้นผักมากๆ แล้วก็เนื้อจะไม่ใช้ส่วนติดมันเท่าไหร่ค่ะ ซุปก็จะคลีนๆ สะอาดๆ

น้ำจิ้มเด็ดดวง ที่โดนใจเรามาตั้งแต่ยังเรียนที่อีแด ชอบมากกก
ยิ่งตัวที่เป็นซอสงาๆ สีขาว มันเหมือนจะเลี่ยนนะ แต่คืออร่อยมาก 555

แผนที่จากสถานี Ewha Woman Univ. ทางออก 3 ค่ะ


ร้านที่ 3

ชื่อร้าน: 빈스빈스 (BEANSBINS) สาขาอีแด | สถานี Ewha Woman Univ. ทางออก 2
คำอ่านภาษาไทย: บีนสึบินสึ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 빈스빈스 이대점 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ร้านกาแฟ เครื่องดื่มและของหวาน
เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: วาฟเฟิลทำสดจานต่อจาน มีหลากหลายท็อปปิ้งและรสชาติ ไอศกรีมฮาเก้นดาสทุกรสชาติ ใช้ผลไม้สดหวานฉ่ำ
การเดินทาง: สถานี Ewha Woman Univ. ทางออก 2 เดินตรงไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงประตูมหาลัย ร้านอยู่ชั้นสองของ Olive Young

*ร้านนี้มีหลายสาขาทั่วโซลเลยค่ะ เจอที่ไหนก็เข้าได้โลดดด

เป็นอีกหนึ่งร้านที่ติดโผของเราทั้งปี 2017 และปีนี้ค่ะ
เป็นร้านที่ไปทีไรก็ต้องแวะเข้าไปกินวาฟเฟิลสักหน่อยน่ะ มันอร่อยจริงๆ 55555

แม้จะเป็นร้านกาแฟ แต่จุดเด่นที่นี่คือวาฟเฟิลเลย
จะมีหลายท้อปปิงให้เลือก ไอศกรีมของฮาเก้นดาส ทำสดทุกจาน

ปกติเราจะกินเป็นหน้าผลไม้ สตรอเบอร์รี่ กีวี่ โอริโอบ้าง
แต่รอบนี้เลือกกินเป็นวาฟเฟิลครึ่งชิ้น ช็อกโกแลตซอสกับไอติมวานิลลาค่ะ อร่อยคลาสสิค

วาฟเฟิลแบบต่างๆ อยากกินเมนูไหนก็จิ้มได้เลย อร่อยหมดทุกอย่างรับรอง

สาขาหน้ามออีแดร้านอยู่ชั้นสอง ที่นั่งเยอะ กว้าง วิวก็ดีใช้ได้เลยน้าาา

พิกัดจากสถานีอีแดทางออก 2 จ้าา


ร้านที่ 4

ชื่อร้าน: 고양이다락방 สาขาชินชน | สถานี Sinchon Univ. ทางออก 2
คำอ่านภาษาไทย: โคยางีดารักบัง
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 고양이다락방 신촌점 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: คาเฟ่แมว
เวลาเปิด-ปิด: 13:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: น้องแมวน่ารัก อัธยาศัยดี สะอาด ร้านโปร่งไม่อึดอัด
การเดินทาง: สถานี Sinchon ทางออก 2 เดินมาเรื่อยๆ จนเจอเบอร์เกอร์คิง ร้านอยู่ชั้น 3 ของตึกเบอร์เกอร์คิง

แว๊บมาคาเฟ่แมวสักหน่อย หลายคนอาจจะแบบ หือ ไปเกาหลีทั้งที ไปทำไมคาเฟ่แมวทำไม๊
แต่สำหรับคนไปโซลบ่อยและไปทีนานเป็นสิบวันแบบเรา เวลาว่างค่อนข้างเหลือค่ะ
เพราะเวลาเราไปเกาหลีเราไม่ได้เน้นไปเที่ยวอะไร เน้นกลับไปกินของอร่อย หาเพื่อน
แล้วก็อยู่กับบรรยากาศที่คุ้นเคย เลยทำให้เรามีเวลาพอจะไปนั่งชิลคาเฟ่แมว
หรือนั่งยาวๆ ในร้านกาแฟ ทำงานจุกจิกไปด้วยได้ เหมือนไปพักผ่อนเปลี่ยนที่นอนมากกว่า

โกดาบังมีหลายสาขานะคะ มยองดง อีแด ชินชน ฮงแด ทงแดมุน คังนัม บลาๆ
เรียกได้ว่ามีเกือบทุกย่านที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเลยก็ว่าได้

เข้าไป พนักงานประจำร้านก็จะเอาใบกฏมาให้เราอ่านค่ะ แล้วพอเรารับทราบ
ก็จ่ายเงิน 9000 วอนเพื่อแลกกับเครื่องดื่ม 1 อย่างค่ะ จะมีเมนูร้อนเย็นให้เลือก
พอจ่ายแล้วก็สามารถนั่งแล้วเล่นกับน้องแมวได้เลย น้องๆ มีหลายตัว
น่ารักขี้อ้อน แต่บางตัวก็หยิ่งตามประสาแมวค่ะ 5555

เครื่องดื่มที่ได้มา เราเลือกเป็นลาเต้ร้อนนะคะ ถ้าจำไม่ผิด
ได้สติกเก้อสะสมแต้มมาด้วยแหละ รอบหน้าไปว่าจะกลับไปอีก หลงน้องแมวที่โน่นแล้ว

Cat in the box

พิกัดจากสถานีชินชนทางออก 2 ค่ะ


ร้านที 5

ชื่อร้าน: 홍대개미 สาขาชินชน | สถานี Sinchon ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: ฮงแดเกมี
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 홍대개미 신촌점 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ข้าวหน้าต่างๆ
เวลาเปิด-ปิด: 11:30 – 21.30 น. (Last Order 21.00)
จุดเด่น: ปริมาณเยอะ วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติดี แนะนำข้าวหน้าเนื้อสเต็ก ข้าวหน้าแซลม่อนดิบ ข้าวหน้ากุ้งดองซีอิ๊ว
การเดินทาง: สถานี Sinchon ทางออก 3 เดินตรงมาเรื่อยๆ จนเจอร้าน Nature Republic
ร้านอยู่ชั้นสอง ทางเข้าอยู่ด้านข้างร้าน Nature Republic

ร้านนี้จะอยู่ชั้นสองของร้าน Nature Republic ค่ะ ซึ่งในซอยร้านเนเจอร์รีพับลิคเนี่ย
จะมีอีกหลายพิกัดในโพสต์นี้เลย ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในชินชน
จากทางออกเดินมาจนถึงเนเจอร์รีพับลิค ก็จะเจอบันไดที่เป็นทางขึ้นร้านอาหารอยู่ด้านซ้ายนะคะ

บันไดหน้าตาแบบนี้เลย

ตอนนั้นไปช่วงก่อนเที่ยง คนก็เกือบเต็มร้านแล้วค่ะ ร้านนี้ดัง
คนเข้าตลอดๆ ภายในร้านมีโต๊ะไม่เยอะมาก มีชั้นวางกระเป๋าให้ด้วย

เมนูต่างๆ มีซาชิมิด้วยน้าาาา มีภาษาอังกฤษค่ะร้านนี้

พวกสลัด เมนูเส้นก็พอมีบ้างค่ะ แต่ไม่เด่นเท่าข้าว
ไฮไลท์วันนี้คือข้าวหน้าเนื้อสเต็ก 1 ปอนด์! ชามพูนๆ ที่เห็นกันในล่างสุดของเมนูนั่นเองง

เราสั่งเป็นข้าวหน้าสเต็กเนื้อ 1 ปอนด์ แฟนสั่งเป็นข้าวหน้ากุ้งดองซีอิ๊ว
พอสั่งเสร็จก็ได้ซุปมาแบบนี้ค่ะ เครื่องเคียงตักเองได้เลย

มาแล้วค่ะ ถูกใจสายเนื้อ(ดิบ)แบบเรามาก คือเราชอบกินเนื้อวัวระดับความสุกแบบ rare อยู่แล้ว
นี่เค้าย่างมาถูกใจเรามากก ใครไม่กินเนื้อดิบขนาดนี้ แนะนำให้ข้ามไปสั่งอย่างอื่นดีกว่าค่ะ
เราว่าข้าวหน้าทูน่ากับแซลม่อนเค้าก็น่ากิน รอบหน้าต้องลอง

อันนี้กุ้งดองซีอิ๊วค่ะ เนื่องจากดองมา จะกึ่งดิบกึ่งสุก แต่จะค่อนไปทางดิบมากกว่าค่ะ

เทียบไซส์ข้างๆ กันเลยยยย

วันนั้นโชคดี ได้โต๊ะมุมติดหน้าต่าง มองเห็นวิวสวยๆ ของชินชนเต็มๆ ตาเลย

พิกัดจากสถานีชินชนทางออก 3 ค่ะ


ร้านที 6

ชื่อร้าน: 티라벤토 Tiravento | สถานี Itaewon ทางออก 4
คำอ่านภาษาไทย: ทีราเบนโท
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 티라벤토 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ของหวาน, บิงซูเส้น, เครื่องดื่ม
เวลาเปิด-ปิด: 12:30 – 19.00 น. ปิดวันอาทิตย์
จุดเด่น: ต้นตำหรับบิงซูเส้นที่แรกๆ ในเกาหลีเลยค่ะ มีหลายรสชาติให้เลือก เครื่องดื่มอร่อย ชาโฮจิฉะดีงาม
การเดินทาง: สถานี Itaewon ทางออก 4 ขึ้นมาแล้วเดินเข้าซอย IBK Bank ตรงผ่านถนน Antique ไปจนเจอสามแยก
เลี้ยวขวาเดินต่ออีกนิดจะเจอป้ายบอกทางเข้าร้านค่ะ เปิดแมพตามได้เลยไม่หลงชัวร์

ร้านบิงซูเส้นอันโด่งดังใน SNS โดดเด่นที่บิงซูแบบเส้น หลากหลายรสชาติค่ะ
แต่ที่เราชอบมากกว่าคือเครื่องดื่ม โฮจิฉะของร้านนี้อร่อยมากๆ

ภายในร้านตกแต่งแบบมินิมอล ไม่ได้มีพร็อพอะไรมาก
แต่ก็ดูชิคๆ แบบเรียบง่ายดีค่ะ มีที่นั่งหลายโต๊ะอยู่นะ

ในตู้แช่จะมีเค้กและเมนูเครื่องดื่มค่ะ ขวดสวยๆ ใส่น้ำหลากสีสันเลย ชาเขียว โฮจิฉะ กาแฟ ชาเย็น ประมาณนี้ค่ะ

สั่งที่เคาท์เตอร์นี้ก่อนแล้วก็จ่ายเงิน เราสั่งเป็นบิงซูรสนม แล้วก็โฮจิฉะเย็นไป

มาแล้วววว ตอนเสิร์ฟจะมีมีดมาด้วย เราก็ตัดแล้วก็กินได้เลยค่ะ
ไอศกรีมรสนมเช่นกัน มีต๊อกกับถั่วแดงมาด้วย

ตรงนี้เค้าจะมีขายผงชงด้วยค่ะ ขวดละ 15,000 วอน น่าจะมีทุกรสชาติที่ในร้านมีขายเลยนะ

เวลาเปิดปิดค่ะ ร้านนี้ทางไปอาจจะหายากหน่อย แนะนำให้เปิดแมพเดินตามนะ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ

ทางไปร้านจากสถานี Itaewon ทางออก 4 ค่ะ


ร้านที 7

ชื่อร้าน: 키에리 Kyeri | สถานี Itaewon ทางออก 4
คำอ่านภาษาไทย: คีเอริ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 키에리 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: เค้ก, เบเกอรี่, คาเฟ่
เวลาเปิด-ปิด: 13:00 – 21:00 น.
จุดเด่น: เค้กโฮมเมด ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงในการทำค่ะ เน้นอร่อยสุขภาพดี
เค้กบางรสชาติไม่ใช้เนย ไม่ใช้แป้ง และ Low Sugar ด้วย
การเดินทาง: สถานี Itaewon ทางออก 4 ขึ้นมาแล้วเดินเข้าซอย IBK Bank มานิดหน่อย เลี้ยวขวาที่ซอยแรก
เดินต่อไปจนเจอสามแยกเล็กๆ เลี้ยวซ้าย เดินจนเจอร้าน Justin Steak ให้เดินลงบันไดที่อยู่ข้างร้านจัสตินสเต็กไปจะเจอร้านเค้กค่ะ

ร้านนี้ภูมิใจนำเสนอมาก เพราะเค้กอร่อยและบางรสชาติคือเน้นสุขภาพค่ะ
ใครกลัวอ้วนหรือคุมน้ำหนักอยู่แต่อยากกินของหวาน มาที่นี่เลยไม่ผิดหวัง

เค้กทุกรสชาติของร้าน Kyeri จะใส่ใจทั้งวัตถุดิบและคุณภาพค่ะ
ใช้ของออแกนิค บางสูตรไม่มีแป้ง ไม่มีเนย และน้ำตาลต่ำทุกรสชาติเลย

ไม่แปลกที่คนจะเยอะทั้งวันแบบนี้ ตอนเราไปโต๊ะว่างโต๊ะสุดท้ายพอดี
พอสั่งเสร็จเค้าบอกว่าให้นั่งได้แค่ 1.30 ชั่วโมง ต้องเผื่อให้คนอื่นกินบ้าง

เราสั่งเป็นบลูเบอร์รี่ชีสเค้กแบบไร้แป้งค่ะ ตัวเนื้อเค้กเนียน แน่น ละมุนและไม่หวานเกินไป รสชาติพอดีมากๆ

เครื่องดื่มเป็นกรีนทีลาเต้ หอมกลมกล่อมมากกกกก
กินชาเชียวลาเต้ร้อนมาหลายที่ ที่นี่ถือว่าเป็นอีกร้านที่ชอบมากที่สุดเลยค่ะ

เข้ากันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก TT ใครแวะๆ ไปแถวอีแทวอนต้องโดนสักครั้งนะคะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

ในใบเสร็จพนักงานจะเขียนเวลาที่เราสามารถนั่งอยู่ได้จนถึงกี่โมงเอาไว้ค่ะ
ไม่แน่ใจว่าถ้าช่วงคนน้อยจะจำกัดเวลานั่งรึเปล่านะคะ

ทางไปร้าน Kyeri จากสถานีอีแทวอนทางออก 4 ค่ะ


ร้านที 8

ชื่อร้าน: 하나노오오카미 | สถานี Sangsu ทางออก 1
คำอ่านภาษาไทย: ฮานาโนะ โอโอคามิ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 하나노오오카미 / คลิกเพื่อดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: อาหารญี่ปุ่น
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: วัตถุดิบและรสชาติดีหมดทุกเมนู อร่อยยันเครื่องเคียงเล็กๆ น้อยๆ จัดเซ็ตสำหรับสองคนขึ้นไปได้คุ้มค่าราคา
การเดินทาง: จากสถานีซังซูทางออก 1 ให้เดินตรงผ่านซอยแรกไปก่อน เลี้ยวเข้าซอยที่สอง
เดินเข้าซอยไปอีกนิดจะเจอทางแยก เลี้ยวขวา ร้านจะอยู่ชั้นสองของตึกด้านขวามือ แนะนำให้เดินเปิดแมพตามไปด้วยนะคะ

ทริปนี้เราได้กินอาหารญี่ปุ่นอยู่ไม่กี่ร้าน นี่เป็นหนึ่งในร้านที่อยากแนะนำมากๆ
เพราะอาหารสวยเก๋ ถ่ายรูปอวดเพื่อนนี่ร้องว้าวๆ แน่นอน แล้วก็อาหารรสชาติดี
ปริมาณกับคุณภาพไปด้วยกันได้ ไม่เสียดายเงินเลยค่ะ อร่อยอิ่มคุ้มค่า มีเซ็ทเมนูตั้งแต่ 2-4 คน ถือว่าดีงาม

แต่เมนูจะไม่มีภาษาอังกฤษเลยนะคะ เราไม่แน่ใจพนักงานพูดอิ๊งได้มั้ยเพราะเราคุยเป็นเกาหลี
แต่ว่าเมนูก็จะมีรูปบอกอยู่บ้างค่ะ แนะนำให้เลือกเป็น Set Menu (จะอยู่ด้านขวาสุดของรูป)
เลข 2-4 จะเป็นเซ็ตที่บอกจำนวนคนค่ะ ไปสองคนก็สั่งเซ็ทที่เขียนเลข 2 ไป 3 คนก็เลข 3

ร้านอยู่ชั้นสองค่ะ ขึ้นลิฟต์หรือบันไดก็ได้ตามสะดวก ร้านใหญ่ไม่อึดอัด เก้าอี้นั่งสบาย

เราสั่งเซ็ทสำหรับ 2 คน ซึ่งเซ็ทสองคนจะได้เลือกว่าจะเอาแบบ A หรือ B ค่ะ
จะแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ แบบ A จะไม่ได้แซลม่อนซาชิมิแต่จะมีหม้อร้อนเพิ่มมาให้
ส่วนแบบ B จะเป็นแบบตามรูปเราเลยค่ะ

เซ็ทข้าวและเครื่องเคียง อร่อยทุกอย่างบอกเลย กินเกลี้ยงยันซุปและสลัด

เนื้อวัวย่าง ก่อนย่างเค้่าจะเอาเนยมาลงก่อนแล้วก็ลงเนื้อให้
เราก็ต้องคอยพลิกมันด้วยนะคะ นี่มัวแต่ถ่ายรูปเนื้อเกือบไหม้

สายเนื้อวัวถูกใจแน่นอนจ้าาาา

คาราอาเกะที่นี่อร่อยมาก ตอนแรกก็คิดว่าคงเฉยๆ เหมือนที่เคยกินตามร้านทั่วไป
แต่คือซอสจิ้มกับแป้งทอดเค้ามันอร่อย มีรสชาติ ไม่ใช่เล่นๆ เน้อ

จากสถานี Sangsu ทางออก 1 ค่ะ เดินตามนี้ได้เลย


ร้านที 9

ชื่อร้าน: 김도사 불백 สาขาชินชน | สถานี Sinchon ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: คิมโดซา บุลแพ็ก
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 김도사 불백 신촌점 / คลิกเพื่อดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: เซ็ตอาหารเกาหลี / บุลโกกิ / บุลแพ็ก
เวลาเปิด-ปิด: 11:30 – 21:30 น.
จุดเด่น: ราคาและปริมาณถือว่าคุ้มค่า รสชาติอาหารดี ในเซ็ตมีของให้เลือกหลากหลาย
การเดินทาง: จากทางออก 3 สถานีชินชน เดินมาเรื่อยๆ จนเจอ Nature Republic
เลี้ยวขวาเดินตรงจนเจอ Starbucks ร้านอยู่ชั้นสองของตึกข้างๆ ร้านสตาร์บัค

ร้านนี้เราเสิร์ชใน naver แล้วตามมากินแบบงงๆ ค่ะ คือไม่ได้ตั้งใจจะกินแต่แรก
แต่ไม่รู้จะกินไรเลยหาใน naver แล้วอ่านรีวิวเอา

ร้านนี้เรากินเป็นเมนูเซ็ทอีกแล้ว เพราะคุ้มดีค่ะ เซ็ท A สำหรับ 2 คนแค่ 20,800 วอนเอง
ได้หลายอย่าง เซ็ต B จะเพิ่มเบียร์เข้ามาด้วยค่ะ ในรูปเมนูหน่วยเงินจะเป็น นยาง
ซึ่งเป็นหน่วยเงินเก่าสมัยก่อนของเกาหลีค่ะ คอนเซปต์ร้านน่าจะมาจากยุคโชซอน

อัพเดทนะคะ (2019/09) ตอนนี้ร้านเค้าลดราคาเซ็ทเมนูด้วยนะ เซ็ท A
เหลือแค่ 19,800 วอนเอง ถูกกว่าตอนเรากินอีกกกก

ทั้งหมดที่ได้ค่ะ เลือกบุลแพ็กได้สองอย่าง มีข้าว แนงมยอน ไข่ทอดกับแฮม แล้วก็ซุป + โค้กหนึ่งแก้ว
(บุลแพ็กคือบุลโกกิที่ผัดและเสิร์ฟในกระทะร้อน ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเนื้อสัตว์
ส่วนใหญ๋จะเป็นเนื้อไม่ก็หมู ผัดกับผักต่างๆ มีรสชาติกลมกล่อม บางสูตรก็จะเผ็ดหน่อยค่ะ)

บุลแพ็กแบบหวานค่ะ (달콤불백정식) คือมันไม่ได้หวานเจี๊ยบนะคะ
เป็นรสกลางๆ แบบออริจินัลนั่นแหละ แต่เค้าตั้งชื่อมาแบบนี้ 5555

อันนี้เป็นชีสบุลแพ็กแบบหวาน (치즈달콤정식) ส่วนตัวเราชอบแบบใส่ชีสมากกว่า อร่อยมากกกกกก

ไข่ดาวทอดกับแฮม เป็นเครืองเคียงแบบเกาหลี๊เกาหลีค่ะ

ยอลมูแนงมยอนค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเย็นใส่ยอลมู (ไม่แน่ใจว่าในไทยเรียกยอลมูว่าอะไร
แต่เค้าแปลเป็นอังกฤษว่า Young Radish ค่ะ)

สั่งเซ็ทเถอะค่ะ คุ้มกว่าจริงๆ เพราะปกติราคาบุลแพ็กเดี่ยวๆ จานเดียวก็ 8-9 พันแล้ว
ไปสองคนกินเซ็ท ได้น้ำ ได้เครือ่งเคียงอื่นๆ ด้วย คุ้มมมม

จากสถานี Sinchon ทางออก 3 ค่ะ


ร้านที 10

ชื่อร้าน: 한상에 소투마리 สาขาฮงแด | สถานี Hongik Univ. ทางออก 9
คำอ่านภาษาไทย: ฮันซังเง โซทูมารี
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: ร้านนี้สาขาฮงแดพิกัดใน naver ไม่ตรงหมุดนะคะ แนะนำให้แล้วเดินตามค่ะ คลิก
ประเภทอาหาร: บุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง / หมูย่าง
เวลาเปิด-ปิด: 14:00 – 00:00 น.
จุดเด่น: เนื้อวัวไม่อั้น มีหลายส่วนให้กิน ซี่โครง ติดมัน เนื้อลาย ราคา 18,900 วอนกินได้สองชั่วโมง
ถ้าบุฟเฟ่ต์หมูย่าง (ไม่รวมเนื้อ) คนละ 10,900 วอน
การเดินทาง: จากทางออก 9 ให้เดินตรงเลียบถนนใหญ่มาเรื่อยๆ จนเจอทางแยก (สังเกตตึก SPAO)
ข้ามถนนตรงทางแยกมา แล้วเดินผ่านตึก SPAO ต่อไปอีกจนกว่าจะเจอร้าน Tous les Jours
ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไป เดินต่อไปจนเจอทางสี่แยก ให้เลี้ยวขวา ร้านอยู่ในซ้ายมือกลางซอย

บอกก่อนว่าสาขาที่เราไปกินมาคือสาขาคอนแดนะคะ แต่พอดีเช็คอัพเดทให้ก่อนเขียนรีวิว
ปรากฏว่าที่คอนแดเค้าเปลี่ยนร้านเป็นชื่ออื่นไปแล้ว เราเลยลงพิกัดสาขาฮงแดให้แทน
เพราะที่ฮงแดก็มีร้านนี้เหมือนกันค่ะ และน่าจะสะดวกกว่าสาขาคอนแดที่เราไปมาด้วย
เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยไปเที่ยวคอนแดเท่าไหร่ แต่จะสาขาไหน
ราคาและของที่ได้ก็เหมือนกันค่ะ เพราะงั้นหายห่วง ไปตามกันโลดดด

ที่นี่มีบุฟเฟ่ต์หมูอย่างเดียวด้วยนะ ถ้าหมูอย่างเดียวหัวละ 11,900 วอนค่ะ
ส่วนบุฟเฟ่ต์เนื้อ (ไม่มีหมู) คนละ 18,900 วอน กินได้ 2 ชม.ค่ะ

ผักต่างๆ น้ำจิ้ม เครื่องเคียง

เนื้อวัวที่เราจะได้มาค่ะ ถาดนึงจะได้มารวมกันหลายๆ ส่วนแบบนี้
ซึ่งเวลาขอเติม จะต้องเติมทั้งหมดค่ะ ไม่สามารถแยกขอได้

แต่เนื้อคือดี คุณภาพดี ไม่เหนียวเลย เราอาจจะโชคดีเจอวันที่เนื้อไม่เหนียวด้วยป่าวนะ? 5555
ทั้งจานนี่ชอบคัลบีซัล (ซี่โครง) ที่สุด นุ่มอร่อยมากๆ

ใครสายเนื้อต้องลองค่ะ คิดว่าราคานี้ได้เนื้อดีแบบนี้ถือว่าโอเคนะ รอบหน้าไปก็ว่าจะกินอีกกกก

จากสถานี Hongik Univ. ทางออก 9 ค่ะ


ร้านที 11

ชื่อร้าน: 땡스네이쳐카페 Thanks Nature Cafe | สถานี Hongik Univ. ทางออก 9
คำอ่านภาษาไทย: แตงซึ เนอีจยอ คาเพ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 땡스네이쳐카페 / คลิกเพื่อดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: คาเฟ่ / ของหวาน / เครื่องดื่ม
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: คาเฟ่ที่มีน้องแกะ 2 ตัวอยู่หน้าร้าน เราสามารถถ่ายรูป
หรือขอเจ้าของเข้าไปทักทายน้องแกะได้เลยค่ะ บิงซูและเครื่องดื่มรสชาติดี ราคาไม่แพง
การเดินทาง: จากทางออก 9 ให้เดินเข้ามาทางถนนช็อปปิงหลัก ทะลุซอย mcm ไปทางหน้ามหาลัย
ร้านจะอยู่ใต้ดินของตึกที่มีร้านค้าเยอะๆ จุดสังเกตคือร้านไอศกรีม Greek Day (แนะนำให้กดลิงค์พิกัดแล้วเดินตามจะแม่นยำที่สุดนะคะ)

ร้านกาแฟแถวฮงแดที่เจอโดยบังเอิญค่ะ จริงๆ ร้านนี้เคยเห็นผ่านๆ หลายทีแล้ว
แต่ไม่เคยลงไปลอง วันนั้นเมื่อยขาหาที่นั่งพัก เลยได้โอกาสลองเลย

จุดเด่นของที่นี่เลยคือจะมีน้องแกะอยู่หน้าร้าน แกะจริงๆ เลยค่ะ
เจ้าของเลี้ยงไว้ ชื่อน้องเอลลี่กับเอลล่า น่ารักกกกก

สามารถเข้าไปถ่ายรูปกับน้องได้นะคะ แต่แจ้งพนักงานหรือเจ้าของร้านด้วยนะคะ
เป็นการขออนุญาตเนอะ แล้วก็เล่นกับน้องเบาๆ นะคะ สงสารน้อง

ในร้านตกแต่งน่ารักดีค่ะ เจ้าของร้านคงชอบแกะ มีตุ๊กตาแกะน้อยเต็มเลย

เมนูของหวานเค้ามีให้เลือกพอสมควร ราคาก็ไม่แพงเกินไป เราสั่งบิงซูโอริโอไซส์ M ราคา 8,500 วอนค่ะ

พวกวาฟเฟิลก็มีนะ น่ากินทั้งนั้น

จากทางออก 9 สถานีฮงแดค่ะ เดินตามนี้ได้เลยยยย


ร้านที 12

ชื่อร้าน: 착한돼지 Chakhan Pig สาขาชินชน | สถานี Sinchon ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: ชาคัน ทเวจี
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: (พิกัดใน naver map อัพเดทแล้วตรงแน่นอน)
ประเภทอาหาร: บุฟเฟ่ต์หมูย่าง
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 24:00 น.
จุดเด่น: ไลน์อาหารเยอะมาก มีทั้งหมูสามชั้น คอหมู ไส้ ซี่โครง ฯลฯ ของกินเล่น
เครื่องเคียงก็อร่อย น้ำเปล่าฟรี แต่ถ้าอยากกินน้ำอัดลมไม่อั้นเพิ่มแค่โต๊ะละ 1000 วอนค่ะ
การเดินทาง: จากสถานีชินชนทางออก 3 เดินตรงจนเจอร้าน Nature Republic เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอบาสกิ้นร็อบบินส์ ข้างบาสกิ้นจะเป็นเกมเซนเตอร์ ร้านอยู่ชั้นสองของเกมเซนเตอร์ค่ะ

**อัพเดทต.ค.2019** มีการย้ายพิกัดร้านนิดหน่อยนะคะ จากที่เดิมติดกับร้านบาสกิ้น ย้ายไปฝั่งตรงข้ามแทน
อยู่ชั้น 2 ของตึก PC Premium หาไม่ยาก เด่นมากๆ ค่ะ จะถึงก่อนบาสกิ้นนะ (ถ้ามาจากสถานีใต้ดินชินชน)

นี่รูปหน้าร้านใหม่ค่ะ อยู่บนตึก PC Premium นะ (เครดิตรูปจากคุณ soeyoung1104)

ร้านหมูย่างบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นราคาน่ารักสบายกระเป๋าแถวชินชนที่อยากแนะนำ
จริงๆ บุฟหมูย่างเนี่ย หาได้ทั่วไปในเกาหลีค่ะ แต่ที่นี่เราว่าของเค้าเยอะดี

ราคาจะเป็นแบบนี้ค่ะ
วันธรรมดาช่วงกลางวัน ร้านเปิด-17.00น. ราคา 10,900 วอน
วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดช่วงกลางวัน ราคา 11,900 วอน
ช่วงมื้อเย็นทุกวัน 12,900 วอน

แต่เราชอบบรรยากาศที่นี่นะคะ มันดูกินได้เรื่อยๆ นั่งกินได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเร่ง
เก้าอี้ก็นั่งสบาย มีพนักพิงหลัง ไม่ต้องรีบกินรีบไป

ไลน์อาหารก็เยอะเกินราคาไปโข ละของก็ดีด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าราคาไม่แพงแล้วได้เศษเนื้อเศษหมูเด้อ
มีหมูหมัก หมูสด คัลบิ มกซัล สามชั้น มาหมด

ตู้นี้จะเป็นอูซัมกยอบกับแทแพซัมกยอบ จะเป็นหมูและเนื้อสไลด์บางๆ แช่แข็งไว้ค่ะ
นิยมตักไปเยอะๆ แล้วผัดในกระทะ ทำเหมือนกินบุลโกกิ

กิมจิ ผักห่อ เครื่องเคียงตักเองได้เลย

พิซซ่าก็มีน้า

ไลน์ของกินเล่นทั่วไป ก็จะมีสลัดให้ตัก

ทาโกยากิ สปาเก็ตตี้

มันฝรั่ง ทังซูยุก (น่าจะใช่นะ เราไม่ลองชิมเลยไม่ชัวร์) ของทอดต่างๆ

ต๊อกบกกีอร่อยสู้ร้านที่ขายข้างนอกเลย เรากินหลายจานอยู่

ตรงนี้มีไส้กรอก ต๊อกคัลบิ ผักอื่นๆ เอาไปผัดในกระทะก็อร่อยอีกแบบค่ะ
ไม่จำเป็นต้องกินแต่หมูย่าง อ้อ ที่นี่มีปลาหมึก ไส้วัว กุ้งขาวด้วยนะ

ชอบปลาหมึกที่นี่มาก เค้าใช้เป็นจูกุมิ (ลูกปลาหมึกตัวเล็ก) เด้งมากกก ไม่เหนียวเลย

ราคาบุฟเฟ่ต์ไม่รวมน้ำอัดลมนะคะ ฟรีแค่น้ำเปล่า ใครอยากดื่มอย่างอื่นจ่ายเพิ่มแค่โต๊ะละ 1000 วอนค่ะ
พันเดียวได้น้ำทั้งโต๊ะนะคะ ไม่ใช่ราคาต่อคน

ร้านอยู่ในซอย Nature Republic เช่นกัน เดินตามพิกัดได้เลยค่ะ สถานีชินชนทางออก 3


ร้านที 13

ชื่อร้าน: 가야가야 สาขาอีแด | สถานี Ewha Woman Univ. ทางออก 2
คำอ่านภาษาไทย: คายะ คายะ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 가야가야 (พิกัดใน naver map ไม่ตรง แนะนำให้คลิกที่นี่และเดินตามนะคะ)
ประเภทอาหาร: ราเม็งญี่ปุ่น
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 21:00 น. (มี Break time: 15:00 – 17:00)
จุดเด่น: ร้านราเม็งญี่ปุ่นต้นตำหรับที่เจ้าของไปเรียนและได้สูตรมาจากญี่ปุ่นเลยค่ะ
ร้านนี้อยู่ในเทปแรกของรายการกินตามตรอกของเชฟแบคจงวอนด้วย
การเดินทาง: ลงสถานีอีแดทางออก 2 เดินตรงเข้าไปทางหน้ามหาวิทยาลัยจนเจอร้านขายมือถือ
ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไป เดินเข้าไปนิดหน่อย จะเจอบันไดทางลงเข้าตรอกแคบๆ
(จุดสังเกตคือห้อง ATM ของธนาคาร KB) เดินลงบันไดไปจะเจอร้านอยู่ขวามือค่ะ

ร้านนี้เราเสิร์ชใน naver แล้วเดินตามไปกินอีกเช่นกัน แต่ว่ามารู้ทีหลังว่าเป็นร้านดัง
เพราะออกรายการ 골목식당 (Baek Jongwon’s Alley Restaurant) อีพีแรกด้วยนะ

พอเป็นร้านดังก็ไม่แปลกที่ต้องต่อคิวค่ะ โต๊ะมีไม่เยอะ ยืนรอประมาณ 20 นาทีก็ได้โต๊ะ

เมนูค่ะ มีราเม็งหลายแบบเลย เจ้าของร้านบินไปเรียนสูตรราเม็งที่ญี่ปุ่น รสชาติก็น่าจะออริจินัลเลยแหละ

ที่โต๊ะจะมีที่รินน้ำแบบนี้ค่ะ เหมือนที่อิจิรันราเม็งเลย สะดวกดีนะไม่ต้องเดินไปเติม
หรือเรียกเค้ามา ประหยัดที่ด้วยค่ะ ไม่ต้องวางเหยือกน้ำ

ทงคนสึราเม็งค่ะ อร่อยกลมกล่อม รสชาติกลางๆ สำหรับใครที่กินรสจัดเราว่าอาจจะรู้สึกไม่อร่อย
แต่เราว่าเส้นเค้าไม่นิ่มไป เราชอบเส้นแข็งๆ หน่อย

สถานีอีแดทางออก 2 ค่ะ ร้านอยู่ในตรอกเล็กๆ ต้องคอยสังเกตดีๆ ไม่งั้นอาจจะหลงได้นะคะ


ร้านที 14

ชื่อร้าน: 육쌈냉면 สาขาแทฮังโน | สถานี Hyehwa ทางออก 4
คำอ่านภาษาไทย: ยุกซัม-แนง-มยอน
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 육쌈냉면 대학로점 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผ่นที่
ประเภทอาหาร: แนงมยอน (ก๋วยเตี๋ยวเย็นแบบเกาหลี) / บุลโกกิย่างถ่าน
เวลาเปิด-ปิด: 09:30 – 21:30 น.
จุดเด่น: ความหอมของบุลโกกิย่างถ่าน กินคู่กับแนงมยอนอร่อยมากค่ะ เมนูมีเป็นเซ็ต อาหารได้เยอะคุ้มค่า
การเดินทาง: สถานี Hyehwa ทางออก 4 เดินตรงเข้าซอยไปเรื่อยๆ (ปากซอยเป็นร้านบาสกิ้นร็อบบินส์)
จนเจอร้าน Craft Beer จะมีทางแยกอยู่ ให้เดินไปทางขวาของร้านเบียร์ ตรงไปอีกหน่อยจะเจอร้านอยู่ขวามือ

ร้านนี้เป็นร้านมีหลายสาขาค่ะ เจอที่ไหนก็เข้าได้เหมือนกัน
เน้นขายแนงมยอนหรือก๋วยเตี๋ยวเย็น แต่ก็มีเมนูข้าวหน้าบุลโกกิ บิบิมบับอะไรด้วย

อันนี้สั่งเซ็ทมา จะได้อาหารจานหลัก + บุลโกกิย่างถ่าน แฟนสั่งบิบิมบับค่ะ

เราสั่งแนงมยอน ที่นี่ซุปอร่อยมาก ติดใจกินหมดถ้วยเลย เส้นบัควีทก็เหนียวนุ่มค่ะ
ก่อนกินใช้กรรไกรตัดเส้นก่อนจะทำให้กินง่ายขึ้น

บุลโกกิย่างถ่าน มาหอมๆ เลย อร่อยมากๆ ใครไม่เคยกินแนงมยอนแล้วอยากลอง
ลองร้านนี้ก็ได้นะคะ ไม่ผิดหวัง แถมได้กินหมูย่างอร่อยๆ ด้วย

พิกัดร้านยุกซัมแนงมยอนจากสถานี Hyehwa ทางออก 4 ค่ะ


ร้านที 15

ชื่อร้าน: 국대떡볶이 สาขาชินชน | สถานี Sinchon ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: กุกแด-ต๊อกบกกี
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 국대떡볶이 신촌점 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ต๊อกบกกี โอเด้ง ของทอด
เวลาเปิด-ปิด: 11:30 – 22:00 น.
จุดเด่น: เป็นร้านขายของกินเล่นเกาหลีทั่วไป แต่ใครชอบซอสต๊อกที่เผ็ดหน่อยน่าจะชอบค่ะ
แล้วก็ร้านสะอาดสะอาด มีแอร์ มีฮีทเตอร์ กินชิลๆ ได้
การเดินทาง: สถานีชินชนทางออก 3 เดินตรงและเลี้ยวขวาเข้าซอยร้าน Nature Republic ไปเรื่อยๆ ตามทาง
ร้านอยู่ขวามือใกล้กับร้าน Gong Cha เยื้องกับห้าง Mega Box ค่ะ

ร้านนี้เป็นร้านขายของกินเล่นเกาหลีค่ะ พวกต๊อกบกกี โอเด้ง ออมุก ทวีกิมต่างๆ
ของพวกนี้หากินได้ทั่วไปนะคะ ข้างทางก็มี ราคาจะถูกกว่าร้านแบบนี้

ร้านแบบนี้จะมีข้อดีตรงมีที่ให้นั่งกินสบายๆ มีแอร์/ฮีทเตอร์ให้ ครัวสะอาดสะอ้าน
มีห้องน้ำให้ น้ำดื่มฟรี แต่ราคาอาหารก็จะแพงกว่าร้านข้างทางค่ะ

เราสั่งแบบห่อกลับนะคะ ที่นี่คนชอบเผ็ดน่าจะชอบต๊อกบกกี เพราะซอสเผ็ดใช้ได้เลย
บางร้านจะติดหวานมากไปหน่อย ที่นี่เผ็ดค่ะ กินไปกินน้ำไป

ออมุกแผ่นใหญ่ หนา กัดเต็มปากเต็มคำ ซุปคือดี

ทวีกิม (ของทอด) เราสั่งแบบรวม ก็จะมีมันฝรั่ง ฟักทอง คิมมารี (สาหร่ายห่อวุ้นเส้นทอด)
แล้วก็ผักอื่นๆ เหมือนมีปลาหมึกด้วยถ้าจำไม่ผิด

เอาของทอดจิ้มซอสต๊อกบกกีแบบนี้ อร่อยสุดๆ ไปเลยยย

พิกัดจากสถานี Sinchon ทางออก 3 ค่ะ เดินตามได้เลย
ร้านนี้แอบเดินไกล อีกนิดเดียวก็จะทะลุม.อีแดแล้วค่ะ 5555


ร้านที 16

ชื่อร้าน: 미노스커피컬트 MINOS Coffeecult | สถานี Sinsa ทางออก 8
คำอ่านภาษาไทย: มิโนสึ คอพีคอลทึ
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: MINOSCoffeecult / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ร้านกาแฟ คาเฟ่ ขนม
เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 06:00 น.
จุดเด่น: เป็นร้านกาแฟที่ไม่ได้เน้นตกแต่งน่ารักมาก แต่เน้นนั่งชิล นั่งทำงาน ประชุมงาน อ่านหนังสือได้
อาหาร ขนมถือว่าอร่อย ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ในแถบนั้น มุมเก๋คือมุมเคาท์เตอร์บาร์ สามารถมองเห็นถนนคาโรซูกิลได้ค่ะ
การเดินทาง: จากสถานี Sinsa ทางออกแปด เดินตรงไปเรื่อยๆ จนเจอทางเข้าคาโรซูกิล ร้านอยู่สุดถนนคาโรซูกิล ติดกับตึก SPAO

คาเฟ่ที่เปิดเกือบ 24 ชม. ย่านคาโรซูกิลค่ะ ร้านนี้เปิดมาสักพักแล้ว
ทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะแวะ แต่ว่าเห็นทางขึ้นเป็นดอกไม้ มันชวนให้เข้า 5555

ขึ้นมาก็จะเจอร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ ค่ะ เหมือนนั่งที่บ้าน หลายคนมาประชุมงาน ทำงาน
อ่านหนังสือกันเยอะเลย คาเฟ่ที่เกาหลีนั่งแช่ได้เลยนะคะ ไม่ต้องกลัวโดนมองแรงหรือโดนไล่
ส่วนใหญ่คนเกาหลีก็มานั่งทำงานกัน คุยกันยาวๆ ร้านกาแฟที่เกาหลีเลยมีเยอะไปหมดค่ะ หาเจอทุกหัวมุมถนน

ราคาขนม เครื่องดื่มก็ทั่วไปค่ะ ถือว่าไม่แพงด้วยถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ ในแถบอัพกูจอง

มีช็อกโกแลตด้วยยยยย

มึมนี้เราชอบ เป็นเคาท์เตอร์ที่มองเห็นคาโรซูกิลตรงหน้าได้กว้างดี
ถ้ามีเวลานั่งนานๆ คงเพลินเลยค่ะ คนเดินไปมา จิบเครื่องดื่มอุ่นๆ

สั่งชีสเค้กมากิน หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติเป็นที่จดจำนะ อร่อยเลยแหละ

เบเกิลกับครีมชีสค่ะ เบเกิลกรอบนอกนุ่มใน เข้ากับครีมชีสสุดๆ

โยเกิร์ตปั่นค่ะ อร่อยและแก้วใหญ่อยู่นะ

สถานี Sinsa ทางออก 8 ค่ะ เดินมาจนเข้าคาโรซูกิล แล้วเดินต่อจนเกือบสุดถนนเลย ร้านอยู่ขวามือ


ร้านที 17

ชื่อร้าน: 채선당M สาขาจงโน | สถานี Jonggak ทางออก 4
คำอ่านภาษาไทย: แชซอนดัง M
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 채선당M 종로점  / คลิกเพื่อดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: ชาบูชาบู
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: สั่งเซ็ตชาบู ฟรีสลัดบาร์ ข้าวผัด เครื่องดื่ม ของกินเล่นและอื่นๆ น้ำซุปมีให้เลือกสองแบบ เผ็ดกับไม่เผ็ด เรากินไม่เผ็ด กลมกล่อมดีค่ะ
การเดินทาง: จากทางออก 4 สถานีจงกัก ขึ้นมาจากบันไดให้เลี้ยวเข้าซอยด้านขวามือเลยค่ะ (จุดเด่นคือจะมีเก๋งจีนอยู่ด้านขวา)
เดินตรงเข้าซอยไปอย่างเดียวเลยจนเกือบสุดอีกฝั่งถนน ร้านอยู่ซ้ายมือชั้นสอง สังเกตป้ายจะมีตัว M อยู่ท้ายชื่อค่ะ

หมายเหตุ: ร้านนี้ไม่มีเมนูเนื้อหมู / ไก่ นะคะ มีแต่เนื้อวัวกับอาหารทะเล

ย่านจงกักเป็นอีกย่านที่เราชอบไปเดินหาของกิน เดินชิลเรื่อยเปื่อย เพราะในซอยแถบนั้นร้านอาหารจะเยอะมากค่ะ
คึกคักพอสมควร ถัดไปอีกหน่อยก็คลองชองกเยชอน บรรยากาศจะเงียบสงบกว่าตรงแถวหน้าวังคยองบก

หน้าร้านจะมีป้ายแบบนี้ค่ะ เด่นหาไม่ยาก ร้านอยู่ชั้นสอง ขึ้นไปโลดดด

ราคาเริ่มต้นวันธรรมดาตอนกลางวัน เซ็ทเนื้อวัวเริ่มที่ 10,800 วอนต่อคน
(ฟรีผักสด, สลัดบาร์และไลน์ของกินอื่นๆ ไม่อั้น)

วันธรรมดาตอนเย็น เซ็ทเนื้อวัวเริ่มที่ 13,800 วอนค่ะ
นอกเหนือจากเซ็ทเนื้อวัวธรรมดา ก็จะมีเนื้อฮันอู (เนื้อวัวเกาหลีชั้นดี) ให้เลือกด้วย

ร้านชั้นสองกว้างขวางค่ะ ไม่แออัด โต๊ะเยอะ นั่งสบายทีเดียว

น้ำซุปมี 2 แบบค่ะ แบบเผ็ดกับไม่เผ็ด เราเลือกแบบไม่เผ็ด

เนื้อวัวสำหรับ 2 คนค่ะ ถามว่าเยอะมั้ย มันก็พอประมาณนะ แต่ถ้าหิวมากก็อาจต้องสั่งเพิ่ม
เราสั่งแต่เนื้อได้ ไม่ต้องจ่าย 13,800 เท่าเดิมนะ อันนั้นเป็นราคาเริ่มต้นที่จะรวมสลัดบาร์ค่ะ

น้ำจิ้มมาสองแบบค่ะ ฝั่งซ้ายจะคล้ายๆ ของ About Shabu
ออกหวานเปรี้ยวนิดๆ ด้านขวาจะเค็มๆ มากกว่า

ผักตักได้ไม่อั้นค่ะ มีให้เลือกเยอะใช้ได้ มีเส้นด้วย

สลัดบาร์ ตักไม่อั้นเหมือนกัน อะไรที่อยู่ในไลน์อาหารที่ให้ตัก กินได้หมดค่ะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้ว

ของโปรดเราเลย บัตเตอร์คุกกี้ก้นหอย ตอนแรกคิดว่าไม่อร่อย กินไปกินมา หยุดไม่ได้ อิ่มกว่ากินชาบู 55555

ของคาวก็มีให้ตักบ้างนะ

Potato Wedges ค่ะ

ข้าวผัด

ต๊อกบกกี รสชาติกินได้ค่ะ แต่ไม่ได้ว้าว ไม่ต้องกินก็ได้ 5555

ราคานี้รวมเครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้ำเปล่าแล้วจ้า

จากสถานี Jonggak ทางออก 4 เดินตรงโลดดดด


ร้านที 18

ชื่อร้าน: 기린비어 Kirin Beer | สถานี Jonggak ทางออก 4
คำอ่านภาษาไทย: คิรินเบียร์
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 위드비어 종각 / คลิกดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ร้านไก่ทอดกับเบียร์
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 04:00 น.
จุดเด่น: ราคาไก่ทอดไม่แพง ซอสยังนยอม (ซอสที่ใช้เคลือบไก่) อร่อยดีค่ะ กินที่ร้านจะได้ป๊อปคอร์นฟรีมากินแกล้มด้วย
การเดินทาง: ขึ้นมาจากทางออก 4 เดินเข้าซอยเก๋งจีนมาเรื่อยๆ จนเจอทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายจนแยกเล็กๆ เป็นสี่แยก
ให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง เดินตรงไปอีกนิดจะเจอร้านอยู่ซ้ายมือในซอยนั้น หน้าร้านมีชื่อ 기린비어 มีรูปยีราฟอยู่ค่ะ

ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านชาบูแชซอนดังนะคะ ซอยใกล้กันเลย ย่านจงกักเหมือนกัน
ชื่อร้านน่าจะมาจากยี่ห้อเบียร์ญี่ปุ่นค่ะ ในร้านก็มีเบียร์คิรินขายหลายแบบเลยนะ

บรรยากาศคล้ายร้านชิแมคทั่วไปในเกาหลีค่ะ
ไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก บ้านๆ หน่อย มีอาจุมม่ากับพนักงานไม่กี่คน

ที่นี่ถ้าเรานั่งกินในร้าน จะได้ป๊อปคอร์นฟรีกินเล่นด้วยนะ ทุกสาขาเลยค่ะ

สั่งเป็น ซุนซัล-ยังนยอม (ไก่ไม่กระดูกหมักซอส)
เป็นร้านไก่ที่ถูกที่สุดที่กินในทริปนี้แล้วค่ะ กล่องนี้ 12,000 วอน

พิกัดจากทางออก 4 สถานี Jonggak ค่ะ


ร้านที 19

ชื่อร้าน: 연어촌 | สถานี Hapjeong ทางออก 8
คำอ่านภาษาไทย: ยอนอชน
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 연어촌 / คลิกดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ร้านปลาดิบและอาหารญี่ปุ่น มีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และแบบธรรมดา
เวลาเปิด-ปิด: วันธรรมดา 11:30 – 23:00 น. (Break Time: 15:00 – 17:00) / วันเสาร์ 11:30 – 23:00 (ไม่มี Break Time) / ปิดวันอาทิตย์
จุดเด่น: ปลาดิบที่ร้านมีหลากหลายชนิดให้เลือก รวมถึงมีแซลม่อนด้วยค่ะ มี 2 ราคาสำหรับบุฟเฟ่ต์ปลาดิบ
อาหารเพิ่มลดต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น ความสดของปลาคือดีมาก เนื้อหวานเด้งๆ อาหารอื่นๆ รสชาติดี
เทมปุระทอดมาดีมาก ไม่อมน้ำมัน อร่อยไม่เลี่ยนเลย
การเดินทาง: จากสถานีฮัพจองทางออก 8 ขึ้นมาจะเจอปั๊มน้ำมัน SK ให้เดินตรงไปทางปั๊มเลียบถนนใหญ่
เดินไม่ไกล ร้านอยู่ข้างกับเซเว่น ติดถนนใหญ่เลยค่ะ ไม่ต้องเข้าซอยใดๆ

เราเป็นคนชอบกินปลาดิบมาก ร้านนี้เจอจากเพจแนะนำร้านอาหารของคนเกาหลีค่ะ
เพิ่งเปิดใหม่กรุบๆ ไม่นานเมื่อต้นปี ตอนเราไปยังมีช่อดอกไม้แสดงความยินดีวันเปิดร้านอยู่เลย
แล้วก็คนยังไม่เยอะมากค่ะ แต่เราไปต้นปี ตอนนี้อาจจะเยอะแล้วก็ได้นะ 555

ไปกินตอนเที่ยงกว่าๆ ฝนตกด้วย ก่อนเราเข้าไป มีโต๊ะก่อนหน้าแค่โต๊ะเดียวเอง
เค้ากำลังจะกินเสร็จพอดี เราเลยได้ครองร้าน 5555

มาดูเมนูกันค่ะ ถ่ายมาแต่เมนูแบบบุฟเฟ่ต์นะ เพราะตั้งใจมาเน้นปลาดิบไม่อั้น มี 2 ราคาค่ะ

ราคานี้เป็นราคาต่อคนนะคะ
เซ็ทแรก ราคา 19,900 วอน จะได้ปลาแซลม่อนดิบและปลาแฮลิบัทดิบ กุ้งเทมปุระและโอเด้งอูด้งค่ะ
เซ็ทสอง ราคา 24,900 วอน จะได้ปลาดิบรวมทุกปลา ได้ยุกฮเว (เนื้อดิบสไตล์เกาหลี) กุ้งเทมปุระ และโอเด้งอูด้งค่ะ

มาแล้วจ้า จานใหญ่เบีียดโต๊ะ ใหญ่กว่าหน้า อลังการบานตะไท
(หอยนางรมสดทาวร้านให้เป็นเซอร์วิสพิเศษค่ะ ปกติจะไม่มีนะ)

กุ้งเทมปุระดีงามมากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะกินไม่กี่คำก็เลิก แต่สรุปกินเกลี้ยง
ทอดมาไม่อมน้ำมัน กุ้งเนื้อหวานเด้ง แป้งบางกรอบ ดีงาม

ชัมชีโชบับ หรือซูชิทูน่า (จากรูปน่าจะเป็นส่วนชูโทโร่) อันนี้ไม่รวมในบุฟเฟ่ต์นะคะ
เจ้าของร้านเค้ามาคุย ถามว่าเรารู้จักที่นี่ได้ยังไง เพราะเพิ่งเปิดร้าน ไม่เคยมีต่างชาติมาสักคน
เราก็เล่าไปว่ามาคามเพจคนเกาหลีแนะนำมาไรงี้ค่ะ เค้าก็เลยใจดีเอาซูชิมาให้กินฟรี

โอเด้งอูด้ง ซดคล่องคอ

เครื่องเคียงอื่นๆ ก็อร่อยหมดเลย

หาร้านไม่ยากเลยค่ะ ติดถนนใหญ่เลย จากสถานี Hapjeong ทางออก 8


ร้านที 20

ชื่อร้าน: 호밀밭 | สถานี Sinchon ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: โฮมิลพัท
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 호밀밭 신촌점 / คลิกดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: บิงซูดั้งเดิม
เวลาเปิด-ปิด: 12:30 – 22:00 น.
จุดเด่น: ร้านนี้ขายพัทบิงซู (บิงซูถั่วแดง) แบบดั้งเดิมเลยค่ะ หลักๆ เมนูบิงซูจะมีสี่รสชาติ รสนม รสสตรอเบอร์รี่ รสชาเขียวและบิงซูผลไม้
หน้าตาจะไม่ฟู่ฟ่าแบบบิงซูสมัยใหม่ที่ขายตามร้านคาเฟ่ดังๆ นะคะ แต่รสชาติอร่อยอย่าบอกใครเลย
การเดินทาง: สถานีชินชน ทางออก 3 เดินตรงมาตามทาง จนเจอร้าน Nature Republic เลี้ยวเข้าซอยนั้นไป
เดินตรงอย่างเดียวค่ะ จนเจอร้าน ร้านอยู่หัวมุม สังเกตไม่ยาก ร้านเป็นกำแพงอิฐ มีรูปถ้วยบิงซูอยู่หน้าชื่อร้านตามรูปเลย

มารีวิวร้านบิงซูบ้าง ร้านนี้จะขายความเป็นบิงซูดั้งเดิมค่ะ คือจะมีหน้าและท็อปปิงไม่เยอะเท่าไหร่
เมนูเบสิคที่กินกันมาตั้งแต่สมัยโชซอนเลยก็ พัทบิงซู (팥빙수) หรือบิงซูถั่วแดงนั่นเอง
ส่วนบิงซูอื่นๆ ที่เห็นกันในปัจจุบันอย่างร้านซอลบิงอะไรแบบนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยค่ะ

เมนูบิงซูที่โฮมิลพัทจะมีอยู่แค่ 6 แบบค่ะ
ได้แก่ บิงซูถั่วแดง / บิงซูชาเขียว / บิงซูกาแฟ / บิงซูผลไม้รวม / บิงซูสตรอเบอร์รี่ และบิงซูแตงโม (เมนูแตงโมมีแค่บางฤดู)
บางเมนูก็อาจจะหมดหรือไม่มีในช่วงนั้นๆ นะคะ ในป้ายเค้าก็จะมีแปะบอกไว้ว่าวันนี้ไม่มีขายรสอะไรค่ะ
เราสั่งเป็นเมนูแรก บิงซูนมกับถั่วแดง

สังเกตได้ว่าต่อให้จะเป็นหน้าผลไม้อื่นๆ ก็ยังใส่ถั่วแดงมาทุกรสชาติเลย

เมนูเครื่องดื่ม เมนูที่แปะเพิ่มมาเป็นโจ๊กถั่วแดงหวาน กับเค้กค่ะ
เค้กน่าจะอร่อยอยู่นะ ตอนเราไปทุกโต๊ะสั่งมากินหมดเลย แต่เราไม่ได้ลองค่ะ

ร้านตกแต่งน่ารักดีค่ะ นั่งริมหน้าต่างจะได้ฟีลคาเฟ่น่ารักๆ แม้จริงๆ คือร้านบิงซู 555

มาแล้ววววว บิงซูถั่วแดงงงงงงง รสชาติน้ำแข็งจะเป็นรสนมค่ะ
ออริจินัลเลย ในถั่วแดงจะให้ต๊อกมา 2 ก้อน หวานหนึบอร่อย

ก่อนกินก็เทถั่วแดงลงบนน้ำแข็งเลย หรือใครอยากกินแบบแยกกันก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ แต่เราว่าราดแล้วอร่อยกว่า

จากสถานี Sinchon ทางออก 3 ค่ะ เดินตามทางเข้าซอย Nature Republic แล้วตรงยาวๆ ได้เลย


ร้านที 21

ชื่อร้าน: 비야 BIYA | สถานี Hongik Univ. ทางออก 9
คำอ่านภาษาไทย: บียา
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 비야 홍대점 / คลิกดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: บูแดจิแก
เวลาเปิด-ปิด: 09:30 – 21:00 น.
จุดเด่น: ทั้งร้านมีแค่เมนูเดียวคือบูแดจิแก ที่ละ 5,500 บาท (ต่อคน) ซุปรสชาติดี มีแฮชบราวน์ให้กินเติมฟรีไม่อั้นด้วย
การเดินทาง: จากสถานีฮงแดทางออก 9 ให้เดินมาจนถึงทางสี่แยกใหญ่ๆ แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่ง (ฝั่งตึก Spao)
ข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ ทางหน้ามหาลัยฮงอิกประมาณ 300 ร้านจะอยู่ทางขวามือ มีป้ายภาษาอังกฤษว่า BIYA

ร้านนี้เคยเขียนรีวิวลงกระทู้ทริปเที่ยวเกาหลีปี 2016 ไปแล้วรอบนึงค่ะ สนใจอ่านทริปเมื่อปี 2016 คลิกที่นี่เลยจ้า
ตอนนั้นสาขาอันอัม เป็นอีกหนึ่งร้านประจำสมัยเรียนเลย กินบ่อยเพราะราคาถูก อร่อย ง่ายดีด้วย
ที่สำคัญมีแฮชบราวน์ให้กินฟรีเติมได้เรื่อยๆ อีกอ่ะ ถูกใจสายชอบกินมันฝรั่งทอดแบบเรามากกก

ครั้งนี้มากินสาขาฮงแดค่ะ หาไม่ยาก อยู่ใกล้ถนนหน้ามหาลัยฮงอิก
ก่อนเดินไปทางช้อปปิงสตรีทนิดเดียว ร้านอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ

เมนูเดียวของร้านคือบูแดจิเกค่ะ ไม่มีอย่างอื่นให้สั่งแล้ว ใครไม่เคยกินบูแดจิเกมาก่อนไม่ต้องกลัว
เพราะมันอร่อยมากกกก ซุปจะสีแดงๆ ใส่พวกไส้กรอก แฮม ผักต่างๆ เส้นบะหมี่กึ่ง ชีสต้มรวมกันค่ะ
เมนูนี้มีที่มาจากค่ายทหารในสมัยสงครามเกาหลี คนเกาหลีดัดแปลงเครื่องปรุงเกาหลีและวัตถุดิบจากทหารอเมริกัน
ที่มาตั้งค่ายช่วงสงครามออกมาเป็นซุปหม้อนี้ ซึ่งก็กินต่อๆ กันมาจนปัจจุบันค่ะ

แฮชบราวน์ไม่อั้นมาทางนี้จ้าพี่จ๋าาาา อร่อยกินเพลิน ขอเติมไปสองจานแหนะ

บูแดจิแกราคาคนละ 5,500 วอนเท่านั้นค่ะ (ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะคะ)
ขายเป็นราคาต่อหัว แต่เค้ารวมใส่หม้อมาให้แบบนี้เลยยยย

จากถานีฮงแดทางออก 9 ค่ะ


ร้านที 22

ชื่อร้าน: 조아루 | สถานี Myeongdong ทางออก 4
คำอ่านภาษาไทย: โชอารู
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 조아루 / คลิกเพื่อดูพิกัดในแผนที่
ประเภทอาหาร: ร้านอาหารจีน (จาจังมยอน / จัมปง / ทังซูยุก ฯลฯ)
เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 21:30 น.
จุดเด่น: จาจังมยอนและทังซูยุกอร่อยมาก ร้านประจำสมัยเรียนเลยค่ะ ราคาไม่แพงด้วย มีจัดเป็นเซ็ตๆ ให้เลือกหลากหลาย
การเดินทาง: สถานีมยองดงทางออก 4 เดินขึ้นมาจากบันได ตรงไปนิดเดียว ประมาณ 40 เมตร เจอร้านเลยค่ะ ร้านสีส้มมีโคมจีนแขวนอยู่

ร้านอาหารจีนสุดโปรดของเรา เพราะกินบ่อยมากกินตลอดเลยสมัยเรียนและทำงานพาร์ทไทม์แถวนั้น
ใครพักหรือผ่านแถวมยองดง แนะนำเลยค่ะ ราคาดี อร่อย อยู่ท้อง ได้เยอะมาก

ในร้านมีโต๊ะไม่มาก แต่ช่วงกลางวันกับเย็นคนแน่นตลอดๆ
เราชอบจาจังมยอนที่นี่ที่สุด อร่อยทั้งซอสทั้งเส้น ทังซูยุกก็อร่อยมากๆ

ชอบตรงเค้ามีเมนูจัดเซ็ทมาให้ ซึ่งปริมาณและราคาดีงามมากค่ะ
เซ็ทนี้าคาแค่ 17,000 วอนเอง ได้จาจังมยอนสองชาม ทังซูยุกอีก 1 จาน

ทังซูยุก (หมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน) ร้านนี้น้ำราดเด็ดสุดแล้ว ถูกปากเราที่สุดค่ะ

คลุกๆๆๆ แล้วคีบเส้นเข้าปาก อร่อยอย่าบอกใคร

จากสถานีมยองดงทางออก 4 เดินใกล้มากจ้า ขึ้นมาแล้วตรงอย่างเดียวเลย


ร้านที 23

ชื่อร้าน: 둘둘치킨 Twotwo Chicken | สถานี Myeongdong ทางออก 4 / สถานี Euljiro 1-ga ทางออก 5
คำอ่านภาษาไทย: ทูลทูลชิคิน
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 둘둘치킨 명동3호점 / คลิกเพื่อดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: ไก่ทอดและเบียร์
เวลาเปิด-ปิด: 11.00 – 01.00 น.
จุดเด่น: ร้านไก่เก่าแก่ในเกาหลี เปิดตั้งแต่ปี 1997 ซอสยังนยอมจะค่อนข้างค่อนไปทางหวานหน่อย
ชอบสั่งเป็นเป็นแบบไม่มีกระดูก กินเพลินๆ อร่อยคลาสสิคค่ะ
การเดินทาง: สถานีมยองดงทางออก 6 เดินเข้ามยองดงทางหลักมากเรื่อยๆ จนเกือบสุดถนนจนเจอร้าน Olleh แล้วเลี้ยวซ้ายค่ะ
ถ้าจากสถานี Euljiro 1-ga ทางออก 5 ให้เดินตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาตรงแยก metro hotel ร้านจะอยู่ขวามือในซอยนั้นค่ะ

ร้านไก่ทอดและเบียร์ที่เปิดมานานกว่ายี่สิบปี นี่เป็นร้านแรกๆ ที่เราได้กินสมัยเรียนเลยค่ะ
เพราะเมื่อก่อนมีสาขาแถวหอพัก ลงหอมาก็เจอทุกวัน 55555

ทูลทูลชิคเก้นมีหลายสาขานะคะ เจอโลโก้ร้านที่ไหนก็เข้าได้เลย
วันนี้มากินสาขามยองดงค่ะ เป็นสาขาที่ 3 ในมยองดง

เป็นไก่มื้อท้ายๆ ของทริป พอมาย้อนดูก็คิดได้ว่าเออ
ทริปนี้กินไก่ทอดเยอะเหมือนกัน หลายร้านเลย

ไก่ไม่มีกระดูกยังนยอมของร้านนี้จะหวานนำนะคะ กินเยอะแล้วเลี่ยนค่ะ
แม้จะจานไม่ใหญ่แต่ก็กินไม่หมด ห่อกลับโรงแรม แต่อร่อยนะ
เสียดายหวานไปนิด ถ้าหวานน้อยกว่านี้หน่อยเราคงกินหมดจานไปแล้ว
จานนี้ 20,000 วอนค่ะ ถือเป็นราคาทั่วไปของไก่ทอดเกาหลีต่อจาน

ทางซ้ายจากสถานีมยองดงทางออก 6 ค่ะ ส่วนซีกขวาจากสถานีอึลจีโร่อิบกู (Euljiro 1ga) ทางออก 5


ร้านที 24

ชื่อร้าน: 이품분식 | สถานี Hongik Univ. ทางออก 3
คำอ่านภาษาไทย: อีพุมบุนชิก
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 이품분식 / คลิกดูพิกัดแผนที่
ประเภทอาหาร: อาหารจีน / ร้านเกี๊ยวสไตล์จีน
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 22:00 น.
จุดเด่น: ร้านนี้ดังในเกาหลีมาก ได้รางวัลและออกทีวีหลายรายการเลย ดังพวกเกี๊ยวโฮมเมด
เกี๊ยวทอด กุ้งทอดซอสมาโย อร่อยมากกกก จริงๆ มีอีกหลายเมนูอยากลองมาก ร้านจะฟีลจีนๆ หน่อย
มีด้านในให้เลือกนั่งเป็นห้องแดงๆ แขวนโคมแดงอยู่ด้วย ได้บรรยากาศมากค่ะ อาหารก็อร่อย ต้องไปซ้ำให้ได้เลยร้านนี้ 5555
การเดินทาง: สถานีฮงแดทางออก 3 ออกมาจะเจอกับสวนสาธารณะย่อมๆ ตรงกลาง ให้เดินตัดสวนและเข้าไปในตรอกเล็กๆ
ด้านในซอยเล็กๆ พวกนั้นจะมีคาเฟ่ ร้านน่ารักๆ เยอะเลยค่ะ (แถวนั้นเรียกว่ายอนนัมดง) เดินตัดตรอกพวกนั้นไปจนเจอถนนใหญ่อีกฝั่ง
แนะนำให้เปิดแมพเดินตามค่ะ เพราะค่อนข้างไกลจากสถานีนิดนึง แถวนั้นเดินเพลินมากค่ะ มีแต่ร้านสวยๆ ไม่มีเบื่อแน่นอน

เป็นร้านขายอาหารจีนแนวไต้หวัน เน้นที่เกี๊ยวโฮมเมดค่ะ มีหลายไส้เลย
พวกจาจังมยอน จัมปง ข้าวผัดก็มีนะ เมนูหลากหลายมากเลยค่ะ
แต่ส่วนใหญ่ไม่มีรูปประกอบและเป็นภาษาเกาหลีหมด
จะมีรูปแค่เมนูแนะนำของเค้าเท่านั้น คนอ่านไม่ออกจะลำบากหน่อย

มีสองโซน แบบโต๊ะปกติกับด้านใน จะมีโคมแดงตกแต่งอยู่
มีความจีนจ๋ามาก เก๋ๆ ชิคๆ ถ่ายรูปเช็คอินไม่มีซ้ำแน่นอน

เซลฟ์บาร์ค่ะ

สั่งไปสองอย่าง เกี๊ยวทอด (คุนมันดู 군만두) แล้วก็กุ้งทอดซอสมาโย (มาโยแซอู 마요새우)
อร่อยทั้งสอง แม้จะไปกินตอนไม่หิว แต่กลับกินเรียบจ้า

เกี๊ยวทอดได้มาแปดตัวใหญ่ๆ ไส้อร่อยยยยย

พิกัดร้านค่ะ จากสถานีฮงแดทางออก 3 เดินไกลหน่อย
แต่ถ้าจะไปเดินเล่นยอนนัมดงอยู่แล้ว ก็ลองแวะไปได้น้า


ร้านที 25

ชื่อร้าน: 계동치킨 Kyedong Chicken | สถานี Sinchon ทางออก 8
คำอ่านภาษาไทย: คเยดงชิคิน
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 계동치킨 신촌점 / คลิกเพื่อดูพิกัด
ประเภทอาหาร: ไก่ทอดและเบียร์
เวลาเปิด-ปิด: 12:00 – 02:00 น.
จุดเด่น: ร้านไก่ทอดเก่าแก่อีกร้านนึง เปิดตั้งแต่ 1993 เมนูจะคลาสสิคหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรแปลกๆ แต่ความอร่อยคือดีงามค่ะ
ราคาจะแพงไปนิดเมื่อเทียบกับปริมาณ แต่รสชาติอร่อย ให้อภัย 5555
การเดินทาง: สถานีชินชนทางออก 8 ขึ้นมาแล้วเดินมาเรื่อยๆ ผ่านหน้าไดโซะ เจอร้าน Lotte999
ให้เดินตรงไปก่อนค่ะ ข้ามสวนสาธารณะเล็กๆ ไป แล้วเลี้ยวซ้ายเดินเลียบสวนไปเรื่อยๆ จนเจอ Starbucks
แล้วเลี้ยวขวา ร้านอยู่ซ้ายมือในซอยสตาร์บัคค่ะ

ร้านไก่ทอดปิดท้ายโพสต์นี้ค่ะ เป็นร้านที่เราชอบรสชาติมาก
เปิดมานานพอๆ กับทูลทูล แต่ที่นี่เปิดก่อน เราสั่งแบบกลับบ้านค่ะ ไม่ได้กินร้าน

เมนูโปรดสั่งทุกร้าน ซุนซัล-ยังนยอม ไก่ไม่มีกระดูกแบบยังนยอมหรือหมักซอสนั่นเอง
รสชาติกลมกล่อม ถูกใจเราสุด ไม่หวานไป ไม่เค็มไป

โลโก้ร้านค่ะ ไม่จำเป็นต้องสาขาชินชนก็ได้นะ เจอที่ไหนก็เข้าได้เหมือนกันเลย

จากสถานี Sinchon ทางออก 8 นะคะ เดินไม่ไกลเลยจ้า


เป็นยังไงบ้างคะกับ 25 ร้านที่เรารวบรวมข้อมูลมารีวิว หวังว่าหลายๆ ร้านจะถูกใจทุกคนบ้างน้า
ถ้าใครอ่านแล้วชอบอย่าลืมแชร์+บอกต่อกันด้วยน้าาา ^^ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ

สำหรับใครที่มีคำถาม สามารถถามได้ในกล่องคอมเม้นด้านล่างนะคะ หรือเพื่อความรวดเร็ว
เข้ามา Inbox ถามในเพจ TwinkleBaby เลยจะตอบเร็วกว่าค่ะ ฝากติดตามรีวิวอื่นๆ ด้วยนะคะ ^^

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.