เดินทางเข้าตัวเมืองไทเปด้วยรถไฟ Airport MRT จากสนามบิน Taoyuan สู่สถานี Taipei Main

สวัสดีค่ะ วันนี้มาเขียนรีวิวและวิธีการเดินทางเข้าตัวเมืองไทเปจากสนามบิน (Taoyuan Airport) ไปยังสถานี Taipei Main Station ที่อยู่ใจกลางไทเป ด้วยรถไฟ Taoyuan Airport MRT กันค่ะ นี่เป็นวิธีเข้าเมืองที่เราใช้บริการตลอดเวลาไปลงที่เถาหยวน เพราะเป็นวิธีที่สะดวก เดินทางง่าย ราคาถูก และใช้เวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้นจากสนามบินเข้าเมืองค่ะ โดยระหว่างทางจะมีแวะจอดตามสถานีชานเมืองด้วย แต่เท่าที่เราสังเกต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปลงที่เดียวกันหมดซึ่งก็คือที่สถานี Taipei Main ค่ะ เพราะเป็นสถานีกลางที่สามารถต่อสายรถไฟอื่นๆ ทั้งรถไฟใต้ดิน MRT ทั้งรถไฟท้องถิ่น ไปยังเมืองอื่นๆ ก็ได้เลยเช่นกัน

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด


เริ่มต้นกันที่สนามบินเถาหยวนค่ะ หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าที่สายพาน และออกมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าได้เรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตหาป้ายที่บอกทางไปยัง Airport MRT ก่อนเลยค่ะ เพราะนั่นจะเป็นจุดซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟเข้าเมืองกันนั่นเอง

โดยป้ายก็จะมีบอกตลอดทางแบบนี้เลย หาง่าย ป้ายเยอะ ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ จนมาเจอกับทางออกแบบนี้

ออกไปเราจะเจอกับทางเข้าชานชาลาเลยค่ะ สามารถเข้าไปซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติด้วยตัวเองได้เลย ราคาจากสนามบินไปถึงสถานี Taipei Main จะอยู่ที่ 150NTD (ประมาณ 170 บาท)

หรือถ้าใครต้องการติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ ข้างกันก็มีเจ้าหน้าที่ให้บริการอยู่ด้วยค่ะ

ซื้อตั๋วเสร็จก็จะได้เป็นชิพแบบนี้เลย เหมือน MRT บ้านเรา

เข้ามาด้านในก็ลงลิฟต์หรือบันไดเลื่อนไปด้านล่างได้เลยค่ะ

ลงมาก็จะเจอ 2 ฝั่งนะคะ เราต้องไปทางไทเป ก็ไปรอที่ชานชาลาเลข 2 ได้เลย

มาถึงตอนรอรถไฟ ขั้นตอนนี้ต้องสังเกตดีๆ นะคะ เพราะรถไฟที่วิ่งและจอดที่สนามบินจะมี 2 แบบ แบ่งเป็น 2 สี ซึ่งได้แก่สายสีม่วงที่จะเป็นแบบด่วน (Express) สายม่วงนี้คือสายที่เราต้องขึ้นนะคะ เพราะถือว่าใช้เวลาน้อยที่สุดเพียง 35 นาที จอดแค่ไม่กี่สถานี สังเกตที่ข้างรถไฟก็ได้ จะมีลายสีม่วงและคำว่า Express อยู่ตามในรูปค่ะ

ส่วนอีกสายหนึ่งที่จะจอดเหมือนกันคือสีน้ำเงิน เป็นแบบ Commuter ซึ่งสามารถไปถึง Taipei Main Station ได้เช่นกันแต่ว่าจะใช้เวลานานกว่ามากเพราะสายสีน้ำเงินจะจอดทุกสถานีค่ะ เป็นแบบไม่ด่วนนะ ก่อนขึ้นอย่าลืมสังเกตดีๆ เพราะทั้งสีม่วงและน้ำเงินจ่ายในราคาเท่ากันค่ะ ต่างกันแค่ระยะเวลาเดินทาง

พอเช็คแน่แล้วว่ารถไฟขบวนที่เราขึ้นมาเป็นแบบด่วนถูกต้อง คราวนี้ก็หาที่นั่งกันค่ะ รถไฟแบบนี้จะไม่มีการจองที่นั่งล่วงหน้า เราสามารถนั่งตรงที่ว่างได้เลยค่ะ

ทุกตู้รถไฟจะมีพื้นที่สำหรับวางกระเป๋าเดินทางให้แบบนี้ ถ้าเต็มอาจจะต้องเดินไปเก็บที่ตู้อื่นหรือไม่ก็ไว้ที่หน้าเก้าอี้ก็ได้ มีพื้นที่พอสมควรเลย

ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย มี Wifi ให้ใช้ตลอดทางค่ะ


มาที่ขากลับกันบ้าง เรามาขึ้นกันที่เดิมก็คือตรงสถานี Taipei Main ตรงนี้ถ้าใครบินสายการบินของประเทศไต้หวัน อย่างพวก EVA Air, China Airlines หรือ Starlux Airlines สามารถทำการอินทาวน์เช็คอินที่สถานีนี้ได้นะคะ คือเอากระเป๋ามาโหลดล่วงหน้าแล้วเราไปสนามบินแค่ตัวเปล่าๆ กับสัมภาระที่จะถือขึ้นเครื่องแค่นั้นเลยค่ะ สบายมากๆ ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าให้หนักไปสนามบิน

การทำ In-town Check-in เราเคยลงรูปไว้ค่ะในโพสต์ รีวิวสายการบิน EVA (เลื่อนลงมาด้านล่างๆ จะเจอขั้นตอนการทำอินทาวน์เช็คอิน) / ส่วนสายการบินอื่นๆ ที่สามารถทำอินทาวน์เช็คอินได้มีอะไรบ้าง เช็คที่นี่ ได้เลยนะคะ

ที่สถานีก็จะมีตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติแบบนี้เหมือนกับตรงสนามบินเลย

Information ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้าออกชานชาลา

เราซื้อตั๋วที่ตู้เหมือนขามาค่ะ จริงๆ ถ้าในบัตร Easycard ใครยังมีเงินเหลือ จะใช้บัตรติ๊ดผ่านไปเลยก็น่าจะได้นะคะ เราเห็นมีที่ให้แตะบัตร แต่เราใช้ซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวเอาทั้งไปและกลับ เพราะขามาในบัตรก็ยังไม่ได้เติมเงิน ส่วนขากลับส่วนใหญ่เราก็มีเงินเหลือในบัตรไม่ถึง 150NTD แล้วค่ะ ก็เลยเลือกซื้อแยกไปเลย

สถานีตรง Taipei Main เป็นต้นทางของสายนี้เลยค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องหาที่นั่งไม่ได้ ตอนกลับอย่าลืมดูชานชาลาดีๆ นะคะว่าเราลงมารอถูกฝั่ง เพราะที่นี่เขาจะแยกรถไฟแบบ Express กับ Commuter คนละแพลทฟอร์มด้วยค่ะ ให้เลือกนั่งแบบด่วนคือสีม่วงน้า นั่งยาวไปเลย 35 นาทีถึงสนามบิน

รถไฟสายนี้จะมีจอดที่สนามบิน 2 ป้ายคือ Terminal 1 และ Terminal 2 ค่ะ (เห็นว่ากำลังก่อสร้าง Terminal 3 อยู่ด้วย) ระหว่างนั่งอย่าลืมฟังประกาศด้วยนะว่าตอนนี้เป็นเทอร์มินัลไหน เราจะได้ไม่เสียเวลาลงผิดเทอร์มินัลแล้วต้องนั่งวนไปวนมาค่า

เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.