กลับมารีวิวสวนสนุกกันอีกแล้วหลังจากไม่ได้ไปธีมพาร์คมานานค่ะ บอกก่อนว่าไป Universal Studios ที่ญี่ปุ่นรอบนี้เป็นทริปต่างประเทศสุดท้ายของเราก่อนมี Covid-19 เลย ถือว่าเป็นทริปที่ฉิวเฉียดมากๆ ค่ะ เพราะตอนแรกเราตั้งใจจะไปดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้ จองตั๋วและโรงแรมแล้ว แต่ก็ต้องแคนเซิลไปเพราะตอนนั้นในจีนกำลังระบาด แต่ยังไม่ระบาดถึงต่างประเทศ เราก็เลยเบนมาเที่ยวโอซาก้าแทน ถือว่าโชคดีมากเพราะได้ราคาตั๋วเครื่องบิน+โรงแรมมาค่อนข้างถูกเลยค่ะ
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
Universal Studios Japan ที่โอซาก้า นับเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลที่สองในชีวิตเราเลย ที่แรกคือที่สิงคโปร์นั่นเอง เราเคยรีวิวไว้แบบละเอียดด้วยน้า ส่วนที่ญี่ปุ่นนี่เป็นครั้งแรกค่ะ แล้วก็เป็นที่ๆ มีโซนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเป็นวรรณกรรมโปรดของเราตั้งแต่อยู่ประถม ออกตัวก่อนว่าเราเป็นแฟนหนังสือมากกว่าแฟนภาพยนตร์นะคะ เพราะเริ่มจากการอ่านก่อนจะดูหนัง และเรากับแฟนก็รู้จักกันได้เพราะแฮร์รี่เลยค่ะ เป็นพอตเตอร์เฮดเหมือนกัน ทำให้เราอินกับโลกเวทมนตร์มากเทียบเท่าที่เราอินดิสนีย์เลย เรียกได้ว่าเป็นสองแฟนด้อมที่เราถวายหัว 55555
รีวิวนี้เราเลยจะเน้นที่โซน The Wizarding World of Harry Potter แบบจุกๆ เรียกได้ว่าเกือบ 90% ของการไปครั้งนี้อยู่ในโซนนี้ค่ะ ที่เหลือก็จะเป็นการเดินชมบรรยากาศรอบๆ กับเล่นเครื่องเล่นที่อยากเล่นนะ ถ้าเกิดว่าต้องการรีวิวเครื่องเล่นทุกอย่างแบบจัดเต็ม โพสต์นี้อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะคะ แหะๆ
สำหรับใครที่สนใจรีวิวโรงแรมที่เราพักในโอซาก้า สามารถ คลิกที่นี่ ได้เลย / ส่วนรีวิว Universal Studios ที่สิงคโปร์ คลิกตรงนี้ ได้เลยค่ะ
การเดินทางไปยัง USJ ก็ง่ายๆ เลยค่ะ นั่งรถไฟสาย JR มาลงยังสถานี Universal-City ค่ะ เราพักที่ Kitahama เลยต้องนั่งจากรถไฟใต้ดินมาเปลี่ยนสายเป็น JR Line สีแดง ซื้อตั๋วรถไฟของเจอาร์ แล้วก็นั่งต่อมาเปลี่ยนสายเป็นเจอาร์สีน้ำเงิน และต่อมายังสถานี Universal-City อีกที แอบวุ่นวายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถค่ะ ส่วนถ้าใครที่มี JR Pass ก็นั่งมาได้เลยโดยไม่ต้องแวะซื้อตั๋วนะคะ
ออกจากสถานีมาก็จะเจอกับร้านรวงต่างๆ ก่อนถึงทางเข้าสวนสนุกนะคะ เรียกว่า Universal Citywalk Osaka ตรงนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของยูนิเวอร์แซลเขาเลย ดูเผินๆ เหมือนเดินอยู่ที่ฮอลลีวูด ถ่ายรูปกับป้ายสีสันสดใส น่ารักม๊าก
เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับทางเข้าที่อลังการดาวล้านดวงกว่าที่สิงคโปร์มากมายค่ะ 555555 วันที่ไปฟ้าไม่ค่อยเปิด เมฆเยอะ ครึ้มฟ้าครึ้มฝนทั้งวัน ได้แต่ภาวนาอย่าฝนอย่าตกเลยน้า
ถึงจะครึ้มเมฆยังไง แต่ตามธรรมเนียมก็ต้องแวะแชะภาพน้องลูกโลก สัญลักษณ์ประจำของ Universal เค้าสักหน่อยนะ
เรียบร้อยแล้วก็มาต่อแถวเข้าด้านในกัน เราซื้อบัตรจาก Klook นะคะ ใช้เป็นคิวอาร์โค้ดสแกนเข้าได้เลย ด้านในไม่สามารถนำอาหารเข้าไปด้วยได้ค่ะ แต่น้ำดื่มสามารถนำเข้าได้
วันที่เราไปคนไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่น้อยค่ะ ด้วยความที่พาร์คขนาดใหญ่พอสมควร เลยทำให้ผู้คนดูไม่หนาแน่นมาก
แวะหยิบแผนที่และไกด์สักหน่อย เอามาสะสมแหละ ไม่ได้กางดูอะไรจริงจังหรอกค่ะ 55555 ตอนเราไปกำลังมีอีเวนท์ของยอดนักสืบจิ๋วโคนันด้วย
เดินผ่านโซน Hollywood เข้าไปด้านในกันค่า
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรากับแฟนจะตรงไปโซนไหนก่อน 55555 ตั้งใจมาที่นี่เพื่อโซนนี้โดยเฉพาะเลย! The Wizarding World of Harry Potter หรือโลกเวทมนตร์ของเรานั่นเอง
มีรถฟอร์ดแองเกลียของอาเธอร์ วีสลีย์จอดรอชาวผู้วิเศษอยู่ด้วยค่ะ คนถ่ายรูปกันเยอะเลย สงสัยเบื่อป่าต้องห้ามแล้วเลยมาเป็นนายแบบอยู่แถวนี้ 5555
เราว่าคนส่วนใหญ่ในสวนสนุกก็มาอัดกันอยู่ที่โซนนี้แหละ ตรงหัวรถไฟด่วนฮอกวอตส์คนเยอะมากจนเบียดไปถ่ายรูปไม่ได้เลยค่ะ เสียดายมาก แต่ช่วงนั้นเราก็เที่ยวแบบระวังตัวด้วยเพราะโควิดเพิ่งระบาดใหม่ๆ ตรงไหนแออัดก็เลี่ยง ไว้ไปรอบหน้าจะถ่ายหัวรถไฟมาให้ได้เลย
มุมนี้ด้านหลังเห็นโซนที่กำลังก่อสร้างด้วย คาดว่าเป็นโซน Nintendo World ที่จะเปิดตัวในปี 2021 นะคะ เห็นรูปคอนเซปต์แล้วอยากไปมากกกก
คนรอต่อแถวซื้อบัตเตอร์เบียร์เยอะอยู่ค่ะ แต่เราจะไปซื้อกินพร้อมข้าวกลางวันที่ร้านไม้กวาดสามอัน เลยไม่ได้ไปต่อคิวตรงนี้
เจอกลุ่มนักเรียนร้องประสานเสียงเพิ่งโชว์จบแล้วเดินผ่านพอดี อดฟังเพลงโปรดอย่าง Double Trouble เลย มาช้าไปนิดเดียว
ใช้เวลากับโซนนี้แบบเต็มอิ่ม เดินวนแล้ววนอีก มีความสุขจัง
ร้านรวงต่างๆ จากในหนังสือและภาพยนตร์ ไปรษณีย์นกฮูก ร้านไม้กายสิทธิ์ของโอลลิแวนเดอร์ จริงๆ ร้านขายไม้กายสิทธิ์อยู่ในตรอกไดแอกอนค่ะ แต่หมู่บ้านใน USJ เป็นฮอกส์มี้ด ซึ่งคนละที่กัน แต่ก็ถือว่าหยวนๆ แหละเนอะ ถ้าอิงตามจริงเป๊ะๆ ก็เท่ากับว่าโลกเวทมนตร์ที่โอซาก้าจะไม่มีร้านขายไม้เลย ซึ่งเป็นไปไม่ด้ายยย
Honey Dukes ร้านขายขนมหวานเวทมนตร์ที่เราอยากมาเห็นกับตามาตั้งแต่สมัยอ่านหนังสือแล้ว คือจินตนาการไม่หยุดว่าจะเป็นยังไง พอได้มาเห็นในหนังภาคสามก็ยิ่งตื่นเต้น แต่ก็เทียบไม่ได้กับตอนเข้าไปด้านในด้วยตัวเองเลยค่ะ ทุกอย่างมันน่ารักมาก ฝันเป็นจริงสุดๆ
เวทีการแสดง ร้านน้ำชาของมาดามพุดดิฟุตส์ ร้านขายพืชพรรณวิเศษ Dogweed and Deathcap
เดินถัดเข้ามาจะเจอกับมุมที่สามารถถ่ายภาพฮอกวอตส์และทะเลสาบค่ะ ถึงจุดที่เห็นปราสาทสะท้อนน้ำแบบนี้ น้ำตาแทบไหล ใต้น้ำนี่จินตนาการแล้วนะ เงือกเอย กรินดี้โลว์เอย ปลาหมึกยักษ์งี้มาเต็มแน่ 5555555
น้ำนิ่งจนเห็นทั้งปราสาทสะท้อนแบบนี้เลยค่ะ สวยงามตรึงตาตรึงใจมาก
ขยับออกมาอีกหน่อยก็จะเจอกับปราสาทฮอกวอตส์แบบใกล้ๆ ชนิดตาแตก จะเป็นทางเดินเข้าเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey ข้างในไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ แต่ระหว่างต่อแถวจะมีอะไรให้เราดูเยอะมากค่ะ เป็นการจำลองปราสาทฮอกวอตส์ทั้งหมดเลย มีผ่านห้องทำงานดัมเบิลดอร์ ผ่านห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เรียกได้ว่ารอคิวนานก็ไม่อิดออดเพราะสนุกมาก! ส่วนตัวเครื่องเล่นจะเป็นการผจญภัยไปพร้อมกับแฮร์รี่ ผ่านฉากต่างๆ ภายในโรงเรียนและฉากในหนังรวมจากหลายภาค สนุกมากนะคะ ใครไปห้ามพลาด
เล่นเครื่องเล่นเสร็จท้องก็หิวแล้ว เรามากินมื้อบ่ายที่ร้านไม้กวาดสามอัน หรือ The Three Broomsticks ค่ะ เป็นผับโรงเตี๊ยมสไตล์อังกฤษที่โด่งดังในหมู่บ้านฮอกส์มี้ด เจ้าของร้านคือมาดามโรสเมอร์ท่า (เนื้อหาตามบทประพันธ์) เป็นร้านที่แฮร์รี่ในภาคสามแอบเข้าไปฟังศาสตราจารย์มักกอนนากัลคุยกับมาดามโรสเมอร์ท่าและคอร์นีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์เรื่องของซิเรียส แบล็คโดยใช้ผ้าคลุมล่องหนค่ะ
อาหารที่สั่งค่ะ จานนึงเป็นไก่อบสมุนไพรกับซี่โครง อีกจานเป็นไก่อบสมุนไพรล้วน เสิร์ฟพร้อมข้าวโพดต้มและมันฝรั่งอบ แล้วก็สั่งบัตเตอร์เบียร์มาด้วย บอกเลยว่าเป็นมื้อที่ราคาแรงที่สุดเท่าที่เคยเที่ยวธีมพาร์คมา จานละ 2200 เยน (ประมาณ 660 บาท)
ปกติเวลาเราเที่ยวสวนสนุกจะเน้นกินประหยัดค่ะ แบบแค่อิ่มท้องก็พอ เมนูไหนถูกสุดก็จัดมา แต่ที่นี่ยอมจ่ายเพื่อกินบรรยากาศเลย เพราะเป็น Theme Restaurant ด้วย แล้วเราก็รักแฮร์รี่มากๆ เลยขอเถอะ นานๆ ที 555555
ชุดไก่อบ อร่อยมาก หมักและย่างมาดี หอมค่ะ เราชอบเครื่องเคียงที่เป็นมันฝรั่งอบกับหัวหอมใหญ่
จานนี้เป็นซี่โครงบาร์บีคิวและไก่อบค่ะ เครื่องเคียงแบบเดียวกัน ราคาเท่ากัน
เราเลือกนั่งด้านนอกที่อยู่หลังร้านไม้กวาดสามอันนะคะ วิวดีแบบชาตินี้จะหาจากไหนได้อีก นั่งกินข้าวพร้อมชมปราสาทฮอกวอตส์ริมทะเลสาบไป ดื่มด่ำไปเกือบค่อนวันเลยค่ะ
หลังจากอาลัยอาวรณ์ไม่อยากออกจากโซนแฮร์รี่ สุดท้ายก็ออกมาจนได้เพราะความอยากเล่นเครื่องเล่นของ JAWS ค่ะ เป็นเครื่องเล่นที่เราใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าต้องได้เล่นสักครั้งในชีวิต และมาครั้งนี้ก็ไม่พลาด!
เครื่องเล่นจากเรื่อง JAWS อยู่ในโซน Amity Village ตามชื่อเมืองในภาพยนตร์เลยค่ะ เขาตกแต่งเมืองให้เหมือนกับในหนัง บรรยากาศรอบๆ เลยเป็นเมืองท่าติดทะเลแบบนี้
เราต่อคิวเข้าเครื่องเล่น JAWS อยู่ประมาณสามสิบนาทีได้ค่ะ ถือว่าไม่นานสำหรับ Attraction ชูโรงของโซน รูปแบบคือเราเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวโดยสารร่องเรือชมเมืองค่ะ แล้วระหว่างทางจะเจอกับเหล่าฉลามเข้ามาจู่โจม เอฟเฟคต่างๆ อลังการ มีการยิงปืน ระเบิด ไฟไหม้ท่วมจริงจังสุดๆ ชอบมากกกก! ตื่นเต้นและลุ้นมากค่ะ ส่วนตัวเราชอบเล่น Ride แนวนี้อยู่แล้ว เล่นเสร็จคือสมใจอยากสุดๆ เช็ค Bucket List ไปได้อีกหนึ่งรายการ!
เจอไอ้หลามเสร็จก็ต้องมาต่อไดโนเสาร์เนอะ โซน Jurassic Park เราเล่นไปหนึ่งเครื่องเล่นถ้วนคือ Jurassic Park – The Ride ค่ะ เป็น Attraction หลักของโซนเช่นกัน แต่โซนนี้เราไม่ได้ถ่ายอะไรมาเลยค่ะ ตอนนั้นฝนตกปรอยๆ แล้วรอคิวเป็นชั่วโมงเลย กว่าจะได้เล่นก็เกือบเปื่อย 55555 แต่เครื่องเล่นสนุกค่ะ นั่งเรือเข้าไปชมจูราสสิคพาร์ค แล้วก็เจอกับเหตุการณ์ในหนังที่ไดโนเสาร์หลุด ตัวเด็ดๆ ออกมาเพียบทั้งแรพเตอร์ ทีเร็กซ์ พวกน้องกินพืชก็ด้วย เป็นอีกหนึ่ง Bucket List ของเราเช่นกันเครื่องเล่นนี้
อันนี้เป็นหุ่นแร็พเตอร์ในร้านขายของที่ระลึกโซนจูราสสิคพาร์ค น้องขยับได้ด้วยนะ
ออกจากโซนจูราสสิคพาร์คก็จะเจอกับโซน San Francisco เป็นการจำลองเมืองซานฟรานซิสโกค่ะ
ตรงนี้เป็นกึ่งทางผ่าน คนเลยบางตาเพราะไม่มีเครื่องเล่นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เน้นการตกแต่งมากกว่า
ตกแต่งน่ารักตามฉบับยูนิเวอร์แซลค่ะ ใครสายถ่ายรูปน่าจะชอบเลย
มายังโซนที่เปิดใหม่ล่าสุดของที่นี่อย่าง Minion Park บ้าง โซนนี้คนมหาศาลล้านแปดพอตัวเพราะน่ารักม๊ากแบบก.ไก่แปดล้านตัว เป็นการจำลองเมืองในแอนิเมชั่นเรื่อง Despicable Me
สีสันในโซนนี้ก็จะฉูดฉาด ร้านค้าตกแต่งน่ารักไปหมด ทั้งตัวมิเนียนเองหรือคาแรคเตอร์อื่นๆ จากในเรื่องเอง
น้องๆ มิเนียนป่วนเต็มเมืองไปหมดเลยยย
ชอบซุ้มเกมอันนี้มาก มียูนิคอร์นนุ่มนิ่มเหมือนในหนังเลยค่ะ ตัวที่น้องแอ็กเนสเล่นจนได้มาครอง 55555 แต่ราคาต่อเกมแอบแรง เราไม่ได้เล่นนะ
เครื่องเล่น Freeze Ray Slider อันนี้ออกแนวเด็กๆ หน่อย ไม่หวาดเสียว ไม่น่ากลัว แค่นั่งแล้วก็หมุนๆ ค่ะ ต่อคิวไม่นาน เลยได้เล่นด้วยล่ะ 55555
ตัวคาร์ทที่เรานั่งจะเป็นเหมือนจรวดอะไรสักอย่างที่น่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ของมิสเตอร์กรู เจ้านายของเหล่ามิเนียนส์
บรรยากาศรอบๆ โซน Minion Park ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่คือมุมถ่ายรูปเยอะแยะมากมาย Attraction หลักของโซนนี้อย่าง Despicable Me Minion Mayhem เราไม่ได้เล่นค่ะ เข้าไปต่อแถวมาเกือบยี่สิบนาที ด้านในแถวยาวตาแตก ก็เลยตัดสินใจออกจากแถวเพราะเริ่มค่ำแล้วค่ะ
ระหว่างทางเดินกลับไปที่ทางออกจะเจอกับโซน New York ค่ะ เราชอบโซนนิวยอร์กที่สุดใน Universal ทั้งสองพาร์คที่ไปมาเลย (ไม่นับโซนแฮร์รี่นะ เพราะไบแอสอยู่แล้ว 5555) คือชอบบรรยากาศของนิวยอร์กที่เขาจำลองมา มันเหมือนเราได้ไปเดินอยู่ที่นั่นเองจริงๆ เลย
ทั้งร้านค้า ป้ายเป้ย ไฟถนนต่างๆ ทุกอย่างดีงามไปหมด
สังเกตดีๆ จะเจอกับจุดที่สไปเดอร์แมนหรือพีเตอร์ พาร์คเกอร์ในฉากห้อยตัวลงมาด้วยนะคะ ตอนเราไปนี่ไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย ดูๆ ไปก็แอบหลอน 55555
วันที่เราไป เครื่องเล่น The Amazing Adventures of Spider-Man ปิดปรับปรุงค่ะ เสียดายมากเพราะตั้งใจมาเล่น แต่ก็ไม่เป็นไร จะได้ตั้งเป้าว่าต้องกลับมาใหม่
พอออกจากโซนนิวยอร์กฝนก็ตั้งท่าจะตกอีก ฟ้าร้องดังเลย จากแพลนที่จะว่าไปดูโชว์ที่ปราสาทฮอกวอตส์เลยต้องพับไปค่ะ เสียดายอยู่เหมือนกัน แต่เวลานั้นขอสุขภาพมาก่อน ไม่อยากป่วยระหว่างทริป ไม่งั้นจะเซ็งหนักมาก
จบแล้วค่ะสำหรับการรีวิวสวนสนุก USJ ฉบับทวิงเกิลเบบี้ที่ออกจะ geek แฮร์รี่ไปสักหน่อย คือหลักๆ เราตั้งใจไปเพื่อโซนโลกเวทมนตร์นั่นแหละ แล้วก็เก็บเครื่องเล่นบางอย่างที่ตั้งใจอย่าง JAWS และ Jurassic Park – The Ride ซึ่งก็ได้ครบตามที่หวังไว้ เครื่องเล่นอื่นๆ สำหรับเราเลยถือเป็นของแถมไปค่ะ รีวิวเลยออกมาแบบนี้ จะมีความพอตเตอร์เฮดซะเยอะ อาจจะไม่ได้ละเอียดมากเท่าตอนที่เขียนรีวิวถึง USS ที่สิงคโปร์ แต่ก็หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์หรือข้อมูลให้ทุกคนได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ไว้ถ้ากลับไปโอซาก้าคราวหน้าอีกจะกลับมารีวิวอัพเดทกันแน่นอนเลยค่า
สำหรับใครที่สนใจซื้อตั๋วผ่าน Klook แบบเรา คลิกที่นี่ ได้เลยนะคะ ใช้คิวอาร์โค้ดผ่านเข้าไปได้เลย สะดวกมากๆ ค่า
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.