ปี 2020 เป็นปีที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้ขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศกันเลยจริงๆ ค่ะ แต่อย่างที่บอกว่ายังโชคดีที่ช่วงต้นปียังบินไปทริปญี่ปุ่นทันหนึ่งทริปถ้วน ทำให้มีรีวิวนี้เกิดขึ้นมาได้ ช่วงต้นปีเราเลือกบินไปโอซาก้าด้วยสายการบิน Vietnam Airlines แบบต่อเครื่องที่เวียดนาม
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
ซึ่งสายการบินนี้เป็นสายการบินแบบ Full Service ราคาที่เราจ่ายจะรวมอาหาร เครื่องดื่ม น้ำหนักกระเป๋าแล้ว ถือว่าคุ้มค่าและเป็นทางเลือกที่ดีมากค่ะ เพราะราคาถูกกว่าบินตรงหลายพันบาทเลย โปรโมชั่นก็มาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้มีเรื่องโควิดต่างๆ อยู่ ถ้าสถานการณ์กลับมาบินปกติได้เมื่อไหร่ เราว่าเจ้านี้ก็น่าจะมีโปรออกมาอีกนะ
จุดหมายปลายทางเราคือสนามบินคันไซ ซึ่งจะมีเที่ยวบินให้เลือกต่อเครื่องอยู่ที่ดานัง โฮจิมินห์ และฮานอย แล้วแต่ช่วงเวลาที่เลือกค่ะ แนะนำให้เลือกต่อที่ฮานอยจะสะดวกสบายสุด เพราะเป็นสนามบินใหญ่ รองลงมาก็ที่ดานังค่ะ สนามบินเล็กแต่ว่าใหม่และสะอาด แต่ร้านค้าจะน้อยมากๆ เพราะเมืองค่อนข้างเล็กค่ะ
เราจองตั๋วพร้อมโรงแรม กดจากเอ็กซ์พีเดียเป็นแพ็คเกจ แยกค่าโรงแรมออกเหลือค่าตั๋วคนละ 8,390 บาท รวมน้ำหนักกระเป๋า 1 ใบ (ใบละ 23kg) น้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 12kg เลือกที่นั่งเองได้ รวมเครื่องดื่มและอาหาร ราคานี้ในช่วงเดือนก.พ. บอกเลยว่าจ่ายเงินแบบไม่คิดค่ะ ช่วงพีคคนเที่ยวเยอะ บินตรงยังไงก็หมื่นอัพหมดทุกสาย แต่สายนี้ช่วงปกติออกโปรบ่อยมาก เคยเห็นแบบเจ็ดพันนิดๆ ไปญี่ปุ่นบ่อยๆ เราว่าคุ้มและการบริการก็ดีด้วยค่ะ
ลืมบอกว่าเวียดนามแอร์ไลน์อยู่ในเครือของ Skyteam นะคะ ใครที่จะสะสมไมล์ต่างๆ ในเครือนี้ก็สามารถทำได้ค่ะ
เริ่มกันที่สุวรรณภูมิเช่นเคย ตอนเช็คอินไม่มีปัญหาอะไร ราบรื่นและเรียบร้อยดีมาก มีช่องสำหรับคนที่เช็คอินออนไลน์มาแล้วแยกต่างหาก เข้าดร็อปกระเป๋าได้รวดเร็วค่ะ แต่ตอนเข้าเกทมามีการเปลี่ยนเกทกระทันหัน ตอนแรกเกทออก F3 แต่พอเวลาเรียกจริงย้ายไป G4
เที่ยวบิน VN626 จากกรุงเทพ-ดานัง เป็นเครื่องบินลำเล็ก A321 แบ่งเป็นที่นั่ง 3-3 มีสองแถวค่ะ
เบาะขนาดกว้างขวางดีนะ นั่งสบายค่ะ
คนบินไฟลท์นี้บางตามาก นับคนได้เลย ไม่น่าเกิน 30 คน เวลาเครื่องออก 18.00 น.
พื้นที่ระหว่างเก้าอี้ ยืดขาได้สบายๆ ไม่แคบ เก้าอี้ไม่มีจอใดๆ ให้ดูหนังนะคะ แต่บินแค่ 1.40 ชม. เท่านั้น
ด้านบนมีจอเล็กๆ ให้พอดูแก้เหงาได้ค่ะ มีฉายหนังด้วยแหละ แต่เราหลับ 555
เครื่องออกตรงเวลา ได้ภาพพระอาทิตย์ใกล้ตกด้วยล่ะ ปกติไม่ค่อยบินช่วงเย็นๆ แบบนี้เท่าไหร่ สวยดีเหมือนกันค่ะ
ไฟลท์นี้แจกแค่น้ำดื่มคนละขวดค่ะ คงเพราะบินสั้นเลยอาจจะไม่ได้เสิร์ฟอะไรมาก
มาถึงสนามบินดานังตรงเวลา ใครที่ต่อเครื่องไปญี่ปุ่น จะมีเจ้าหน้าที่มารอรับตอนลงจากเครื่องเลย เค้าจะพาเราไปผ่านจุดสแกนตัวอีกครั้งก่อนจะเข้าไปยังฝั่งขาออก สนามบินที่ดานังค่อนข้างเล็กแต่ใหม่ทีเดียว พอมีร้านค้าให้เลือกเดินซื้อของบ้าง ร้านอาหารพอมีแต่ไม่ได้เยอะมากค่ะ มีร้านกาแฟ เบอร์เกอร์คิงไรงี้
ราคาอาหารข้างในแพงแบบสนามบินบ้านเรา แถมมีการจะให้บังคับจ่ายการ์ดเรท usd ไปอีก ตอนแรกก็งงว่าทำไมต้องบังคับ เพราะเครื่องรูดสามารถเลือกได้อยู่แล้วจะจ่ายเป็นหน่วยเงินอะไร สุดท้ายเถียงจนพนักงานยอมรูดเป็นเวียดนามดองให้ เดาว่าเค้าจะให้รูดเรทยูเอสเพราะค่าเงินสูงกว่า
นั่งรอต่อเครื่องกันเหงาๆ เกือบ 5 ชั่วโมง ช่วงดึกๆ คนน้อยไม่ค่อยมีใครเดินผ่านไปมา สงบดีเหมือนกันค่ะ
ห้องน้ำสะอาดใช้ได้ สนามบินดูไม่อันตราย ใครง่วงก็นอนพักได้ แต่ยังไงก็ระวังของมีค่าไว้ก่อนดีกว่านะ
ใกล้เวลาบอร์ดิงก็มารอที่หน้าเกทค่ะ เป็นบัสเกทนะ ไฟลท์นี้คนญี่ปุ่นตรึม คนน่าจะเต็มทั้งลำ
เริ่มมีคนมารอขึ้นเครื่องเยอะแล้วค่ะ
เที่ยวบิน VN336 จากดานัง-โอซาก้า ใช้ A321 เหมือนเดิม ลำเล็กแต่นั่งสบาย
ไฟลท์นี้มีแจกหมอนผ้าห่มให้ด้วย บินประมาณ 4.30 ชั่วโมง เรียกว่าหลับเกือบทั้งไฟลท์เลยค่ะ
หลับๆ ตื่นๆ จนใกล้ถึงที่หมาย ลูกเรือก็เปิดไฟปลุกมากินอาหารเช้า มีเมนูเบรคฟาสท์ให้เลือกตามในภาพเลย มีจานหลักให้เลือก 2 ตัวเลือกเนอะ เป็นข้าวไก่เทอริยากิ กับอีกอันคือก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว เรากับแฟนสั่งกันคนละอย่างค่ะ
ของแฟนเป็นไก่เทอริยากิและข้าวสวย เครื่องเคียงจะเหมือนกัน มีสโมคแซลมอน ผลไม้ ครัวซองต์และโยเกิร์ต รสชาติอร่อยพอใช้ได้ แต่ซอสราดมาน้อยไปนิดทำให้ข้าวที่ไม่โดนซอสแห้งๆ ค่ะ ผักจะเย็นๆ ตามแบบอาหารเครื่องบิน
ส่วนอันนี้คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว น่าจะเป็นสไตล์เวียดนาม คือเป็นเนื้อวัวผัดมากับผัก แล้วก็มีเส้นก๋วยเตี๋ยวมาให้ รสชาติไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ แต่ก็พอกินได้ค่ะ ชอบเครื่องเคียงที่เป็นแซลมอนรมควันมาก อร่อยสุดๆ
มาต่อกันที่ขากลับกันบ้าง การเช็คอินที่สนามบินคันไซเป็นไปด้วยดี มีการแยกผู้โดยสารที่เช็คอินออนไลน์มาแล้ว เราได้รับการอัพเกรดจาก economy มาเป็น premium economy ด้วยค่ะ นั่งสบายขึ้นเยอะมากเลย โชคดีๆ
เที่ยวบินจากโอซาก้า-ฮานอย VN331 บินด้วย Boeing787 Dreamliner ค่ะ
เวลาเครื่องออก 10.30 น. เรียกบอร์ดิงตอน 9.55 น. ค่ะ ไฟลท์นี้ต่อแถวกันขึ้นเครื่องเยอะเลย
ที่นั่งของ Premium Economy กว้างและนั่งสบายกว่าอีโคโนมี่มากเลย เบาะใหญ่ มีพื้นที่เยอะ แถวที่นั่งจะเป็นแบบ 2-4-2 มีหมอน ผ้าห่มวางรอเอาไว้แบบนี้เลยค่ะ แต่แบบนี้จะยกที่วางแขนไม่ได้นะ
จอกว้าง ระบบทัชสกรีนดี มีหนังและเพลงให้เลือกหลากหลายมากค่ะ เป็นไฟลท์ที่คุ้มค่าเงินที่สุดแล้ว 5555 ใต้จอมีช่องเสียบ USB ชาร์จแบตได้ เบาะที่นั่งปรับเอนได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มอัตโนมัติค่ะ ไม่ต้องกดค้างแล้วดันตัว
เครื่องดูใหม่และสะอาดสะอ้านดีมากเลย
กระจกหน้าต่างใสปิ๊ง มองเห็นชัดแจ๋วค่ะ
อาหารของไฟลท์นี้เสิร์ฟเป็นมื้อเที่ยง มี 2 ชอยส์เหมือนเดิม แต่รอบนี้เรากับแฟนกินเหมือนกันนะคะ
ข้าวกับปลาทอดราดซอสอะไรสักอย่าง จะหวานๆ หน่อย อร่อยดีค่ะ
Appetizer อร่อยมาก ปกติไม่กินเต้าหู้ แต่นี่ยอมกิน ซอสดีมากกก
ของหวานเป็นเหมือนพุดดิงชาเขียวมูสถั่วแดง อร่อยจนอยากขอเพิ่ม
ลงเครื่องที่ฮานอย รอเวลาเปลี่ยนเครื่องแค่ 1.45 ชม. ก็บินต่อไปยังกรุงเทพฯ ด้วย VN619 เวลา 15.40 น.
นั่งกลับกรุงเทพกันด้วย A321 อีกแล้ว ทริปนี้หลักๆ 3 ใน 4 เที่ยวบินก็นั่ง A321 นี่แหละค่ะ
รอบนี้มีการแจกขนมปังค่ะ น่าจะเพราะเครื่องออกจากสนามบินใหญ่ด้วยรึเปล่า ถ้าบินกลับจากดานังไม่รู้จะได้มั้ย
ด้านในเป็นไส้แฮม อร่อยใช้ได้เลยเห็นแบบนี้ ขนมปังนุ่มไม่แข็ง ไส้มีรสชาติค่ะ
โดยรวมเราประทับใจกับการบริการของพนักงาน ราคา อาหารและการจัดการนะ ถ้ามีแพลนไปญี่ปุ่นอีกแล้วเจอโปร ก็คงเลือกบินกับสายการบินนี้แบบไม่ลังเลเลยค่ะ แม้ว่าหลักๆ จะบินเครื่องเล็กเกือบทุกไฟลท์ แต่ก็นั่งสบายไม่มีปัญหา พนักงานกราวด์ ลูกเรือบนเครื่องก็บริการดี ยิ้มแย้มให้ความช่วยเหลือดีทุกอย่างเลย เราเจอแต่ลูกเรือเวียดนามนะคะ ไม่รู้เค้ามีลูกเรือต่างชาติหรือคนไทยหรือเปล่า ชอบชุดยูนิฟอร์มด้วย เป็นชุดประจำชาติเวียดนาม สวยมองเพลินมากเลย
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.