เมื่อเดือนก่อนเราเพิ่งแนะนำร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีตรงสุขุมวิทที่ไปกินกับครอบครัวบ่อยๆ ไป เดือนนี้เลยตั้งใจจะมารีวิวร้านประจำแถวบ้านที่เรากับแฟนเลือกมากินทุกครั้งที่อยากกินซัมกยอบซัลกันค่ะ ถ้าใครที่อาศัยอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากย่านพระรามสามก็อาจจะเคยได้ยินชื่อของร้าน Maru Korean Restaurant กันมาบ้าง เพราะร้านนี้เค้าเปิดมานานแล้วค่ะ เรากินตั้งแต่สมัยที่ร้านเค้ายังอยู่ที่ตึกแถวเก่าชั้นสอง ตอนนั้นยังเปิดรับลูกค้าทัวร์เกาหลีอยู่ มีโต๊ะเยอะมากๆ
จนปัจจุบันเค้าย้ายร้านมาอยู่ที่อาคาร MS Siam Tower ตรงถนนพระรามสามได้สักพักใหญ่แล้ว จริงๆ การย้ายร้านมาอยู่ที่ MS Siam ทำให้เราไปกินบ่อยขึ้นกว่าตอนที่อยู่ตึกเดิมอีก เพราะร้านใหม่นั่งสบายกว่า ปลอดโปร่งมากกว่า เดินทางง่าย ถ้านำรถไปก็มีที่จอดเยอะ สะดวกกว่าร้านเก่ามากเลย
สำหรับเรา ไลน์อาหารของมารุอาจจะไม่ได้มีเยอะแยะหรืออลังการเท่าร้านอื่นๆ แต่ที่ทำให้เรายังเป็นลูกค้าประจำของที่นี่อยู่ก็คือความอร่อยและคุณภาพของอาหารค่ะ ส่วนตัวเราชอบตัวซัมจัง (เครื่องจิ้มหมูย่าง) ของมารุมาก ยังไม่เคยเจอซัมจังของร้านไหนในกทม.อร่อยถูกปากเท่าที่นี่เลย แบบว่าร้านอื่นๆ ก็จะอร่อยสูสีกันตามปกติค่ะ แต่ของมารุคือเลิฟที่สุด นัมเบอร์วันในใจ 555555
แล้วก็ตัวเนื้อหมูทั้งแบบสดและหมักซอส ถึงจะไม่ใช่หมูบ่มดรายเอจแต่ก็นุ่มอร่อยมากๆ เครื่องเคียงก็ถูกปากค่ะ Maru เลยกลายเป็นร้านที่ครองใจเราได้แบบเสมอมา เวลาอยากกินสามชั้นย่างเกาหลีก็พุ่งมาที่นี่ที่แรก เพราะใกล้บ้าน ขับรถหรือแท็กซี่ไม่เกิน 10 นาทีก็ได้กินแล้ว ไม่ต้องไปโมโหหิวเพราะรถติดด้วย แฮปปี้แบบสุดๆ
ส่วนราคาบุฟเฟต์ ปกติจะอยู่ที่ 399net ต่อคนรวมเครื่องดื่มแบบ Refill แล้ว นั่งกินได้ 1 ชั่วโมง 40 นาที (เค้าเพิ่งขึ้นราคาจาก 349 เป็น 399 เมื่อปี 2023 นี้เอง) แต่ก็จะมีโปรโมชั่นเหลือ 349net บ่อยมากค่ะ อย่างเราไปกินทีไรก็เป็นช่วงราคาโปรตลอด นานๆ ถึงจะหมดช่วงโปรสักที แต่เพื่อความชัวร์ ถ้าใครไม่ได้มากินบ่อยๆ ให้โทรถามหรือเช็คหน้าเพจเพื่อสอบถามราคา ณ เวลานั้นๆ ก็จะแน่นอนที่สุดค่ะ
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
การเดินทางมาที่ร้าน Maru ให้เสิร์ชกูเกิลแมพส์มาที่ตึก MS Siam ได้เลยค่ะ ร้านตั้งอยู่ภายในอาคารนี้ เป็นอาคารออฟฟิศอยู่ติดถนนพระรามสาม ด้านล่างจะมีร้านค้า ร้านอาหารอื่นๆ ด้วยนิดหน่อย จอดรถและนำบัตรจอดสแตมป์กับร้านอาหารที่เราใช้บริการได้เลย
พอเราเดินเข้าทางหน้าตึก MS Siam มาแล้วให้หันซ้าย จะเจอกับบันไดเลื่อนแบบนี้ ให้ขึ้นไปได้เลยค่ะ ร้านมารุจะอยู่ชั้น 2 นะ
พอขึ้นบันไดเลื่อนมาหนึ่งชั้น จะเจอกับประตูทางออกไปนอกอาคารแบบนี้ เดินผ่านประตูออกไปค่ะ
พอผ่านประตูมาด้านนอก ก็จะเจอกับร้าน Maru Korean Restaurant แล้วค่า
ข้างในร้านเพดานสูงมากกกก โปร่งโล่งไม่อึดอัด โต๊ะที่มีดูดควันให้ทุกตัว แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว เคยมากินวันที่ลูกค้าแน่นทุกโต๊ะ มีความควันโขมงอบอวลประมาณนึงเลย แบบว่าทุกโต๊ะพร้อมใจย่างหมูอ่ะเนอะ ที่ดูดควันเอาไม่อยู่ 55555 หลังจากนั้นเลยแอบเข็ด จะมากินเฉพาะช่วงบ่ายๆ ที่คนยังไม่เยอะค่ะ เพราะถ้าคนน้อยควันจะไม่โขมงโฉงเฉงมากนัก
ช่วงบ่ายๆ ถึงก่อนเวลาเลิกงาน ลูกค้าจะน้อยค่ะ เราชอบไปเวลานี้เพราะนั่งกินสบายสุดๆ พนักงานบริการดี คอยมองกระทะและเปลี่ยนให้อยู่เรื่อยๆ
มาดูไลน์อาหารกันว่ามีอะไรให้เราตักบ้าง พวกอาหารกินเล่นและอาหารร้อนจะไม่ได้เยอะมากนะคะ แต่รสชาติทุกอย่างคืออร่อยและดั้งเดิมจริง การันตีได้จากเจ้าของร้านคนเกาหลีและเราที่เคยเป็นนักเรียนภาษาในโซล รสชาติอาหารที่นี่คือเหมือนกินอยู่ที่โน่นเลยจริงๆ
เนื้อหมูจะมีให้เลือกทั้งแบบสดและหมักโคชูจัง ได้แก่ สามชั้นสด สันคอหมู
ส่วนแบบหมักคันจังหรือซีอิ๊วขาวเกาหลี จะมีหนังหมู ทเวจีคัลบี (หมูส่วนซี่โครง) แล้วก็เนื้อไก่ที่หมักแบบโคชูจังและคันจังค่ะ
สามชั้นมาเป็นเส้น หั่นแบบชิ้นหนา เหมาะกับการย่างกินกับผักห่อที่สุด
สามชั้นหมักโคชูจัง อันนี้ตัวโปรดเราเลย ปกติไม่ว่าจะกินปิ้งย่างเกาหลีร้านไหนก็ตาม เราจะชอบสามชั้นสดมากกว่าแบบหมักค่ะ แต่ที่มารุเป็นที่เดียวที่เราชอบกินแบบโคชูจังมากกว่า เค้าหมักมาพอดีมาก เข้าเนื้อ ไม่หวานเกินหรือเผ็ดเกินไป ย่างเสร็จแล้วกลมกล่อม อร่อยลงตัว จิ้มกับน้ำมันงา+เกลือ แค่นี้ก็พอแล้ว อร่อยทำถึงสุดๆ
ตัวทเวจีคัลบี หรือเนื้อหมูส่วนซี่โครงหมักคันจัง (ซีอิ๊วขาวเกาหลี) จะมีความหวานๆ เค็มๆ หน่อยนะคะซอสตัวนี้ ใครไม่ชอบหวานมากอาจจะเลี่ยนได้ สำหรับเราเน้นกินแบบหมักโคชูจังมากกว่าค่ะ
วงการหนังหมู เข้าแล้วออกไม่ได้มีอยู่จริง เมื่อก่อนเราก็ไม่กินค่ะ หนังหมูย่างเนี่ย ร้านไหนมีให้ก็ไม่เคยกิน แต่พอกินได้เท่านั้นแหละ หยุดไม่ได้อีกเลย หนังหมูที่นี่ต้มมาให้สุกแล้ว หมักกับซอสคันจัง นำมาย่างอีกทีให้พอเกรียมๆ มีกลิ่นไฟอ่อนๆ จิ้มน้ำมันงาคือดี!
ผ่านเนื้อสัตว์ไปแล้ว มาดูบาร์ผักและเครื่องเคียงกัน ที่นี่มีผักสดให้เลือกพอประมาณ สดและสะอาด ผักกาดหอมใบใหญ่ๆ ทั้งนั้น ห่อผักกินฉ่ำ
เครื่องเคียงจัดเต็ม เลือกกินได้ไม่อั้น กิมจิที่นี่อร่อยถูกปาก ไม่เปรี้ยวเกินไป กำลังอร่อยเลย ที่ชอบคือมีออบุกผัด หรือออมุกบกกึมเป็นเครื่องเคียงด้วย ตักกินเท่าไหร่ก็ได้
เครื่องเคียงประมาณนี้ค่ะ ไม่ค่อยเปลี่ยนเมนูนะ ไปกี่ครั้งก็เจอทุกครั้ง ซึ่งชอบมากเพราะเราชอบกินทั้งออบุกผัด มันฝรั่งผัด และสลัดผลไม้
ด้านบนจะเป็นพริก หอมใหญ่ กระเทียม ไว้สำหรับย่างหรือกินสดก็ได้
มีฟักทองด้วยค่า
น้ำจิ้มของที่นี่มีให้เลือกประมาณนี้ แต่หลักๆ เรากินแค่ 2 อย่างคือ ซัมจัง (น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว) และน้ำมันงา+เกลือ อย่างอื่นไม่เคยกินเลยไม่แน่ใจว่ารสชาติเป็นแบบไหนนะ แต่สำหรับปิ้งย่างเกาหลี จิ้มแค่ซัมจังกับน้ำมันงาเกลือก็เพียงพอแล้วค่ะ คนเกาหลีเค้าไม่ค่อยนิยมจิ้มเยอะ กลัวกลบรสชาติอร่อยๆ ของเนื้อสัตว์
ใครอยากกินบิบิมบับก็สามารถทำได้เองเลย ตักข้าวแล้วใส่เครื่องเคียงที่บาร์บุฟเฟต์ ใส่แต่ของที่ชอบก็ได้ ดีสุดๆ
ไข่ดาวสำหรับโปะหน้าบิบิมบับค่ะ แล้วก็คิมบับไส้กรอก อร่อยดี เราชอบตักคิมบับมากินกับหมูย่างด้วย
อาหารร้อนที่ตักเองได้มีให้เลือกไม่มาก แต่การันตีรสชาติอร่อยทุกเมนู ทั้งบุลโกกิ ทูบูโจริม
ชับแช เมนูยอดนิยมของคนไทย เชยุกบกกึม หรือหมูผัดซอสโคชูจัง
ข้าวผัดกระเทียมก็อร่อยนะ หอมเนยค่ะ ส่วนเมนูไก่ทอดกับของทอดอื่นๆ เราต้องสั่งกับพนักงานนะคะถ้าจะกิน ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นช่วงคนเยอะจะทอดมารอไว้มั้ย แต่เราไปตอนคนน้อย พวกอาหารทอดเลยจะสั่งทำเป็นแบบจานต่อจานค่ะ ซึ่งเราไม่ได้กินนะ ไปทีไรก็กินแต่หมูย่างอย่างเดียวค่ะ 55555
มุมเครื่องดื่มรีฟิลล์ เติมได้เรื่อยๆ รวมในราคาบุฟเฟต์แล้วนะ ไม่มีบวกเพิ่ม
กลับมาที่โต๊ะ พวกช้อน ตะเกียบ กรรไกรจะวางให้บนโต๊ะแบบนี้
ได้หมูมาแล้วก็ลงเตาไปเลย หมูสามชั้นชิ้นหนา ย่างเตาถ่านหอมๆ จนเกรียมนิดๆ
พอเริ่มสุกก็ตัดเป็นชิ้นพอดีคำสำหรับเตรียมห่อผักค่ะ อย่าลืมย่างกระเทียมกับกิมจิไว้ข้างเตาด้วยนะ เวลาไขมันจากหมูไหลมาโดนกิมจิกับกระเทียมจนเกรียมเนี่ย เดอะเบสต์
หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วก็ย่างต่ออีกนิดหน่อยค่ะ ให้สุกทั่วถึง
สีประมาณนี้แหละ ถูกต้องที่สุด
น้ำจิ้ม 2 แบบตลอดกาลของเรา ซัมจังและน้ำมันงาผสมเกลือพริกไทย เวลาเรากินแบบห่อผักจะใส่ซัมจัง แต่ถ้ากินหมูเปล่าๆ จะจิ้มน้ำมันงาค่ะ
ชิ้นแรกผ่านไป ลงต่อเลยไม่รอแล้วนะ
ระหว่างรอหมูรอบสองสุก ก็มาห่อผักกับหมูชุดแรกที่เพิ่งย่างเสร็จ หนึ่งคำเต็มๆ ปาก ความอร่อยแผ่ซ่านไปทั้งปากค่ะ การห่อผักของเกาหลีคือวัฒนธรรมสุดล้ำจริง ตราตรึงแบบที่ตอนพิมพ์อยู่ก็นึกรสชาติออก อยากกินอีกแล้วววว
หนังหมูตัวดี อร่อยเด้งดึ๋ง หนึบหนับมาก แต่เวลาย่างต้องระวังมันดีดด้วยนะ 55555
ปิดท้ายมื้อด้วยบิบิมบับแสนอร่อย อยากใส่พันชันอะไรก็ใส่โลด ซอสคลุกถูกปรุงมาแล้ว อร่อยแบบสำเร็จรูปค่ะ อย่าลืมใส่น้ำมันงาก่อนคลุกด้วยนะ
กินอิ่มแล้ว ถ้าใครอยากกินไอศกรีมแท่งก็ซื้อเพิ่มได้ค่ะ แต่เค้ามีผลไม้ให้ฟรี รวมในราคาบุฟเฟต์แล้วนะ แต่สำหรับเราต้องของหวานเท่านั้น ก็โดนกันไป 40 บาท 555555
ปิดท้ายด้วยบัตรสะสมแต้ม เป็นการยืนยันว่ากินมายาวนานจริงค่ะ แต่ตอนร้านเก่าเรากินไม่บ่อยเท่านี้นะ บัตรสะสมที่ใช้หมดไปก็เพิ่งมาเก็บแต้มครบเอาตอนที่เค้าย้ายร้านใหม่มาอยู่ตึก MS Siam นี่แหละ
นอกจากปิ้งย่างเกาหลีแล้ว มารุเค้ายังมีอาหารเกาหลีแบบอลาคาร์ทด้วยนะ เราเห็นคนแวะมากินพวกอาหารจานเดี่ยวกันเยอะเลย แต่จากที่กินเครื่องเคียง แล้วก็พวกบุลโกกิ ข้าวผัดอะไรพวกนี้แล้ว ก็น่าจะการันตีรสชาติเมนูอลาคาร์ทของที่นี่ได้ค่ะว่าอร่อยแน่นอน ไม่แปลกใจที่มีคนมากินแบบไม่ใช่ปิ้งย่างอยู่เรื่อยๆ
สำหรับใครที่อยู่ย่านพระรามสามแล้วอยากหาร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีอร่อยๆ เน้นกินหมูย่าง ไม่ได้เน้นไลน์อาหารอลังการ เราแนะนำมารุเลยค่ะ รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ ใครยังไม่เคยลองมาลองกันได้น้า ไว้รอบหน้าถ้าได้ไปลองกินปิ้งย่างเกาหลีที่ใหม่ๆ ที่ไหนอีกจะแวะมาเขียนรีวิวเพิ่มให้อีกแน่นอนค่า
Maru Korean Restaurant
ที่อยู่: อาคาร MS Siam Tower ถนนพระราม 3 แขวง.ช่องนนทรี เขต.ยานนาวา กทม.
เบอร์โทรศัพท์: 093-639-5882
เวลาเปิด-ปิด: 11.00 – 22.00 น.
GoogleMaps: maps.app.goo.gl/AgpUGXHCSU9YQNav9
Facebook: Maru Korean Restaurant
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.