ใครกำลังหาที่นั่งชิลช่วงปีใหม่ หรือหาสถานที่แฮงเอาท์พูดคุยบรรยากาศดีๆ มีอาหารอร่อย เครื่องดื่มดีๆ และดนตรีสด
ห้ามพลาดโพสต์นี้เด็ดขาด เพราะวันนี้เราจะมารีวิวอาหารแบบจัดเต็มชนิดกินอิ่มๆ จานใหญ่ๆ ใจกลางกรุงเทพฯ
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
Beer Republic เป็นร้านอาหารที่อยู่ภายในโรงแรม Holiday Inn Bangkok ค่ะ หน้าร้านจะติดถนนใหญ่เลย
เดินทางง่ายด้วย BTS หรือใครขับรถส่วนตัวไปก็สามารถจอดในที่จอดรถโรงแรมได้ สะดวกมากๆ
ถึงแม้ชื่อร้านจะเน้นที่เบียร์ แต่ที่นี่รสชาติอาหารอร่อยไม่เป็นรองเบียร์เลยค่ะ เราเป็นคนไม่ดื่มเลย
แต่ติดใจรสชาติอาหารที่นี่มาก ไปกินมาสองรอบในเวลาติดๆ กัน รีวิวนี้เลยจะขอรวบสองรอบมาไว้ทีเดียวเลยนะคะ
จุดเด่นของที่นี่คือเบียร์ค่ะ เค้ามีเบียร์ให้เลือกกว่า 70 ยี่ห้อ มีแท็ปเบียร์สดและคราฟท์เบียร์ให้เลือกหลากหลาย
แต่โพสต์นี้ของเรามาเพื่อกิน กิน และกินอาหารค่ะ เพราะงั้นจะขอข้ามเรื่องเบียร์ไปและโฟกัสที่อาหารกันเนอะ
ทางเข้าร้านสามารถเข้าได้ 2 ทางนะ อย่างตรงนี้จะเป็นทางเข้าร้านจากด้านในโรงแรม Holiday Inn ค่ะ
ถ้าใครมาทางบีทีเอส ลงสถานีชิดลมและเดินผ่านทางเชื่อม Skywalk ต่ออีกหน่อยจนถึงโรงแรม Holiday Inn ค่ะ
ร้านจะมีสองโซนให้เลือกนั่งนะคะ มีด้านในและด้านนอก
มีดนตรีสดเล่นทุกวันเลย
นี่จะเป็นโซนด้านนอกค่ะ จะโปร่งสบายกว่า เสียงดนตรีจะเบากว่าด้านในนิดนึง
การตกแต่งที่นี่จะคล้ายกับผับในยุโรปหน่อยๆ ตรงบาร์จะมีแท็ปเบียร์สดหลากหลายยี่ห้อให้เลือกค่ะ
เค้าจะรินแก้วต่อแก้ว เบียร์ทุกแก้วที่รินออกจากหัวจ่ายจะถูกรักษาอุณหภูมิไว้เพื่อรักษารสชาติอย่างดีเลย
มาดูเมนูอาหารกันค่ะ ตัวเล็กไปหน่อยขอโทษด้วยนะคะ ถ่ายยากนิดนึง ในร้านไฟไม่ค่อยสว่างด้วย
แต่เราว่าราคาอาหารถือว่าไม่ได้แพงมากนะ แต่ละจานที่เสิร์ฟก็จานใหญ่ กินอิ่มแบบจุกๆ เลย
รีวิวอาหารขอแบ่งเป็น 2 รอบนะคะ เริ่มที่รอบแรกที่ไปกินมา เราสั่งไปทั้งหมด 4 อย่างค่ะ
มาเริ่มที่จานแรกเลย Classic Caesar (220 บาท) รู้สึกว่า dressing น้อยไปหน่อย เลยทำให้ผักบางส่วนแห้งค่ะ
แต่รวมๆ แล้วก็กินเกลี้ยงจาน รสชาติผ่าน แต่เราว่าจานนี้ให้น้อยไปนิด ราคานี้น่าจะเพิ่มปริมาณขึ้นได้อีก
Beer Battered Fish and Chips (300 บาท) จานนี้เลิฟมากๆ ตัวปลาทอดมาดีมาก กรอบนอกนุ่มข้างใน
แป้งที่ชุบทอดปรุงรสอร่อยลงตัว กรอบกำลังดี กินคู่กับฟรายส์แล้วก็ทาทาร์ซอสของเค้า หมดเกลี้ยงค่า
Home Style Pasta (330 บาท) เมนูนี้เรา Customize เองได้ค่ะ เลือกเส้นพาสต้าได้ เลือกซอสได้เลย ราคาเท่ากันหมด
เราสั่งเป็นเพนเน่คาร์โบนาร่า จานนี้อร่อย ไปรอบสองเราก็ยังสั่งอีก เป็นคนชอบกินพาสต้าซอสครีมมาก เลยขาดไม่ได้ค่ะ
จานนี้คือ The Must ของเราเลย Slow Cooked BBQ (Pork) Ribs (ไซซ์ S – 220 บาท/ไซซ์ L – 400 บาท)
เป็นซี่โครงหมูบาร์บีคิว อบแบบสโลว์คุ้ก ทำให้เนื้อหมูนุ่มเปื่อยมาก ชนิดที่ว่าแค่แตะก็หลุดจากกระดูกแล้ว
ซอสบาร์บีคิวออกหวานเค็มอร่อยมาก กินคู่กับกระเทียมหอมๆ เข้ากันที่สุด จานนี้มีให้เลือกว่าจะกินหมูหรือเนื้อ
แต่วันนั้นที่เราไปซี่โครงเนื้อหมด เลยได้กินหมูแทน แต่สุดท้ายก็ได้กลับไปกินเนื้อสมใจนะ อร่อยทั้งคู่พูดเลย
มาต่อกันที่อาหารของรอบสองกันค่ะ รอบนี้สั่งหลายอย่างหน่อยเพราะไปกันหลายคนนะ
รอบสองที่ไปกินสั่งไป 6 อย่างค่ะ
เริ่มที่เครื่องเคียงก่อน รอบนี้ไม่ได้สั่งสลัดเป็นจานผักเพราะรู้สึกว่าราคาแรงไปนิดสำหรับสลัด เราเลยเลือกเป็นโคลสลอว์แทน
House-made Coleslaw (90 บาท) ราคาน่ารักกำลังดี รสชาติอร่อยกินเป็นผักเคียงแทนสลัดจานใหญ่ได้แบบไม่ติดอะไรค่ะ
Creamed Spinach (90 บาท) อร่อยไม่แพ้ร้านดังๆ ที่จานละหลายร้อยเลย แม้ที่นี่จะเสิร์ฟมาในชามเล็กสักหน่อย
แต่เราเน้นสั่งมาเป็นจาน Side Dish กินแกล้มอาหารหลักค่ะ นี่ขนาดเป็นชามเล็กยังกินเกือบไม่หมดเพราะอิ่มก่อน
ซี่โครงเนื้อรอบแก้ตัวเพราะครั้งก่อนไม่ได้กิน Slow Cooked BBQ (Beef) Ribs (ไซซ์ S – 240 บาท/ไซซ์ L – 450 บาท)
ความนุ่มเปื่อยให้พอๆ กับหมูเลยค่ะ ซอสตัวเดียวกันอร่อยเหมือนกัน ใครชอบเนื้อแนะนำให้สั่งเป็นเนื้อค่ะ ฟินมากกกก
หรือถ้าไปหลายคนก็สั่งมาลองทั้งเนื้อทั้งหมูเลยก็ได้ รับรองว่าไม่มีเหลือทิ้ง เพราะอร่อยมากจริง
สายเนื้ออย่างเราก็ไม่พลาดสเต็กค่ะ จานนี้ Grilled Australian Beef Rib Eye (550 บาท) เสิร์ฟพร้อมกระเทียมและฟรายส์
ตัวเนื้อคิดว่าทุบมาบางไปนิด ทำให้หั่นออกมาแล้วไม่ค่อยชุ่มฉ๋ำเต็มคำเท่าไหร่ แต่รวมๆ แล้วย่างมากำลังดี กระเทียมอบอร่อย
แอบติดตรงปรุงเนื้อมาเค็มไปหน่อย ถ้ากินแต่เนื้อคือเค็มนำเลย ต้องตัดด้วยซอส Peppercorn ที่ให้มาถึงพอดีลงตัว
Roasted Chicken (ครึ่งตัว 200 บาท / ทั้งตัว 380 บาท) ไก่อบที่นี่จะเลือกชอยส์ได้ว่าจะเป็นแบบอบเบียร์หรืออบมะนาว
ตอนแรกเราสั่งอบเบียร์ไป เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเบียร์เนอะ แต่ว่าอบเบียร์หมดค่ะ เลยต้องสั่งเป็นอบมะนาวแทน
รสชาติไม่ได้เปรี้ยวอย่างที่คิดไว้ เนื้อจะนุ่มชุ่มฉ่ำมากๆ ปรุงรสมาแบบเค็มกำลังดี แต่ไว้รอบหน้าจะลองกินอบเบียร์ให้ได้ค่ะ
แม้ว่าที่นี่จะเป็นร้านกึ่งผับที่เน้นไปทางนั่งชิลนั่งดื่ม แต่สำหรับเราคิดว่ารสชาติอาหารอร่อยพอที่จะไปเพื่อกินได้ค่ะ
ยังมีอีกหลายเมนูที่อยากลองทั้งพวกเบอร์เกอร์เอย หรืออาหารไทยก็อยาก รีวิวนี้อาจจะเน้นไปที่อาหารฝรั่งอย่างเดียว
ไว้โอกาสหน้าจะไปลองเมนูไทยๆ เพิ่มเติมแล้วกลับมาเขียนรีวิวให้อีกแน่นอน ชอบทั้งบรรยากาศ ทั้งอาหารเลย
เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนนัดแฮงเอาท์ หรือจะนัดแฟนเดทช่วงหัวค่ำก็ย่อมได้ อาหารดี ดนตรีสดมี เครื่องดื่มก็เริ่ดค่ะ
Beer Republic Bangkok
ที่อยู่: หน้าโรงแรม Holiday Inn Bangkok ถ.เพลินจิต แขวง.ลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
เปิด-ปิด: 11.30 – 00.00 น.
การเดินทาง: รถยนต์ส่วนตัว (จอดรถในโรงแรมได้) / BTS ชิดลม และเดินต่อทางเชื่อมสกายวอล์ก
เบอร์โทรศัพท์: 02-656-0080
พิกัด GoogleMap: goo.gl/maps/XczVTTgySChTDNwT6
Facebook: fb.com/BeerRepublicBangkok
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.