โพสต์นี้เป็นโพสต์แยกจากทริปเต็มเที่ยวฮ่องกงปี 2015 ของเราค่ะ
ซึ่งรีวิวในส่วนของดิสนีย์แลนด์ให้คนที่ต้องการข้อมูลแยกได้อ่านแบบไม่ต้องหาให้วุ่นวาย
มาอ่านที่นี่เลย จะรวบรวมข้อมูลของสวนสนุกเอาไว้ให้ครบเลยค่ะ
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
บอกก่อนว่าเราเป็นดิสนีย์แฟน ที่รักและอวยมากเป็นพิเศษเพราะรักดิสนีย์มากจริงๆ
อะไรๆ ก็จะดีไปหมดค่ะ ถ้าเขียนรีวิวแบบอวยๆ บ้าๆ ก็อย่าถือสานะคะ
ดิสนีย์คือความสุขของเราตั้งแต่เด็กยันปัจจุบันจริงๆ ค่ะ 55555
ใครอยากอ่านรีวิวเต็มของทริปฮ่องกง เชิญจิ้มๆๆ เลยค่ะ
ออกจากโรงแรมกันตอน 8.15 เลือกเดินทางไปด้วย MTR
สะดวก รวดเร็ว ราคาไม่แพง วันนี้เราไปจากที่สถานี Austin ค่ะ
ดูจากแอพของ MTR ได้เลยว่าเราต้องไปเปลี่ยนสายที่ไหน
ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 40 นาทีรวมรอรถไฟพร้อมเปลี่ยนสายแล้ว เร็วมากค่ะ
มาถึงสถานี Sunny Bay จะเจอรถขบวนน่ารักแบบนี้
มาถึงดิสนีย์แลนด์ตอนเก้าโมงนิดๆ เอาตั๋ว e-ticket ที่ปริ้นท์มาไปสแกนรับบัตรที่ตู้แล้วก็ไปรอสวนสนุกเปิด
ประตูหน้าเปิด 9.30 ค่ะ พอเข้าไปปุ๊ปทางสวนสนุกก็จะให้อยู่ในส่วน Main Street U.S.A. ก่อน
วิ่งไปเอาแมปกับไทม์ไกด์ก่อนเลยค่ะ สำคัญมากๆ เราจะได้รู้ว่าต้องไปตรงไหน ดูโชว์อะไรตอนกี่โมง
เข้าประตูหน้ามาตอนเก้าโมงครึ่ง บรรยากาศดี อากาศดี ดูแล้วไม่มีวี่แววฝนเลยแหละ ดีใจ ><
ระหว่างรอส่วนของพาร์คทั้งหมดเปิดอย่างเป็นทางการ เราก็เดินดูของไปเรื่อย เพลินๆ แอร์เย็นๆ
พอถึง 10 โมงตรงเค้าถึงจะเปิดให้เข้าไปในส่วนของ Park อย่างเป็นทางการ
ก่อนอื่นเราขอบอกก่อนเลยว่าเราเป็นแฟนดิสนีย์ตัวเป้งงงง รักและผูกพันกับทุกอย่างของ Disney
ไม่ว่าจะ Disney Classic, Pixar เจ้าหญิง การ์ตูน หนัง อะไรที่เป็นดิสนีย์เรากรี๊ดหมดค่ะ 5555
และแม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่ 3 ของเราที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เราก็ยังตื่นเต้น ตื้นตันจนน้ำตาจะไหลทุกที TT
เพราะมีหลายเครื่องเล่นมากที่ยังเล่นไม่ครบ เพราะมาคราวก่อนช่วงเทศกาลคนเยอะมาก ไม่ได้เล่นหลายอย่าง
ปล. ที่ดิสนีย์แลนด์ห้ามนำอาหารเข้านะคะ พกเข้าได้แค่ขวดน้ำค่ะ แต่ก็ถือว่าประหยัดมาก
เพราะเอาขวดน้ำไปเอง จะได้ไม่ต้องซื้อน้ำในสวนสนุกซึ่งขายขวดละ 25 HKD แพงสุดๆ ค่ะ
ในดิสนีย์แลนด์ จะมีตู้กดน้ำดื่มสะอาดหน้าห้องน้ำทุกที่ในสวนเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหิวน้ำนะคะ
พอสวนสนุกเปิดอย่างเป็นทางการตอนสิบโมงเป๊ะ ทุกคนวิ่งกรูกันเข้าไปเอาบัตรชม Frozen Village
ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเทศกาลโฟรเซ่นพอดีค่ะ บัตรหมดไวมากๆ แต่เรากับแฟนเลือกที่จะเล่นอย่างอื่น
เลยไม่ได้ตรงไปเอาบัตร ถามว่าอยากไปมั้ย ก็อยากค่ะ แอบเสียดายหน่อยนึง 5555
แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เต็มที่กับทุกโซน ทุกเครื่องเล่นในพาร์คแทนละกัน อิอิ
โซนแรกที่เลือกไปก่อนก็ Fantasy Land ค่ะ เดินเข้าไปในปราสาท Sleeping Beauty ก็เจอเลย
เครื่องเล่นอย่างแรกที่ตรงไปเล่นเลยก็ ‘The Many Adventures of Winnie the Pooh’
เป็นเครื่องเล่นแบบ Slow Ride นั่งไปในฮันนี่พ็อตของหมีพูห์แล้วก็เข้าไปดูการผจญภัย
ฮันนี่พอตของเราสีฟ้าล่ะ
น่ารักมากกกก >< เด็กๆ น่าจะชอบค่ะเพราะว่าเหมือนเป็นการเล่านิทานเรื่องหมีพูห์เลย
หลังจากออกมาจากน้องหมีพูห์ ก็ไปเล่นม้าหมุนของซินเดอเรลล่า ‘Cinderella Carousel’
เป็นม้าหมุนใหญ่ๆ ตั้งกลางแฟนตาซีแลนด์ หมุนกันได้สามรอบก็ลงมา 55555
เตรียมไปต่อแถวดู Mickey’s PhillarMagic เป็นโชว์ 4D ที่ดูทุกครั้งก็ชอบทุกครั้ง
ก่อนเข้าไปจะมีแว่นแจกคนละอันค่ะ ด้านในก็เป็นสตอรี่ของโดนัลด์ดั๊กที่หลงไปในการ์ตูนเรื่องต่างๆ
เอฟเฟคต์พุ่ง เอฟเฟคต์ลม ทำได้ดีมาก เหมือนเราเข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ ภาพสวยมากค่ะ
แฟนชอบอันนี้มาก ประทับใจทุกเพศทุกวัยจริงๆ ค่ะ ใครได้ไปต้องอย่าพลาดโชว์นี้นะคะ
แนะนำจริงๆ ค่ะ โชว์ประมาณ 15 นาทีได้ค่ะ
พอจบโชว์ ก็ยังวนเวียนอยู่ในแฟนตาซีแลนด์ 5555 เดินไปดู ‘it’s a small world’ กันนน
เครื่องเล่นนี้เป็น Attraction ในแฟนตาซีแลนด์อีกอย่างที่ได้รับความนิยมค่ะ
จะเป็นการนั่งเรือเข้าไปชมตุ๊กตาที่ใส่ชุดประจำชาติต่างๆ มีทุกทวีปเลยค่ะ
หลังจากร่องเรือ Small World เสร็จ เดินออกมาเห็นคนกำลังต่อแถวเข้าชม ‘The Golden Mickeys’
เห็นว่ารอบต่อไปที่จะแสดงคือ 11.30 มองนาฬิกาตอนนั้นเวลาสิบเอ็ดโมงสิบห้า
อีกแค่สิบห้านาทีก็เริ่ม เลยตัดสินใจเข้าไปรอเลยค่ะ เพราะโชว์นี้เป็นโชว์ที่ทางสวนสนุกแนะนำให้ดู
เป็นโชว์ที่พลาดไม่ได้ อลังการและประทับใจมาก แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ
ทุกคนร้องเพลงสด ไม่มีการลิปซิงค์ เป็นโชว์ที่บรรยายยังไงก็ไม่เท่ากับไปดูเองค่ะ สวยมากๆๆ
หลังจากจบ The Golden Mickeys เราก็ตรงไป Tomorrow Land เพื่อไปกด FastPass ของ Space Mountain
จริงๆ คนต่อไม่ค่อยเยอะเลยค่ะ จะต่อแล้วรอเล่นก็ได้ แต่กดไว้ดีกว่า จะได้ไปเล่นอย่างอื่น 5555
พอกดเสร็จ ได้รอบ 12.50-13.50 จะกลับมาเล่นตอนไหนก็ได้ในระยะเวลาที่ได้รับมาค่ะ
ในระหว่างรอก็ไปเล่นเครื่องเล่นของพี่บัซกัน ‘Buzz Lightyear Astro Blasters’
เป็นเครื่องเล่นที่ใครไปก็ต้องไปเล่นอีกอย่างนึงเลย เพราะมันสนุกมากๆ ค่ะ 5555
เข้าไปจะมีพี่บัซยืนบอกมิชชั่นเราอยู่ว่าต้องทำอะไร เท่ซะไม่มี ><
เป็นเครื่องเล่นที่นั่งบนยานแล้วก็ใช้ปืนเลเซอร์ยิงๆ เพื่อล่าแบตเตอรี่ที่ถูกตัวร้ายอย่าง Zurg วางแผนจะเอาไป
เครื่องเล่นนี้เล่นติดกันสองรอบเลยค่ะ เพราะคนไม่เยอะ ต่อคิวไม่ถึงห้านาทีก็ได้แล้ว
ออกจากพี่บัซมา ก็ถึงเวลาไปเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ที่ดิสนีย์ว่าโหดสุดๆ อย่าง ‘Space Mountain’ กันค่ะ
มีการเตือนด้วย 555555 LAST CHANCE TO EXIT! แล้วน้าา
ใครไม่อยากเล่นออกได้ที่จุดนี้ เลยจุดนี้ไปถอนตัวไม่ด้ายยย
ช่อง FastPass รอไม่นานเลยค่ะ น่าจะไม่ถึงสิบนาทีก็ได้เล่นแล้วค่ะ เราชอบมากเพราะเป็นรางในความมืด
มองไม่เห็นราง ทำให้เราเดาทางไม่ได้ว่ามันจะเป็นยังไง วูบขึ้นลงหรือซ้ายขวา 5555 ลุ้นเองค่ะ
ส่วนตัวเราว่าไม่ได้โหดหรือหวาดเสียวมากเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเรามาสายนี้อยู่แล้ว
แฟนเป็นคนไม่ค่อยชอบเล่นเหวี่ยงๆ แต่นางยังบอกว่าสนุกมากจนต้องเล่นอีกรอบเลยค่ะ มันส์จริงๆ
เดินผ่านใน Tomorrow Land มีโซน Iron Man ที่กำลังเปิดปีหน้าด้วยค่ะ อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไง *0*
พอจัด Space Montain เสร็จ ก็ตรงไป Advanture Land ค่ะ ทีแรกว่าจะดูโชว์ของ Lion King
แต่ว่าเวลามันไม่ตรงกันตอนนั้น เลยเล่น ‘Jungle River Cruise’ กัน เป็นร่องเรือชมสัตว์ต่างๆ เพลินค่ะ
มีแวะซื้อแซนด์วิชไก่งวงรองท้องกันด้วย เพราะกลัวทนหิวไม่ไหว อิอิ
ออกจากร่องเรือชมสัตว์ เราก็ตรงไปที่สามโซนใหม่ล่าสุดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กัน
ซึ่งได้แก่ Grizzly Gulch, Mystic Point และ Toy Story Land ค่ะ
เราเริ่มกันจาก Grizzly Gulch กันก่อน โซนนี้เป็นโซนฝั่งตะวันตกที่มีเหมืองแร่อยู่ในหุบเขากริซลี่
เครื่องเล่นในนี้มีอย่างเดียวคือ ‘Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars’ เป็นรถไฟเหาะเจ้าหมีค่ะ
สตอรี่ก็เป็นประมาณว่าเรานั่งอยู่บนรถลากเข้าไปในเหมือง แล้วเจ้าครอบครัวหมีเห็นเลยจะส่งเราออกไป
สนุกมากๆๆ เป็นอีกเครื่องเล่นที่ไปแล้วไม่ควรพลาด ไม่ได้หวาดเสียวมาก แค่พอกรี๊ดกร๊าดค่ะ
ไม่หนักหน่วงเท่า Space Mountain เด็กสูงเกิน 112 เซนติเมตรเล่นได้ค่ะ หนุกจริงๆ หมีก็น่ารัก ต้องลอง ^^
ออกจาก Grizzly Gulch มาก็ต่อด้วย Mystic Point เลยเพราะสองโซนนี้ติดกัน
จุดเด่นของโซนนี้คือสวนพิศวงค่ะ คือเป็นโซนที่รวมความลึกลับของสิ่งต่างๆ
Attraction ของโซนนี้คือ ‘Mystic Manor’ ค่ะ เป็นแมนชั่นพิศวงของลอร์ดเฮนรี่กับลิงคู่ใจ อัลเบิร์ต
ด้านในเป็นเครื่องเล่นแบบ Ride ที่ไม่มีราง แต่ใช้แม่เหล็กในการเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้เราหมุนได้ทั่วมาก
เป็นเครื่องเล่นที่เราคิดว่าคนคิดคนทำเก่งมากเลยค่ะ เพราะไทม์มิ่ง และการเคลื่อนไหวแต่ละห้อง
ต้องเป๊ะๆ ถึงจะให้ทุกที่นั่งเห็นทุกอย่างเท่ากันหมด การขยับและกลไกเจ๋งสไตล์ดิสนีย์ค่ะ ประทับใจ *-*
และแล้วเราก็ตรงไปที่ Toy Story Land กันเลยยย เข้าโซนนี้มาทางด้านหลัง จะเจอเป็นเร็กซ์ยืนยิ้มอยู่ตัวใหญ่ๆ
คอนเซปต์ของโซนนี้คือเราทุกคนจะกลายเป็นของเล่นของแอนดี้ค่ะ
เพราะโซนนี้ถือว่าเป็นสวนหลังบ้านแอนดี้ เหมือนพวกเราๆ จะโดนย่อส่วนให้กลายเป็นไซส์ของเล่น
โซนนี้คนเยอะมากกก รอคิวอย่างต่ำสิบห้านาทีทุกเครื่องเล่นเลย ยืนรอเมื่อยกันไป 55555
อย่างแรกที่เล่นก็ ‘Toy Soldier Parachute Drop’ เป็นเครื่องเล่นของตุ๊กตุ่นทหารของแอนดี้
ที่มันโดดร่มพาราชูทลงมาในทอยสตอรี่ภาคแรก >< อันนี้วิวสวยมากค่ะตอนอยู่ด้านบน
แนะนำให้นั่งตัวที่หันหน้าออกไปทางโซนนี้นะคะ เห็นทั้งโซนเลย สวยมากจริงๆ ค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปต่อแถวเล่น ‘RC Racer’ กัน อันนี้เรายังไม่เคยเล่นเลยเพราะครั้งที่แล้วคนเยอะมาก
ครั้งนี้ก็ถือว่าเยอะแต่ไม่เยอะเท่าตอนนั้นที่เรามา ยืนรอกันเกือบสี่สิบนาทีกว่าจะได้เล่น แต่ก็คุ้มมาก
เพราะมันสนุกมากกกก (ใครไม่ใช่สายโหดอาจจะร้องไห้เอาได้ค่ะ 5555) เพราะมันเหวี่ยงมากๆ
ทั้งเหวี่ยง ทั้งดิ่ง มันวูบไปหมดทั้งตัวเลยค่ะ ตอนมันขึ้นสุดนี่ตัวลอย เท้าลอย เหมือนจะร่วง จะตกตึก 555
ส่วนตัวแล้วเราว่าหวาดเสียว โหดกว่า Space Mountain อีกค่ะ ความรู้สึกประมาณเล่นไวกิ้ง แต่โหดกว่า
เครื่องเล่นนี้จำกัดความสูง 120 cm ขึ้นไปเท่านั้นนะคะ ใครชอบเครื่องเล่นเอ็กซ์ตรีมต้องมาลองๆ
พอเล่นเสร็จ ท้องเริ่มหิวค่ะ เพราะยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงกันเลย แต่ตอนนั้นก็เกือบบ่ายสี่แล้วค่ะ
เดินถ่ายรูปในโซนนิดหน่อยก็เดินตัดออกจาก Toy Story Land ด้านหน้ากลับไปทางแฟนตาซีแลนด์
เรากินข้าวตรงข้ามม้าหมุนค่ะ เป็นคล้ายๆ ฟู้ดคอร์ท มีสี่ร้านให้เลือก ขายเป็นเซ็ต มีข้าวรวมน้ำอัดลมแล้ว
ตกคนละ 105 HKD ราคาแรงมากอาหารในนี้ เพราะเหตุนี้เราเลยกินข้าวช่วงเย็นหน่อย
จะได้อยู่ท้องถึงตอนกลางคืน ไม่งั้นต้องเสียค่าข้าวสองรอบ งก 5555
แฟนสั่งข้าวซี่โครงหมูบาร์บีคิว เราสั่งเป็นข้าวเนื้อตุ๋น อร่อยทั้งคู่ค่ะ ราคานี้รวมน้ำอัดลมนะคะ
เดินไปหยิบที่เคาน์เตอร์น้ำเลยค่ะ ตอนแรกเราไม่รู้ พอจะไปจ่ายเงิน พนักงานบอกให้เดินไปหยิบได้เลย
พอทานกันเสร็จ เราก็เดินกลับไปทาง Adventure Land เพื่อรอชมโชว์ ‘Festival of Lion King’
รอบที่เราได้ชมคือรอบสุดท้ายของวันแล้วค่ะ ตอน 4.30 โชว์เริ่มตรงเวลาค่ะ
ภายในฮอลล์มีสแตนด์สี่ด้านให้เลือกนั่งกัน โชว์นี้ก็เป็นโชว์เรื่องไลออนคิงตามการ์ตูนเลย
แต่เป็นฉบับย่อๆ ค่ะ 5555 สตอรี่ก็ประมาณว่าซิมบ้ามาเล่าให้ฟังว่าก่อนจะได้เป็นเจ้าป่า ผ่านอะไรมาบ้าง
ซิมบ้าน่ารักมาก ดูนุ่มนิ่มน่ากอด แฟนดี๊ด๊ามาก บอกอยากขึ้นไปขี่ 5555
นักแสดงทุกคนร้องสดค่ะ เป็นโชว์ที่สวยงาม อลังการอีกโชว์ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ โชว์ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
พอได้พักขาจากนั่งดูไลออนคิง เราก็ออกไปเดินเล่นตามโซนต่างๆ ขึ้นรถไฟ Disneyland Railroad ชมวิวไปเรื่อย
เดินถ่ายรูปช่วงหัวค่ำ เพราะเริ่มเปิดไฟกันแล้วค่ะ สวยไปอีกแบบนึง ถ่ายรูปบ้าง พักขาบ้าง
นี่เป็นที่เติมน้ำที่จะมีอยู่หน้าห้องน้ำทุกที่ในสวนสนุกเลยค่ะ สะดวก ประหยัดไปเยอะ
ตอนนี้เวลารอเวลาพาเหรดตอนกลางคืนค่ะ พาเหรด ‘Paint the Night’ เป็นพาเหรดใหม่ที่เพิ่งเพิ่มมาที่นี่ค่ะ
เป็นพาเหรดติดไฟสวยๆ เริ่มเวลา 19.45 ที่ Main Street U.S.A. เราไปจองที่กันตั้งแต่ทุ่มนึง 5555
ได้ที่แถวหน้าปราสาทเลย โค้งหัวมุมกับเมนสตรีทพอดี
คิงไตตันมาอย่างใหญ่ เด่นมากๆ เด่นกว่าแอเรียลอีกค่ะ 555555 จะบอกว่าได้สบตากับแอเรียลด้วย ><
ดีใจมากที่สุดเลย มันตื่นเต้นมาก ได้มีโมเมนต์แบบนี้กับเจ้าหญิงที่เราชอบมากที่สุดดด งิงิ
ตามมาด้วย Beauty & the Beast ค่ะ เบลล์ในชุดประจำสีเหลืองโดดเด่นเป็นสง่ามากๆ
หลังจากนั้นก็เป็นตัวการ์ตูนทั้งหลาย โดนัลด์ มินนี่ กูฟฟี่ พลูโต และมิกกี้ปิดท้ายขบวน
เป็นอันถือว่าจบพาเหรดนี้ค่ะ ประทับใจไม่รู้ลืมมมม แฟนดูไปร้องไห้ไป ตอนจบพาเหรดหันมาบอก “เธอๆ เค้าร้องไห้” 5555555
ตื่นตันสินะ มันสวยงามอลังจริงๆ ตื่นตาตื่นใจค่ะ ต้องลองมาดูน้าา
หลังจากจบพาเหรด ด้วยความเหนื่อยมากและปวดขาไปหมดแล้วเพราะเดินทั้งวัน
จากตอนแรกที่จะอยู่ดูพลุตอนปิด เราไม่ไหวแล้วจริงๆ เลยบอกแฟนกลับก่อนได้มั้ย
ยืนไม่ไหวแล้ว กลับตอนนี้รถไฟจะได้ไม่ต้องเบียดคนอื่นตอนสวนปิดด้วย ยื้อไปยื้อมา
สุดท้ายก็ออกจากสวนสนุกตอน 20.45 ค่ะ จริงๆ อีกแค่สิบห้านาทีพลุก็มาแล้ว
แต่ทริปนี้ถือว่าเป็น Disney’s Day ที่เกินความคาดหมายค่ะ ตอนแรกเช็คอากาศมา ฝนตก 80%
แต่พอเอาเข้าจริง ไม่ตกเลยทั้งวัน อากาศแจ่มใสมาก ดีใจมากค่ะ แล้วก็เล่นได้เกือบครบด้วยแหละ
บ๊ายบายดิสนีย์แล้วค่าาา แล้วจะกลับไปอีกน้าาา ><
สรุปคือที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขและความฝันของเราค่ะ
เรารักดิสนีย์มากๆ และความฝันคือต้องเก็บดิสนีย์แลนด์ให้ครบทุกที่
แม้ว่าจะยังไม่เป็นจริงเร็วๆ นี้ แต่สัญญาแน่นอนว่าจะทำให้ได้
แล้วก็ที่ฮ่องกง เป็นพาร์คที่เราประทับใจนะคะ แม้จะเล็ก แต่เค้าก็พัฒนาโซนใหม่ๆ ต่อเนื่อง
ติอย่างเดียวตรงอาหารราคาแพง แพงไม่ว่า แต่รสชาติน่าจะอร่อยกว่านี้อีกสักหน่อย 555
นอกนั้นคือไม่มีอะไรจะติค่ะ เพราะอะไรที่เป็นดิสนีย์ เราโอเคหมดดดด
ใครที่สนใจ Hong Kong Disneyland สามารถซื้อตั๋วได้ที่ Klook นะคะ คลิกซื้อตั๋ว
เพื่อนๆ สามารถติดตามคอนเทนท์ใหม่ๆ หรือรีวิวอื่นๆ ได้ที่เพจนะคะ facebook.com/twinklebabystyle
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.