‘NATEE The Riverfront’ โรงแรมสวยใจกลางเมืองกาญจน์ เห็นวิวแม่น้ำแควทุกห้องพัก

ช่วงนี้ยังคงเขียนรีวิวไม่พ้นแถบกาญจนบุรี เพราะว่าเป็นจังหวัดที่ไม่ได้ไปบ่อยมากนัก นานๆ ไปที
พอได้ไปรอบล่าสุดเลยเก็บรีวิวทั้งร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ต่างๆ มาฝากทุกคนเพียบเลย
วันนี้มาถึงคิวของที่พักกันบ้างค่ะ ปกติเราเป็นคนติดนอนสไตล์โรงแรม-รีสอร์ทมาก จะไม่ค่อยเน้นแนวลุย
หรือแนวแคมปิ้งเท่าไหร่ คือที่พักอย่างน้อยต้องสะอาด ดูไม่เก่ามาก มีห้องน้ำส่วนตัว ภายในห้องไม่มีแมลง

ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด

แต่กาญจนบุรีไม่ได้มีตัวเลือกโรงแรมเยอะเท่าจังหวัดท่องเที่ยวอย่างพัทยา หรือหัวหินอะไรพวกนี้
เราเลยเลือกจองมาที่ NATEE The Riverfront Hotel Kanchanaburi เพราะเล็งโรงแรมนี้ไว้สักพักใหญ่แล้ว
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปกาญจน์สักที รอบนี้พอรู้ว่าจะมาแน่ๆ ก็เลยจองมาโดยที่ไม่ได้มองหาโรงแรมอื่นเลยค่ะ
เราจองมาช่วงโปรโมชั่น คืนละ 1,890 บาทรวมอาหารเช้าสำหรับสองคนค่ะ ราคาดีมากกก

ส่วนตัวชอบบรรยากาศการตกแต่งที่นี่นะ ร่มรื้น ต้นไม้เยอะ วิวแม่น้ำสวยตราตรึงมากจริงๆ ค่ะ
มองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้จากระเบียงห้องพักด้วย ที่สำคัญเค้ามีอ่าง Jacuzzi ให้ทุกห้องเลยด้วย
ไม่ว่าจะจองห้องแบบไหนก็ได้นอนแช่อ่างจากุซซี่ นวดตัวชิลๆ มองวิวแม่น้ำไป เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย

รายละเอียดยิบย่อยอื่นๆ ขออนุญาตเขียนลงพร้อมรูปและรีวิวเต็มเลยนะคะ ไปอ่านกันเลยค่า


โรงแรม NATEE The Riverfront Hotel (นที เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์) ตั้งอยู่บนถนนแม่น้ำแคว ซอย 5 ค่ะ
ถ้ามาจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ให้เลี้ยวซ้ายขับผ่านหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 มาเรื่อยๆ เลยค่ะ
(พิกัดแผนที่ของโรงแรม GoogleMap)

ล็อบบี้และฟรอนท์เดสก์เปิดโล่งแบบโอเพ่นแอร์ ไม่ค่อยร้อนเพราะเพดานสูงค่ะ ลมพัดเย็นๆ สบายทั้งวัน

พื้นที่ให้นั่งเล่นหรือรอเช็คอินมีเยอะอยู่นะคะ ด้านในเดินเข้าไปก็เป็นที่นั่งแบบหญ้าเทียมด้วยนะ แต่เราไม่ได้นั่งเลยค่ะ
ที่นี่เช็คอินรวดเร็วใช้ได้ ไม่ต้องรอนานก็ได้ห้องเลย (ในกรณีของเรา เข้าพักวันธรรมดานะคะ)

มีบับเบิลบาธขายด้วย ก้อนละ 190 บาท ใครที่ไม่ได้เตรียมมา มาซื้อตรงนี้ไปตีฟองในอ่างได้นะคะ

ขึ้นห้องพักกันค่า สัมภาระต่างๆ ทางโรงแรมจะนำขึ้นมาไว้บนห้องให้ก่อนเลยค่ะ สะดวกสบายมาก

ห้องพักที่เราได้อยู่ชั้น 4 ค่ะ บอกก่อนว่าเราจองห้องมาเป็นไทพ์ Jacuzzi Riverfront ซึ่งเป็นไทพ์เริ่มต้นของที่นี่
แต่พอดีว่าวันที่จองตอนแรกมันตรงกับวันที่สระว่ายน้ำโรงแรมปิด เราเลยขอเลื่อนวัน ทางโรงแรมเลยอัพเกรดห้องให้ด้วย
กลายเป็นห้อง Jacuzzi Riverfront – Scenical ค่ะ ขนาดห้อง ทุกอย่างในห้องเหมือนกันหมด แต่แบบ Scenical จะอยู่ชั้นสูงกว่า

เข้ามาถึงจะเจอโถงก่อน ที่นี่ขนาดห้องใหญ่พอสมควรเลยค่ะ เพดานสูง กว้าง ไม่อึดอัด

ถัดจากโถงทางเข้ามา จะเจอกับเดย์เบดที่มุมห้อง ชั้นวางของต่างๆ

ถัดมาเป็นเตียงนอน นุ่มสบายมาก หมอนก็ดีค่ะ นอนแล้วไม่ปวดคอ ไม่ปวดหลัง

ที่นี่จะตกแต่งด้วยลวดลายไทยๆ แต่ก็ยังมีความโมเดิร์นเล็กน้อย

ทีวีจอใหญ่อยู่ปลายเตียงแบบนี้เลยค่ะ มีช่องให้เลือกไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่

โต๊ะทำงาน มีเมนูร้านอาหารของโรงแรมแล้วก็พวกราคามินิบาร์และของภายในห้องถ้าเสียหายค่ะ เก้าอี้นั่งสบาย

ถัดมาด้านในจะเป็นโซนมินิบาร์ ตู้เสื้อผ้าและตู้เซฟค่ะ มีรองเท้าแตะให้ด้วย

ชา กาแฟ โอวัลตินดื่มฟรีได้เลยค่ะ น้ำเปล่าฟรีวันละสองขวด ขนมเสียเงินจ้า

ในตู้เย็น ที่นี่ให้โค้กวันละ 2 กระป๋องด้วยนะ ดื่มได้ฟรีค่า

ไม้แขวนเสื้อมีไม่เยอะมาก แต่ก็พอใช้อยู่ เซฟก็ปกติทั่วไปค่ะ

มาดูไฮไลท์เด็ดที่นี่กัน ที่นี่เค้าโปรโมทว่าให้อ่างจากุซซี่มาทุกห้องพักเลยนะ นอนแช่อ่างไปดูวิวแม่น้ำไป เพลินมากค่ะ

อ่างใหญ่แบบแช่สองคนสบายๆ ตีฟองนุ่มๆ เปิดระบบจากุซซี่ด้วย นวดตัวระหว่างแช่น้ำ ผ่อนคลายที่สุด

ทางเราก็ไม่พลาดตีฟองแน่นอนค่ะ เป็นคนชอบบาธมาตั้งแต่เด็กแล้ว เจออ่างไม่ได้ต้องลงแช่ตลอด มีความสุขมากกก

วิวที่ได้จากห้องน้ำค่ะ สวยมาก มองเห็นแม่น้ำแควทอดยาวเลย
เราว่านี่เป็นข้อดีของห้องที่อยู่ชั้นสูงนะ ขนาดแค่ชั้น 4 วิวยังสวยเว่อร์เบอร์นี้

ส่วนของชาวเวอร์จะอยู่ติดกับอ่างเลยค่ะ ไม่มีประตูแยกโซนฝักบัวกับอ่างอาบน้ำ
แต่เราชอบเรนชาวเวอร์ที่นี่มากเลย อาบแล้วสบายตัวสะใจมาก ละด้วยความที่ห้องมันเปิดโล่งค่ะ
เวลาอาบจะไม่รู้สึกเหมือนอาบในห้องกระจกกั้นแบบทั่วไป

ถัดมาจากห้องอาบน้ำ ก็จะเจออ่างล้างหน้า ให้มาเป็นแบบสองหัวด้วย ด้านหลังมีผ้าคลุมอาบน้ำ

ผ้าเช็ดมือ สบู่และอเมนิตี้ส์ต่างๆ ค่ะ ไดร์เป่าผมอยู่ในถุงผ้า

ในส่วนของชักโครก จะกั้นห้องให้ต่างหากเลยแยกออกมาเลย สะดวกมากค่ะ
ไม่ต้องแย่งใช้ห้องน้ำกันด้วยถ้าคนนึงจะอาบน้ำ อีกคนจะขับถ่าย

มาที่ระเบียงกันบ้าง ระเบียงห้องพักกว้าง มีเก้าอี้ให้นั่งดูวิวแม่น้ำได้ ตอนเย็นๆ มองเห็นพระอาทิตย์ตกดินด้วยค่ะ

วิวยามเย็น มองเห็นภูเขาไกลๆ อากาศดีมากๆ

ช่วงพระอาทิตย์ตก ออกมารับลมเย็นๆ ดูวิวสวยๆ ไปด้วย ห้องพักหลักพันแต่วิวคุ้มเกินราคามาก

มาดูสิ่งอำนวจความสะดวกกันว่ารอบๆ โรงแรมมีอะไรกันบ้าง

เริ่มที่สระว่ายน้ำเลยนะคะ ทางเดินไปสระว่ายน้ำมีความอุโมงค์ ทำให้เหมือนว่าเรากำลังเดินหลุดไปอีกที่นึง

เดินทะลุอุโมงค์ออกมาจะเจอกับสระว่ายน้ำเลยค่ะ แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ความลึกน่าจะเท่ากันทั้งหมดนะคะ

ถ้าได้พักห้อง Pool Access ก็จะสามารถเดินออกจากห้องพักมาลงสระน้ำได้เลยค่ะ สะดวกสำหรับคนชอบเล่นน้ำ
แต่จะไม่ได้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำแควแบบห้องไทพ์อื่นๆ ได้นะคะ เป็นข้อเสียเปรียบสำหรับห้องติดสระค่ะ

ดีไซน์ของสระน้ำสวยดี แต่ด้วยความที่มีเกาะกลางมากั้น ทำให้ว่ายแบบแนวยาวไม่ได้ค่ะ ไม่ค่อยสะดวกตรงนี้

อีกอย่างคือสระไม่มีระบบน้ำอุ่น ว่ายตอนค่ำแป๊บเดียวก็หนาวค่ะ ต้องรีบขึ้นเพราะลมแรงม๊ากกก

บริเวณโรงแรมจะมีสวนหย่อมให้มาเดินเล่น ถ่ายรูป สูดอากาศได้ด้วย ที่สำคัญวิวดีมาก เห็นแม่น้ำแบบระยะใกล้ๆ เลย

ใครมากับแฟน มานั่งงุ้งงิ้งกันตรงนี้ เพลินดีเหมือนกันค่ะ วิวตรงหน้าเป็นแม่น้ำ กอบัวเยอะมากเลย

อย่างที่เห็นว่าต้นไม้เยอะค่ะ และมีตึกของโรงแรมบังด้วย ทำให้ไม่ค่อยร้อนมาก แดดก็ไม่ส่องหน้าด้วยนะ

ส่วนของห้องออกกำลังกาย ห้องหนังสือ ห้องประชุม ที่นี่ก็มีให้บริการด้วยค่ะ

แต่ห้องไม่ได้ใหญ่มาก เครื่องออกกำลังมีอย่างละเครื่องเองค่ะ

อันนี้เค้าบอกว่าเป็น Library แต่ไม่รู้มีหนังสือให้อ่านมากน้อยแค่ไหน เราไม่ได้สำรวจเยอะค่ะ

หน้าโรงแรมมีจักรยานให้ปั่นฟรีด้วยนะ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

เรามาดูอาหารเช้ากัน ที่นี่เริ่ม 6.30 – 10.30 น.

ที่นี่ต้องเดินลงผ่านบันไดแบบนี้มาเพื่อกินอาหารเช้าค่ะ เนื่องจากพื้นที่จะออกเป็นเนินเขาหน่อยๆ

ห้องอาหารของโรงแรมเพียงหนึ่งเดียว THE RAILWAY RESTAURANT

เราสามารถเลือกนั่งทานอาหารเช้าได้ทั้งด้านในและด้านนอกเลยค่ะ ข้างนอกถ้าไม่กลัวร้อน วิวดีกว่าด้านในเยอะเลย

แต่ข้างในจะมีแอร์ และใกล้ไลน์อาหารมากกว่า เราเลือกนั่งด้านในค่ะเพราะขี้ร้อน

เข้ามาก็สั่งกาแฟที่บาร์ก่อนเลย ที่นี่เค้าทำลาเต้อาร์ทให้ด้วยนะ น่ารักมั่กกก

มาดูไลน์อาหารเช้ากัน เราเข้าพักวันธรรมดา ไม่คิดว่าจะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ให้ตักเองเพราะคนไม่ได้เยอะมากค่ะ
แต่ก็ยังเปิดไลน์บุฟเฟ่ต์ทั้งสองวันที่ไปพักเลยด้วย ค่อนข้างประทับใจตรงนี้พอสมควรเลยแหละ

ขนมปัง แยม มีหลากหลายพอประมาณ

น้ำสลัด ผักสลัดต่างๆ

ถึงจะเป็นโรงแรมไม่ใหญ่ ห้องอาหารเล็กๆ แต่ก็มี Egg Station นะ
สั่งได้หมดเลยทำสดทุกจาน ออมเล็ต ไข่ดาว สครัมเบิลต่างๆ

ออมเล็ตใส่แฮมและชีสเยอะๆ ของโปรดเลยค่ะ มีแพนเค้กให้ตักด้วยน้า

ไลน์อาหารไทยที่นี่คือเดอะเบสท์มากๆ แพนงอร่อยมากค่ะ ตักสองถ้วยกินกับข้าวสวยสองจาน จากที่อิ่มไข่อยู่แล้ว
แต่อดใจไม่ได้กับแพนงจริงๆ กินคู่กับผัดผัก เข้ากันที่สุด ใครไปพักที่นี่ต้องชิมอาหารไทยเค้านะคะ รสชาติดีมากๆ

ข้าวต้มเครื่องก็อร่อย เรากินวันที่สองค่ะ ปรุงนิดเดียวเท่านั้น เค้าทำมาอร่อยอยู่แล้ว รสชาติดี

ที่ชอบมากของที่นี่คือนอกจากพวกน้ำผลไม้ตามมาตรฐานโรงแรม เค้ามีน้ำกระเจี๊ยบและสมูธตี้ให้เลือกด้วย
วันแรกเป็นสมูธตี้ส้ม อร่อยมากค่ะ เหมือนกินพวกโยเกิร์ทปั่นอะไรแบบนั้นเลย วันที่สองเป็นสัปปะรด อร่อยไม่แพ้กัน

ผลไม้ล้างปากมีให้เลือกสองอย่างค่ะ

กิมมิคน่ารักๆ ของห้องอาหาร มีรถไฟวิ่งรอบๆ ด้วยนะ จำลองเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควด้วยค่ะ ชอบมากกก

กว่าจะเดินตักอาหารเสร็จ กาแฟก็มารอที่โต๊ะแล้วค่ะ

เราเลือกโต๊ะที่หันหน้าออกทางแม่น้ำแคว วิวตอนเช้าดีไม่แพ้ช่วงเย็นเลยค่ะ เป็นเช้าที่สดใสมาก

อาหารเช้าที่นี่แม้จะไม่ได้มีไลน์เยอะมากมาย แต่รสชาติและคุณภาพเราให้ผ่านเลยนะ ชอบค่ะ

แถมภาพวิวมุมกว้างให้ดูเป็นการประกอบการตัดสินใจค่ะ เผื่อยังลังเลว่ามาดีมั้ย
แนะนำว่าให้ลองสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ด้วยตัวเอง ของจริงสวยกว่าในรูปเยอะเลยนะ

โดยรวมแล้วชอบที่นี่นะคะ ทั้งบรรยากาศ อาหารเช้า ห้องพักแสนสบาย คุ้มค่าราคาทุกบาทที่จ่ายไปมากค่ะ
การบริการเราไม่ค่อยได้ใช้บริการอะไร แต่พนักงานที่ห้องอาหารทุกคนน่ารัก บริการดี พูดจาดีทุกคนเลย ประทับใจค่ะ
ที่ไม่ค่อยถูกใจก็มีแค่สระว่ายน้ำที่ทางเดินเข้าถึงยากเล็กน้อย ต้องเดินข้ามหินไปอีกฝั่ง ว่ายทางยาวไม่ได้ ละก็น้ำในสระไม่อุ่น
นอกนั้นก็คือโอเคหมดเลยนะคะ ทำเลก็ดี หาของกินง่ายเพราะอยู่ในตัวเมืองเลย ไม่ไกลแหล่งท่องเที่ยว สะดวกสุดๆ ค่ะ

NATEE The Riverfront Hotel Kanchanaburi
เว็บไซต์โรงแรม: www.nateetheriverfront.com
Facebook: fb.com/NateeTheRiverfront
เบอร์โทรศัพท์: +66-3451-8398 หรือ +669-9713-3187
แผนที่ Google Map: https://goo.gl/maps/Eqdd7NTT5kMBeGBq7

เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️

Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.