รีวิวร้านอาหารที่ญี่ปุ่นของทริปเมื่อต้นปี 2020 เราจะยังทยอยลงให้เรื่อยๆ นะคะ เก็บไว้เป็นข้อมูลเผื่อกลับมาเปิดประเทศเที่ยวได้อีกครั้งเนอะ วันนี้ถึงคิวพิกัดของอร่อยในเมืองโกเบกันบ้างค่ะ เราไปคันไซรอบนี้ได้ออกนอกโอซาก้าไป 2 เมืองนะ คือเกียวโตกับโกเบ และถ้ามาถึงโกเบแล้ว สายเนื้ออย่างเราจะไม่มีทางพลาดชิมเมนูสเต็กสไตล์โกเบเด็ดขาด มาถึงถิ่นทั้งทียังไงก็ต้องได้กินค่ะ ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่อยู่ไทย 555555
ร้านที่เราเลือกให้เป็นมื้อแรกของวันเดย์ทริปที่โกเบคือ Steakland นั่นเอง เป็นร้านสไตล์เทปปันยากิที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว เนื่องจากราคาไม่แรงจนเกินไปถ้าเทียบกับคุณภาพ แถมยังมีจัดเซ็ตกลางวันในราคาสุดคุ้มด้วย ถือว่าเป็นร้านที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ คนต่อแถวกินกันยาวเหยียดตลอดทั้งปี ขนาดเราไปเร็วแล้วก็ยังต้องรอคิวค่ะ แต่รอไม่นานนะ เขาจะมีสองสาขาใกล้ๆ กัน แนะนำเป็นสาขาที่เราไปจะคนน้อยกว่าเพราะอยู่บนอาคารชั้น 6 ค่ะ คนไม่ค่อยเดินผ่านเลยไม่รู้ ส่วนอีกสาขาจะเป็นหน้าร้านแบบคนเดินผ่านไปมามองเห็นง่าย ตรงนั้นคนเลยเยอะตลอดค่ะ
สำหรับทริปคันไซของเรารอบนี้ เราใช้ตั๋วรถไฟ Kansai Thru Pass ในการเดินทางต่างเมืองในคันไซหมดเลยค่ะ สะดวกและประหยัดมากๆ เพราะใช้ได้หลายเมืองแบบไม่จำกัดรอบต่อวัน ขึ้นรถไฟท้องถิ่นก็ได้ ใครมีแพลนจะไปคันไซเราว่าโอเคมากๆ เลยกับตั๋วพาสแบบนี้ค่ะ เราซื้อผ่าน Klook นะคะ แล้วนำคิวอาร์ไปแลกที่เคาน์เตอร์ตัวแทนที่สนามบิน KIX สะดวกมาก
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
การเดินทาง ลงรถไฟที่สถานี Kobe-Sannomiya ทางออก East 6 ขึ้นมาเลี้ยวซ้าย เดินต่ออีก 150 เมตรก็จะเจอกับป้ายชื่อร้านแบบนี้เลย (ใครไม่ชัวร์เดินตามกูเกิลแมพส์ก็ได้นะคะ) เราแนะนำสาขาที่อยู่บนชั้น 6 ค่ะ คนจะน้อยกว่าสาขาที่ติดกับทางเท้า ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยตามป้ายเลย เดิน 20 เมตรจะเจอทางเข้าตึกซ้ายมือ
หน้าตึกจะมีป้ายบอกแบบนี้อยู่ ถ้าเจอก็คือมาถูกทางแล้วค่ะ ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 6 ได้เลย
หน้าลิฟต์ก็จะมีบอกราคากับเมนูคร่าวๆ ไว้นะคะ สามารถเลือกดูหรือตัดสินใจกันก่อนได้ แต่เราไม่ได้ดูอะไรมากเพราะหมายมั่นไว้แล้วว่าจะต้องได้กิน ก็กดลิฟต์ขึ้นไปโลดค่า
ขึ้นมาก็เจอกับคนต่อคิวรอเยอะประมาณหนึ่ง ก็ลงชื่อไว้ค่ะ รอจริงๆ แค่สิบนาทีนิดๆ เขาก็เรียกชื่อแล้ว ต้องฟังให้ดีๆ นะคะ บางทีเสียงขานชื่อจะเบามาก แฟนเราไม่ได้ยินชื่อตัวเองด้วยซ้ำ แต่เราเงี่ยหูฟังอยู่ตลอดเลยได้ยิน ไม่งั้นโดนข้ามคิวแหง 55555 พอได้คิวเขาก็จะพาเราไปที่โต๊ะพร้อมยื่นเมนูค่ะ เราก็เลือกที่ต้องการได้เลย ตอนนั้นไปช่วงกลางวันก็จะมีเมนู Lunch Set ราคาตามภาพเลยค่ะ
สั่งอาหารเสร็จก็นั่งรอค่ะ อุปกรณ์เริ่มต้นก็ตะเกียบ ผ้าเช็ดมือ แก้วน้ำดื่ม
ตามด้วยการเสิร์ฟน้ำจิ้ม รสชาติดีมากเลย มีความเค็มๆ หวานนิดๆ หอมๆ
ผักดองเป็นเครื่องเคียงไว้ตัดเลี่ยน
แล้วก็สลัดค่ะ เอาไว้กินเรียกน้ำย่อยรอน้องเนื้อ
รอสักพัก เนื้อของแต่ละคนที่สั่งในโต๊ะนี้ก็จะรวมกันมาวางไว้แบบนี้เลย โต๊ะที่นี่จะเป็นสไตล์เทปปันยากินะคะ ก็คือนั่งล้อมรอบกระทะที่มีเชฟปรุงอยู่ตรงกลางค่ะ
เชฟจะเริ่มที่การผัดกระเทียมและเห็ดก่อนค่ะ พวกนี้จะเสิร์ฟให้เราในจานทั้งหมดเลย เป็นเครื่องเคียงสเต็ก
บอกเลยว่ากระเทียมหอมมากกกก ถูกใจสายกระเทียมสุดๆ
พอกระเทียมหอมกรอบได้ที่ คราวนี้ก็ถึงคราวปรุงรสเนื้อด้วยเกลือพริกไทยเล็กน้อยเพื่อเตรียมลงกระทะค่ะ
เขาจะลงเนื้อพร้อมกันทุกชิ้นแบบนี้เลยนะ ตอนนี้คือทั้งกลิ่นทั้งเสียงซู่ซ่าบนกระทะ ดีงามไปหมด
พลิกมาพลิกไปสักพักก็สุกค่ะ
พอเนื้อเริ่มสุกก็มาถึงขั้นตอนการหั่นบ้าง เขาจะหั่นทีละชิ้นๆ เลย ชำนาญและเป็นมืออาชีพสุดๆ ค่ะ ใช้มีดไวและคล่องแคล่วมาก
ไม่นานเนื้อชิ้นเบิ้มก็กลายเป็นลูกเต๋าแบบนี้แล้ว
ตอนนั้นสารภาพเลยว่านั่งดูไปกลืนน้ำลายไป น่ากินมากกกก ใครเป็นสายเนื้อวัว เจอแบบนี้ตรงหน้าใจก็ระทวยทั้งนั้นแหละเนอะ
พอเสร็จเรื่องเนื้อก็ต่อด้วยผักเคียงเพิ่มเติมค่ะ ถั่วงอกและผักใบเขียว เดาว่าน่าจะเป็นบ็อกชอยนะ จำไม่แม่น
ในเซ็ตอาหาร นอกจากเนื้อสเต็กและผักเคียงแล้ว ก็ยังมีข้าวสวยและซุป รวมถึงเครื่องดื่มปิดท้ายมื้อด้วยนะคะ
ซุปมิโสะแบบกลมกล่อมๆ ละมุนลิ้นมาก
อันนี้เป็น Steak Lunch (S) ราคา 1080 เยนค่ะ
จานนี้เป็น Steak Lunch (L) ราคา 1480 เยน เนื้อแบบเดียวกันแต่คนละไซส์นะคะ
รสชาติคือเนื้อเน้นๆ ปรุงน้อยๆ ค่ะ อย่างที่เห็นว่าเชฟเขาใส่แค่เกลือและพริกไทยเท่านั้น ทำให้เราได้รสชาติเนื้อแบบเต็มคำ สำหรับเราแอบอยากให้มันดิบกว่านี้หน่อย อันนี้มาถึงจานก็สุกไปหน่อยแล้ว ด้วยความที่ส่วนตัวเรากินสเต็กแบบแรร์ตลอด แต่ตอนสั่งทางร้านก็ไม่ได้ถามระดับความสุกนะคะ เดาว่าอาจจะสื่อสารลำบาก เลยได้ระดับค่อนข้างสุกเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอร่อยอยู่ดีค่ะ ตัวสเต็กเริ่มต้น เนื้อวัวจะมีความเหนียวพอให้เคี้ยวสนุกนะคะ ไม่ได้นุ่มละลายในปาก ถ้าใครเน้นนุ่มมากๆ อาจจะต้องสั่งเป็นเทนเดอร์ลอยน์หรือเกรดที่แพงขึ้นมากว่านี้
เครื่องดื่มปิดท้ายมื้อ เลือกได้ว่าจะรับเป็นน้ำผลไม้หรือกาแฟค่ะ
รวมๆ แล้วมื้อนี้เป็นมื้อที่ชอบและประทับใจมาก จริงๆ แค่ได้ดูเชฟทำอาหารตรงหน้าก็สนุกคุ้มราคาแล้ว ยังได้กินอาหารอร่อยๆ คุณภาพดีอีก สำหรับใครที่มาโกเบแล้วยังไม่มีแพลนร้านอาหาร Steakland น่าจะเป็นอีกหนึ่งร้านที่คนรักเนื้อวัวน่าจะชอบได้ไม่ยากค่ะ แนะนำเลย ใครไปโกเบอย่าลืมจดพิกัดไปลองกินตามกันดูนะคะ
Steakland
การเดินทาง: สถานี Kobe-Sannomiya ทางออก East 6 ขึ้นมาเลี้ยวซ้ายและเดินอีก 150 เมตร
เวลาเปิด-ปิด: 11:00-14:00 / 17:00-21:00
เว็บไซต์: steakland-kobe.jp
พิกัด GoogleMaps: https://goo.gl/maps/Cd9LJPssEKMQEXkg7
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.