ไปเกาหลีทีไร ไม่เคยกินหมูย่างต่ำกว่าห้ามื้อทุกที ใครเป็นเหมือนกันบ้างยกมือออออ
คือต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมการกินหมูย่างหรืออาหารปิ้งย่างของเกาหลีเค้ามีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จริงๆ
คือต่อให้เรากินหมูแบบเดียวกันเป๊ะๆ ย่างมา แต่ถ้าไม่มีเครื่องเคียง ไม่มีผักห่อ ไม่มีซัมจัง ยังไง๊ยังไงก็ไม่หายอยาก
สุดท้ายก็ต้องดั้นด้นหาร้านเกาหลีแท้ๆ กินให้ฉ่ำปอดทุกที บางคนอาจจะคิดว่า มันจะต่างกันตรงไหน
ก็เอาเนื้อสด หมูสดมาปิ้งในเตาแล้วจิ้มน้ำจิ้มเหมือนกันแหละ เราจะบอกว่าต่างนะคะ รสชาติมันไม่เหมือนกัน สไตล์ก็ต่าง
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
เช่นถ้าเราอยากกินแบบยากินิคุ มันก็จะเป็นน้ำจิ้มอีกแบบนึง เนื้อหั่นมาอีกแบบ หมูอีกแบบ แต่ถ้าปิ้งย่างเกาหลีเนี่ย
มันจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งการย่างหมู การกินด้วยผักห่อ การนำกิมจิและกระเทียมลงไปย่างด้วยกัน
หรือแม้แต่น้ำจิ้ม และการจิ้มน้ำมันงาเกลือนี่แหละ ที่ทำให้หมูย่างเกาหลีแตกต่างจากอาหารปิ้งย่างอื่นๆ โดยสิ้นเชิงงง
อ่ะ พูดเพ้อไปเรื่อยอีกละ 5555 พอยท์ที่อยากบอกก็คือ เราจะกินหมูย่างเกาหลีกี่ร้านก็ได้ถ้าใจเราอยากกกกก
วันนี้ก็มานำเสนอร้านปิ้งย่างแถวฮงแดร้านดัง ที่คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักดีอยู่แล้ว หรือถ้าใครยังไม่เคยไปหรือไม่เคยลอง
มาอ่านรีวิวนี้ไปด้วยกันกับร้าน Chakan Galbi หรือ 고창복의착한갈비 (โคชังบกกี ชาคันคัลบี) ย่านฮงแดนั่นเอง!
Update 2023 ร้านนี้ปิดกิจการแล้วนะคะทุกคน จากพิษโควิดค่ะ เสียใจมากที่เสียร้านหมูย่างอร่อยๆ ไป ยังไงลองหาดูในหมวด พากินเกาหลี นะคะ เผื่อเจอร้านอื่นๆ ถูกใจ
ชื่อร้าน: 고창복의착한갈비 Chakan Galbi | สถานี Hongik Univ. ทางออก 8
คำอ่านภาษาไทย: โคชังบกกี ชาคันคัลบี (เรียกแค่ ชาคันคัลบี ก็ได้ค่ะ)
คีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาพิกัดใน Naver Map: 고창복의착한갈비 홍대점
เวลาเปิด-ปิด: 12.00 – 24.00 น. ไม่มีวันหยุด
การเดินทาง: จากสถานีฮงแด ทางออก 8 เดินขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยแรก เดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ จนเจอวงเวียน
เลี้ยวซ้ายเดินต่ออีกนิด ให้สังเกตหน้าร้านตามรูป ร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ (เยื้องกับร้านเซมาอึล)
ร้านนี้เรียกว่าเป็นร้านดังในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวเกาหลีเองด้วยค่ะ คนแน่นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงมื้อเย็น
ใครอยากกินแบบไม่ต้องรอคิวหรือไม่ต้องคนเยอะวุ่นวาย แนะนำให้ไปกินเป็นมื้อกลางวัน ร้านจะโล่งๆ นั่งสบายกว่า
ทริปนี้เราไปกินที่นี่สองรอบ รอบแรกไปช่วงค่ำวันอังคาร คนแน่น เต็มทุกโต๊ะ ขยับตัวลำบากมาก
เลยไม่ได้ถ่ายในร้านมานะคะ แต่เดี๋ยวมีรูปบรรยากาศในร้านตอนที่แวะไปกินตอนมื้อเที่ยงมา รูปจะอยู่ด้านล่างค่ะ
พอเข้ามานั่ง เครื่องเคียงบนโต๊ะที่มีให้ก่อนก็จะเป็นผักและสาหร่ายแบบนี้ สามารถตักเพิ่มได้ที่เซลฟ์บาร์ถ้าไม่พอ
ชอบอันนี้มาก เป็นสลัดกะหล่ำปลี น้ำสลัดอร่อยเด็ด ผักกรอบ
ซัมจังที่นี่รสกำลังดี ไม่เผ็ดเกินไป ตรงกลางเป็นเกลือ
ใครชอบแนวน้ำมันงาเกลือ ก็เอามาเทได้ค่ะ หรือถ้าใครชอบจิ้มเกลือเพียวๆ ก็จัดไป
เมนูมีภาษาอังกฤษให้ ไม่ต้องห่วงสำหรับคนอ่านเกาหลีไม่ได้
ตอนไปกินรอบแรกเราสั่งเป็นเมนู 순매갈비 (ซุนแมคัลบี) ราคา 21,000 วอนค่ะ จะได้ซี่โครงหมัก 2 ที่+ซี่โครงเผ็ด 1 ที่
ราคานี้ถือว่าคุ้มมาก เพราะจะได้ซี่โครงสองแบบ สำหรับ 3 คนกิน แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้มาเยอะขนาดนั้นนะคะ กินสองคนก็ไหว
(ในเกาหลีนิยมขายเป็นราคาต่อ 1 ที่ เค้าจะจัดปริมาณมาให้ตามความเหมาะสมค่ะ)
ส่วนหน้านี้จะเป็นแบบโปรโมชั่นสั่ง 3 ที่ขึ้นไป จะได้ราคาถูกลง แต่ต้องเป็นหมูประเภทเดียวกันเท่านั้น คละเมนูไม่ได้นะคะ
(ตัวอย่าง ถ้าเราสั่ง Pork Belly แบบราคาปกติ 1 ที่ 11,900 วอน แต่ถ้าเราสั่ง Pork Belly 3 ที่ขึ้นไป จะเหลือที่ละ 7,900 วอนค่ะ)
นอกจากหมูย่างก็ยังมีเมนูอาหารด้วย บิบิมบับเอย แนงมยอนเอย ทเวนจังจิเกเอย
สั่งได้ตามสะดวกเลยค่ะ เครื่องดื่มก็ตามที่เห็น มีภาษาอังกฤษบอกกำกับชัดเจน
มาดูเซลฟ์บาร์กันบ้าง กิมจิ ไช้เท้า สลัดที่เติมเองได้เรื่อยๆ พริก ผักเคียงต่างๆ
กระเทียม ใบงา ผักกาดไว้ห่อหมู อย่าลืมเอากระเทียมและกิมจิลงไปย่างด้วยนะ
ทีเด็ดสำหรับคนชอบกินไข่กุ้ง ที่นี่มีให้ตักเรื่อยๆ ไม่อั้น จะตักพูนเท่าไหร่ก็ได้
เราตักมาใส่ห่อผักกินกับหมู คืออร่อยมาก กรุบมากกกก
กลับมาที่โต๊ะ เตาก็มาลงแล้ว พร้อมกับตะแกรงย่างซี่โครง
ที่นี่เค้าจะแยกตะแกรงสำหรับย่างซี่โครงกับหมูธรรมดานะคะ
ซี่โครงมาแล้วจ้า หมักสีน้ำตาลๆ แบบนี้จะเป็นแบบยังนยอมรสชาติปกติ ออกหวานเค็ม เนื้อหมูนุ่มมากๆ
ส่วนจานนี้จะเป็นซี่โครงหมักแบบเผ็ด จะมีสีส้มๆ ของตัวซอสที่เอามาหมัก
รสชาติก็เผ็ดใช้ได้ค่ะ ใครไม่กินเผ็ดอาจจะไม่ชอบนะ
นอกจากซี่โครง เราก็สั่งสามชั้นกับหมูส่วน Skirt meat (กระบังลม)
มาด้วย อร่อยทั้งคู่โดยเฉพาะส่วน Skirt meat หรือ 갈매기살
เตาที่เป็นตาข่ายๆ แบบนี้จะไว้ย่างซี่โครงค่ะ ไม่แน่ใจว่าต่างกับแบบย่างหมูอื่นๆ ยังไง แต่ย่างออกมาละอร่อยเป็นพอ!
ห่อด้วยผัก สาหร่าย กิมจิย่างและไข่กุ้ง หมูจะจิ้มน้ำมันงาเกลือ หรือซัมจังก็ได้แล้วแต่ชอบ
สาหร่ายคือดีอ่ะ เพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้มีความกรอบ ไข่กุ้งก็คือกรุบ เข้ากันที่สุด อย่าพลาดค่ะ
ซุปฟรี เติมได้ตลอด ซดแก้เลี่ยน ให้คล่องคอ พร้อมลุยต่อกับสามชั้นนน
พอกินซี่โครงหมด เราก็เรียกพนักงานมาเปลี่ยนตะแกรงสำหรับย่างสามชั้นและหมูส่วน Skirt ให้ค่ะ เตาจะเป็นแบบนี้
สามชั้นอร่อยดีตามมาตรฐาน แต่เรายังชอบที่ร้านซอลเลอิมมากกว่า ใครไม่เคยอ่านรีวิวร้านซอลเลอิม จิ้มอ่านโลดด
ตักเพิ่มสักหน่อย วันนั้นกินไข่กุ้งจนตัวจะส้มหมดอยู่แล้ว 5555
(จริงๆ มันคือไข่ปลาสักชนิดของญี่ปุ่นนะคะ แต่เรียกกันไข่กุ้งจนชินปากละเนอะ)
อันนี้เป็นบรรยากาศร้านช่วงกลางวัน ไปตอนเที่ยงนี่คนไม่มีเลย กินสบายๆ ชิวๆ ไม่ต้องอึดอัดคนเยอะแบบตอนค่ำค่ะ
ใครสะดวกช่วงเวลาไหนก็เลือกกันเลยนะคะ แต่ถ้าไปวันเสาร์-อาทิตย์ช่วงค่ำ ทำใจไว้ว่าอาจจะต้องรอคิวค่ะ คนเยอะแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจจะตามไปกิน พิกัดก็ตามนี้เลยค่ะ จากสถานีฮงแดทางออก 8 เดินนิดเดียวเท่านั้น ไม่ถึง 3 นาทีก็เจอ
ร้านหาง่ายมาก เลี้ยวซ้ายที่วงเวียนไปนิดเดียวก็เจอเลย หรือถ้าใครรู้จักร้านหมูย่างเซมาอึลดังๆ ร้านนี้อยู่เยื้องๆ กันเลยค่า
ราคาหมูไม่แพง รสชาติดี บริการรวดเร็ว พนักงานพูดอังกฤษได้บ้าง สื่อสารได้ค่ะ เมนูมีภาษาอังกฤษให้ครบเลย
ที่สำคัญอยู่ฮงแด ย่านยอดฮิตของคนไทย กินเสร็จเดินช็อปปิงต่อ หรือจะไปเดินหาคาเฟ่ กินของหวานต่อก็ย่อมได้จ้า
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.