สวัสดีค่า วันนี้แวะมาเขียนรีวิวบุฟเฟ่ต์ติ่มซำกันบ้าง ปกติเราไม่ค่อยกินบุฟเฟ่ต์ติ่มซำเท่าไหร่ค่ะ เพราะรู้สึกว่ากินไม่คุ้ม กินได้น้อยแป๊บๆ ก็อิ่ม เราเลยไม่ค่อยมีรีวิวแนวนี้เท่าไหร่ นี่ถือเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ปกติถ้าเรากับแฟนอยากกินติ่มซำ ส่วนใหญ่ก็จะไปร้านแบบอลาคาร์ทเอา สั่งเป็นเข่งๆ ไปมากกว่า
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
แต่พอดีเรามีเวาเชอร์ของโรงแรม Banyan Tree Bangkok ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ต้นปี 2021 โน่น จริงๆ เป็นเวาเชอร์สำหรับบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่อีกห้องอาหารนึงค่ะ แต่ทางโรงแรมปิดบุฟเฟ่ต์นั้นไป เพราะเรื่องโควิดด้วยอะไรด้วย เราก็รอบุฟเฟ่ต์นานาชาติเปิดมาเรื่อยๆ จนเข้าปี 2022 ก็แล้ว ทางโรงแรมก็ยังไม่กลับมาเปิดบุฟเฟ่ต์นานาชาติสักที เราเลยโทรสอบถามทางโรงแรม ว่าเวาเชอร์นี้สามารถใช้กับห้องอาหารอื่นๆ ได้มั้ย เพราะใกล้หมดอายุแล้ว กลัวเสียเงินฟรี 555 ก็เลยได้มาใช้เวาเชอร์กับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่อาหารจีนของโรงแรมแทนจนมีรีวิวนี้ได้นั่นเอง
โดยปกติห้องอาหาร Bai Yun จะเป็นห้องอาหารจีนของโรงแรมบันยันทรี มีทั้งอลาคาร์ทด้วย แล้วก็แบบบุฟเฟ่ต์ด้วย ราคาต่อหัวตอนเราไปกินเดือนมีนาคมอยู่ที่ 1555 net ไม่รวมเครื่องดื่ม ถือว่าราคาสูงสำหรับเราเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้มีเวาเชอร์น่าจะไม่ได้มาลองแน่นอนเลย ตอนเราไปใช้เวาเชอร์ ก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มนอกจากค่าเครื่องดื่มแบบรีฟิล มีชาและเก๊กฮวยให้เลือก
ติ่มซำของที่นี่จะเป็นสไตล์ฮ่องกงแท้ๆ ค่ะ ปรุงโดยเชฟชาวฮ่องกงที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี เชฟคือคุณ Simon Kin Man Kwok (ไซมอน คิน แมน กว๊อก) รสชาติและความอร่อยการันตีได้เลย ว่ามาจากออริจินัลแท้ๆ เหมือนบินไปกินที่ฮ่องกงด้วยตัวเองเลยจริงๆ
ห้องอาหาร Bai Yun ตั้งอยู่บนชั้น 59 ของโรงแรม Banyan Tree Bangkok ถนนสาทรใต้ ใจกลางเมือง เดินทางได้โดยรถยนต์ หรือถ้าขนส่งสาธารณะ นั่ง MRT ลงสถานีลุมพินีจะใกล้ที่สุด แต่ก็ต้องเดินหรือต่อรถอยู่ค่ะ ไม่ได้ติดสถานีนะ
มาถึงโรงแรมก็แจ้งพนักงานได้เลยว่าเรามาห้องอาหาร Bai Yun ค่ะ เขาจะให้วัดไข้เล็กน้อยตามพิธี แล้วเราก็เดินมาขึ้นลิฟต์ชั้น 59 ได้เลย
ด้านหน้าก่อนเดินเข้าไปจะมีการตกแต่งสวยงาม ดูหรูหราดีทีเดียว
แจ้งพนักงานด้านหน้าว่าใช้เป็นเวาเชอร์สำหรับสองคน ก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเราโทรมาจองโต๊ะล่วงหน้าอยู่แล้ว บุฟเฟ่ต์ที่นี่มี 2 รอบนะคะ รอบกลางวันตั้งแต่ 11.30-14.30 เรามากินรอบกลางวันค่ะ ส่วนรอบเย็นตั้งแต่ 18.00-22.30 ราคา 1555.- ไม่รวมเครื่องดื่มค่ะ ทั้งกลางวันและเย็น
โดยเมนูติ่มซำสั่งได้ไม่อั้น แล้วก็สามารถสั่งเมนูซุปและจานหลักได้คนละอย่างค่ะ อย่างเราไป 2 คน ก็สั่งซุปได้ 2 และจานหลัก 2
ที่นี่จะไม่ได้มีโต๊ะให้บริการเยอะนะคะ จากที่กะๆ ดูด้วยสายตา ด้านนอกมีโต๊ะอยู่ประมาณ 8-10 โต๊ะ แต่ก็มีห้องส่วนตัวแบบไพรเวทให้บริการด้วยค่ะ ยังไงลองสอบถามโรงแรมได้
การสั่งอาหารที่นี่จะเป็นการสแกนคิวอาร์โค้ดและสั่งกับพนักงานค่ะ ไม่มีเมนูเป็นเล่มๆ เราสามารถสแกนแล้วอ่านเมนูจากโทรศัพท์ได้เลย
วิวจากโต๊ะของเรา สวยจึ้งมากกกก กินไปดูวิวไปเพลินมากค่ะ ด้วยความที่อยู่บนชั้น 59 วิวเลยเต็มๆ ตาแบบนี้ มองเห็นสวนลุมพินีด้วยนะ ชอบวิวจากมุมนี้มากเลยค่ะ ใครจะไปกิน บอกตอนจองไปเลยก็ได้ว่าขอโต๊ะฝั่งสวนลุมฯ ค่ะ รับรองสวยถูกใจ
เราสั่งอาหารไปไม่หมดทุกเมนูนะคะ เลือกเฉพาะที่อยากกินจริงๆ ก่อนอื่นก็จะได้อุปกรณ์มาก่อน เครื่องจิ้มมา 2 ถ้วยค่ะ มีจิ๊กโฉ่วธรรมดากับพริกดอง ส่วนอีกถ้วยเป็นน้ำจิ้มบ๊วยกับน้ำจิ้มสไตล์เสฉวนรึเปล่าไม่ค่อยแน่ใจนะคะ แต่อร่อยมาก มีความหอมๆ เผ็ดนิดๆ ค่ะ
เครื่องดื่มรีฟิลเค้ามีให้เลือกเป็น ชาร้อน/เย็น หรือ เก๊กฮวยร้อน/เย็น ราคา 150++ ต่อคนค่ะ
ซูมให้ดูน้ำจิ้มพริกตัวที่เราชอบค่ะ จิ้มจนหมดถ้วยเลย
ตัวนี้จะเป็นเหมือน Appetizer เรียกน้ำย่อยค่ะ มีแตงกวากับเห็ดหูหนู อร่อยมากๆ ไม่มีในเมนูบุฟเฟ่ต์นะคะ จะเสิร์ฟก่อนอาหารมา แต่เราขอเค้าเติมไปสองรอบ ก็เติมได้ค่ะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
จานแรกมาแล้ว ของทอดมาก่อนติ่มซำเข่งๆนะคะ เพราะเชฟจะนึ่งเข่งต่อเข่งเสิร์ฟให้เราค่ะ อันนี้เป็นเผือกทอดไส้ไก่ กับเกี๊ยวทอดไส้ปูกับชีสค่ะ อร่อยทั้งคู่เลย
จานนี้เป็นลิ้นจี่ทอด กับฟองเต้าหู้ทอดไส้กุ้ง อร่อยทั้งคู่อีกแล้ว ตัวลิ้นจี่ทอดมาดีมาก ไม่อมน้ำมัน รสหวานเปรี้ยวค่ะ ส่วนฟองเต้าหู้ทอดคือเกินความคาดหมาย เพราะปกติเราไม่ชอบกินพวกเต้าหู้หรือฟองเต้าหู้เลย แต่ของที่นี่กินได้! อร่อยมากด้วย สั่งเบิ้ลๆ ไปเลยสองจาน
กินของทอดไปสักพัก พวกติ่มซำแบบนึ่งก็เริ่มทยอยมาทีละสองสามอย่าง จานนี้เป็นปลากะพงนึ่งมะนาว เนื้อปลาแน่นสด ซอสมะนาวที่นึ่งมากลมกล่อมกำลังดี ไม่เปรี้ยวจี๊ดเกิน ไม่เผ็ดไปค่ะ รสชาติกลางๆ แต่ไม่ได้จืดจางจนไม่อร่อย
ฮะเก๋ากุ้งลูกโตๆ กุ้งแน่นมากค่ะด้านใน ความอร่อยถือว่าได้มาตรฐาน
ตัวนี้เป็นขนมจีบหอยเชลล์ บอกเลยว่าต้องสั่ง! เราแนะนำมากๆ ค่ะ ไส้ที่เป็นหอยเชลล์เค้าอร่อยมาก เนื้อหวานเด้ง นึ่งมาร้อนๆ ลูกโตๆ จานนี้เราสั่งซ้ำไปสามรอบเห็นจะได้ กินคู่กับซอสจิ้มน้ำมันพริกที่เราชอบ เด็ดดวง
ขนมจีบกุ้งค่ะ ดีงามตามท้องเรื่อง มันอร่อยแหละ แต่โดนความอร่อยล้ำของหนมจีบหอยเชลล์ดึงไปเลยกินน้อยกว่า 55555
สาหร่ายซอสกระเทียม ตัวนี้ก็นุ่มๆ เด้งๆ ไส้เป็นกุ้งผสมหมูสับถ้าจำไม่ผิด ซอสกระเทียมหอมฉุยเลยค่ะ เป็นอีกจานที่สั่งซ้ำ
จานนี้เป็นเบคอนซอสฮ่องกง ด้านในจะมีเห็ดเข็มทองถูกเบคอนพันอยู่ค่ะ ตัวซอสเค็มๆ หอมๆ
ถ่ายรวมดาวติ่มซำสักหน่อย ดูขนาดความแตกต่างของขนมจีบหอยเชลล์กับกุ้งสิ 555555
มาจานซุปกันบ้าง เราไปสองคน เลยได้สั่งจานซุป 2 จานนะคะ เลือกมาเป็นซุปข้าวโพดเนื้อปูกับกระเพาะปลาน้ำแดง อันนี้คือซุปข้าวโพดเนื้อปูค่ะ มาแบบข้นๆ เหนียวๆ สไตล์จีน หอมอร่อย เนื้อปูเป็นก้อน รสอ่อนๆ กินง่าย เผลอแป๊บเดียวหมดถ้วยค่ะ
อีกถ้วยเป็นกระเพาะปลาน้ำแดง ใส่เนื้อปูและกระเพาะปลามาให้แน่นถ้วย รสชาติถูกปากมาก เราปรุงแค่จิ๊กโฉ่วนิดเดียวก็อร่อยแล้ว
จริงๆ เมนูซุปจะมีทั้งหมด 4 ซุปนะคะ อีก 2 อย่างที่ไม่ได้สั่งจะเป็น ซุปเสฉวนใส่ไก่ และ ซุปเยื่อไผ่แฮมจีน
มาถึงเมนูจานหลัก เหมือนเดิมค่ะ ไปสองคน ได้เลือกคนละจาน ของเราเลือกเป็นหมูกรอบ มีความกรอบกรุบกรับสะใจ จิ้มกับซอสซีอิ๊วหวานที่เสิร์ฟคู่กัน ดีค่ะ
เนื้อหมูยังมีความฉ่ำอยู่นะ ไม่ได้แห้งไปเลย แต่ไม่ได้ถึงกับนุ่มชุ่มน้ำขนาดนั้นค่ะ ไม่ค่อยมันดีด้วย
จานหลักอีกจานเลือกเป็น เป็ดย่างและหมูแดงรวมกัน
บอกตามตรงว่าแอบผิดหวังกับหมูแดง เพราะเนื้อหมูค่อนข้างแข็งและแห้งมากค่ะ มีบางชิ้นที่ติดมันถึงจะนุ่ม เสียดายมากๆ เพราะคาดหวังว่าหมูแดงจะอร่อยกว่านี้ ถ้าใครตั้งใจมาเพื่อกินหมูแดงเราไม่แนะนำเลยค่ะ ตอนกินแล้วรู้ว่าแข็งและแห้งยังแอบอยากสั่งเป็นข้าวผัดแทนเลย 55555
กลับกัน เป็ดย่างอร่อยมากกกกก เนื้อเป็ดนุ่มชุ่มฉ่ำ หนังหยุ่นๆ กินคู่กับน้ำราดที่ให้มาคือดีงามมาก จานนี้ติดแค่หมูแดงเลยจริงๆ
จานหลักเมนูอื่นนอกจากหมูกรอบและเป็ดย่างหมูแดงที่เราสั่งจะมี ข้าวผัดหยางโจว / คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย / ผัดกวางตุ้งน้ำมันหอย / เนื้อผัดซอสพริกไทยดำ / เส้นอูดงผัดซอสทะเล / หมูผัดซอสไวน์แดง และราดหน้าปลาเต้าซี่ค่ะ มีให้เลือกเยอะเลย ถ้าไปหลายคนน่าจะได้ลองหลายอย่าง
ของหวานเป็นสาคูแคนตาลูปค่ะ เรากับแฟนกินเหมือนกัน อีกตัวเลือกที่มีจะเป็น บัวลอยน้ำขิง / บัวลอยถั่วแดงบด / ไอศกรีม (งาดำ, เผือก ,กะทิ และไข่เค็ม)
ถ่ายรูปรวมสักหน่อย 55555 พวกเมนูที่สั่งซ้ำเราก็ไม่ได้ถ่ายมาเพิ่มนะคะ แต่มีสั่งซ้ำไปหลายอย่างเลย เวลากินติ่มซำเราจะเน้นสั่งที่ตัวเองชอบจริงๆ ค่ะ เพราะกลัวสั่งแล้วไม่ชอบจะเหลือทิ้ง มันเป็นแป้งซะเยอะด้วย ถ้าสั่งทุกเมนูมาลองคงได้แค่อย่างละเข่ง อิ่มก่อน
ส่วนตัวสำหรับเราถือว่าราคาค่อนข้างสูงไปค่ะถ้าได้จ่ายราคาเต็มแบบไม่ใช้เวาเชอร์ ด้วยความที่เรากับแฟนไม่ใช่สายบุฟเฟ่ต์อาหารจีนหรือพวกติ่มซำเท่าไหร่ กินไม่บ่อยค่ะ นานๆ จะกินที แต่เรื่องของวัตถุดิบ รสชาติของติ่มซำ สำหรับเราคือชอบเลยค่ะ รสชาติคือเหมือนเวลาไปนั่งกินร้านติ่มซำในฮ่องกงเลย สัมผัสได้ถึงความเป็นออริจินัลจริงๆ ค่ะ ส่วนที่ไม่ชอบก็มีแค่หมูแดงเลยจริงๆ นอกนั้นเรากินเกลี้ยงทุกจาน
ที่แนะนำก็ขนมจีบหอยเชลล์อย่างที่บอกไป เรายังไม่เคยกินเมนูนี้ที่ไหนด้วยเลยประทับใจเป็นพิเศษ ของทอดก็อร่อย ไม่อมน้ำมัน ซุปข้าวโพดปูกับกระเพาะปลาก็หมดเกลี้ยงไม่เหลือสักหยดค่ะ อันนี้อร่อยจริงไม่โม้ เรียกว่ารวมๆ อาหารรสชาติถูกปากมากค่ะ ถ้าปรับเรื่องหมูแดงแห้งเกินไปจะเพอร์เฟคท์มาก เพราะชอบรสชาติน้ำราดเป็ดย่าง-หมูแดงเค้าอยู่แล้ว อร่อยค่ะ
สำหรับใครสนใจอยากดูเมนูของบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่นี่ คลิกตรงนี้ ได้เลยค่า
ห้องอาหาร Bai Yun โรงแรม Banyan Tree Bangkok
ที่อยู่: ชั้น 59 โรงแรม บันยันทรี กรุงเทพฯ 100 ถนนสาทรใต้ แขวง.ทุ่งมหาเมฆ เขต.สาทร กทม. 10120
เบอร์โทรศัพท์: 02-679-1200
เวลาเปิด-ปิด: 11.30-22.30 น.
พิกัด GoogleMap: goo.gl/maps/z3zc6yJv44PmDUY4A
เว็บไซต์: banyantree.com/thailand/bangkok/dining/bai-yun
Facebook: fb.com/BanyanTree.Bangkok
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.