จากทริปโซลช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาที่เรามีแว่บไปเที่ยวเมืองชอนจูมา 1 คืน เคยรีวิวไว้แล้วทั้งโรงแรมที่พัก ตลาดกลางคืน แล้วก็ร้านอาหารเด็ดๆ ค่ะ แต่อีกอย่างที่ตั้งใจทำคือวิธีการเดินทางกลับโซลจากชอนจู ซึ่งตอนขาไปเราเลือกนั่งเป็นรถไฟด่วนแบบ itx (รีวิวรถไฟขาไป) พอขากลับโซลเราเลยเลือกนั่งเป็นรถบัส เพราะนอกจากเวลาเดินทางจะเท่ากับรถไฟแบบ itx แล้ว ราคาตั๋วต่อคนยังถูกกว่าอีกด้วย กลายเป็นทริปนี้เลยได้รีวิวให้เพื่อนๆ เลือกอ่านกัน 2 แบบไปเลย ทั้งรถไฟและรถบัส จะได้ตัดสินใจกันได้ค่ะว่าอยากเดินทางแบบไหนมากกว่ากัน
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
รีวิวที่เกี่ยวข้องอื่นๆ: ตลาดกลางคืนเมืองชอนจู / ที่พักใกล้หมู่บ้านโบราณชอนจู / ร้านต๊อกคัลบีชื่อดังในหมู่บ้านโบราณชอนจู
เริ่มกันที่สถานีขนส่งประจำเมืองชอนชูค่ะ เราเรียกแท็กซี่จากแถวหมู่บ้านโบราณชอนจูมาที่ Bus Terminal นะคะ มีที่เดียวไม่ต้องกลัวหลง บอกคนขับว่าจะไปบัสเทอร์มินัลได้เลย (พูดทับศัพท์ว่า บอ-ซือ-ทอ-มี-นอล) พอมาถึงเราก็จะลงมาชั้นล่างเพื่อซื้อตั๋วกันก่อน
การซื้อตั๋วทำผ่านตู้อัตโนมัติได้ด้วยตัวเองค่ะ มีโหมดภาษาอังกฤษให้นะถ้าใครอ่านเกาหลีไม่ได้ ซึ่งเราก็กดตามที่ระบบแจ้งได้เลย ไม่วุ่นวาย ง่ายมากค่ะ บนจอจะมีให้เลือกจุดเริ่มต้น ปลายทาง เลขที่นั่ง และรอบเวลา เราก็เลือกได้เลยตามที่ต้องการนะคะ ว่าจะนั่งแบบด่วนพิเศษหรือแบบไม่ด่วน ซึ่งระบบรถโดยสารบ้านเค้าก็จะมีหลายบริษัทวิ่งกันเหมือนไทยเลยค่ะ แต่ละเจ้าก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เราเลยเน้นเลือกรอบเวลาที่สะดวกค่ะ พอเสร็จแล้วก็จ่ายเงิน ได้ทั้งเงินสดและบัตรเลย
พอจ่ายเงินเสร็จก็จะได้ตั๋วออกมาแบบนี้เลย มีบอกราคา รอบเวลา เลขที่นั่ง ต้นทาง ปลายทาง และประตูชานชาลาที่รถจะมาจอดครบเลยค่ะ เราเลือกรอบแบบด่วนพิเศษ ราคาต่อคนอยู่ที่ 13,800 วอนค่ะ ถูกกว่ารถไฟ itx เยอะเลย ใช้เวลาเดินทางพอๆ กันคือประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ
ระหว่างรอรอบรถออก เราเหลือเวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็เลยมาหาอะไรกินเป็นมื้อเช้าค่ะ ท่ารถที่ชอนจูอาจไม่ได้ใหญ่มากเท่าเมืองอื่นๆ เพราะชอนจูก็ยังถือเป็นเมืองเล็กๆ เองค่ะ แต่สถานีรถบัสเค้าก็สะอาดสะอ้าน เป็นระบบ มีร้านค้าพอประมาณเลยนะ อย่างร้านขนมปังแฟรนไชส์ Tous les Jours ก็มี ข้างๆ กันก็ร้านขายยาค่ะ
ขึ้นมาบนชั้นลอยก็เจอโนเรปังหยอดเหรียญด้วย ไว้ร้องเพลงฆ่าเวลารอรถออกได้ คนมาร้องกันเยอะเลยนะ นักเรียนเอย วัยรุ่นเอย โชว์พลังเสียง 5555
บนชั้นสองก็จะมีร้านค้าอีกประมาณนึงค่ะ หาซื้อพวกเครื่องสำอางหรือแวะกินข้าวก็ได้
เรากับแฟนสายกินค่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ได้กินอะไร ก็เลยเลือกร้านบูแดจิเกร้านนี้
พอสังเกตชื่อร้านก็จำได้ว่าเป็นร้านเดียวกับที่ชินชน (ย่านที่พักประจำของเราในโซล) ซึ่งสาขาตรงชินชนเป็นแบบบุฟเฟต์ด้วย (อ่านรีวิวแบบบุฟเฟต์) แต่สาขาที่สถานีบัสเทอร์มินัลชอนจูเป็นแบบอลาคาร์ทค่ะ ราคาต่อหนึ่งที่ก็ตามในภาพเลย (ไปกี่คนต้องจ่ายตามจำนวนคนค่ะ ปริมาณอาหารเค้าคิดเป็นต่อ 1 คนนะ)
ภายในร้าน ไม่มีคนเพราะยังเช้าอยู่
ตอนแรกยังแอบคิดว่ายังไม่เปิดรึเปล่าเพราะเงียบกริบ แต่พอถามดูก็เปิดแล้วค่ะ เราน่าจะลูกค้ารายแรกของวัน
เครื่องเคียงที่นี่เสิร์ฟเป็นกิมจิ ทันมูจี กับออมุกบกกึม
สั่งข้าวมาด้วยหนึ่งถ้วย เอามาใส่ซุปก้นหม้อ
มาเสิร์ฟแล้วค่า เราสั่งเป็นชุดชีสบูแดจิเกนะคะ ส่วนที่มาของเมนูบูแดจิเกเป็นยังไง อันนี้เคยเล่าไว้แล้วในโพสต์นี้ ไปอ่านกันได้น้า
พอซุปเดือดก็เตรียมกินได้แล้วค่ะ กลมกล่อม อร่อยสุดๆ อยากกินอีกเลย
กินอิ่ม กลับมานั่งรอหน้าประตูไม่นานก็ขึ้นรถได้เลยค่ะ เราดูที่ตั๋วได้เลยว่าบัสของเราจะจอดที่ชานชาลาไหน
พอออกจากประตูมาก็จะมีรถมาจอดรออยู่แล้ว พอขึ้นรถไปเราต้องใช้ตั๋วสแกนตอนขึ้นรถคล้ายๆ การเช็คอินค่ะ ถ้าขึ้นผิดคันตั๋วก็จะสแกนไม่ได้นะ แต่ถ้าสแกนผ่าน ที่นั่งเลขของเราก็จะถูกเช็คว่าขึ้นรถเรียบร้อย ทีนี้ก็แค่หาที่นั่งตามที่จองไว้ได้เลย
รถบัสขากลับรอบนี้ของเราเลือกเป็นบริษัท ชอนอิล ซึ่งเราซื้อแบบเอ็กซ์เพรสนะคะ ใช้เวลาจาก Jeonju กลับ Seoul ประมาณสามชั่วโมงนิดๆ มีจอดแวะพักที่จุดพักรถ 1 ครั้งค่ะ ประมาณ 15-20 นาที แต่เราหลับเลยไม่ได้ลงไปเก็บภาพจุดพักรถมาให้
หลับแป๊บเดียว ตื่นมาก็ถึงโซลแล้วค่า รถมาจอดที่สถานี Seoul Express Bus Terminal (서울고속버스터미널) ซึ่งก็อยู่ใจกลางเมืองเลย สามารถลงรถไฟใต้ดินต่อไปยังย่านอื่นๆ ที่ต้องการได้สะดวกสบายสุดๆ
เป็นสถานีบัสที่ใหญ่และสวยมากค่ะ ด้านในมีร้านให้ช็อปปิงเยอะมาก จริงๆ ที่รถไฟใต้ดินก็มีโซนช็อปเสื้อผ้าที่คนไทยชอบมาเดินกันด้วย เสื้อผ้าถูก แบบก็สวย ต่อให้ไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัดก็แวะมาเดินเล่นได้นะคะ
เรียบร้อยแล้วค่ะสำหรับรีวิวนั่งรถบัสจากชอนจูกลับโซลครั้งนี้ เป็นรีวิวรวบรัดหน่อยนึง รูปภาพอาจจะไม่ได้ละเอียดมากแต่ก็พยายามบรรยายให้อ่านเข้าใจมากที่สุดค่ะ สำหรับเราใครจะออกนอกโซล ไปตามเมืองจังหวัดอื่นๆ การนั่งบัสในเกาหลีนี่ถือว่าสะดวกสบายและง่ายกว่ารถไฟค่ะ สำหรับเรานะ มีรอบให้เลือกเยอะ ราคาไม่แพง ที่นั่งก็สบายไม่อึดอัด แต่สำหรับใครที่จะเดินทางไกลๆ ที่กินเวลานานกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป การนั่งพวกรถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงน่าจะตอบโจทย์มากกว่า เพียงแต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามมาค่ะ ลองพิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละทริปดูค่ะว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะดีที่สุด ^^
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.