สวัสดีค่ะ ห่างหายการเขียนรีวิวไปสักพักเนื่องจากแว๊บไปทริปเกาหลีใต้มาครึ่งเดือน กลับมาก็รีบรวบรวมรูปและเตรียมคอนเทนท์หลายอย่างเอาไว้ทยอยลงรีวิวกันเลย อย่างแรกที่ทำได้ง่ายและไวที่สุดก็คงจะเป็นรีวิวสายการบินค่ะ 55555 เพราะข้อมูลไม่ได้มีเยอะมาก สามารถเรียบเรียงได้เร็วก่อนหัวข้ออื่นๆ ซึ่งทริปเกาหลีรอบนี้เลือกบินกับ OZ หรือสายการบินเอเชียน่านั่นเอง
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
ส่วนตัวเราเคยบินกับเอเชียน่าแค่ครั้งเดียวสมัยตอนบินไปเรียนภาษาที่เกาหลีเมื่อหลายปีก่อนค่ะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้บริการอีกเลยจนมาครั้งนี้ Asiana Airlines เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิสสัญชาติเกาหลี และเป็นสมาชิกในเครือของ Star Alliance สำหรับเราการบริการของลูกเรือ ถือว่าประทับใจมากค่ะ แต่เราไม่เจอลูกเรือคนไทยเลยนะคะ ทั้งไปและกลับได้รับบริการจากลูกเรือเกาหลีทั้งหมดค่ะ
มีติดตรงเครื่องอาจจะเก่าไปสักหน่อย แล้วก็เรื่องจอหรือ In-flight entertainment อาจไม่ฟู่ฟ่าเท่าไหร่นัก แต่พอดีบินกลางคืน ยังไงก็หลับอยู่ดีเลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ค่ะ เราจองไปกลับได้คนละ 13,xxx บาท ถือว่าเป็นบินตรง ฟูลเซอร์วิสที่ราคาดีมากๆ ตอนได้โปรโมชั่นนี้คือจ่ายแบบไม่ลังเลเลยค่ะ เพราะเพิ่มจากบินต่อเครื่องไม่กี่พันบาทเอง เลยยิ่งตัดสินใจง่ายเข้าไปใหญ่
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลไฟลท์บิน BKK-ICN ด้วยสายการบิน Asiana Airlines นะคะ
อ่านรีวิวรูทบินกทม-โซลอื่นๆ ได้ที่นี่: Korean Air / Hongkong Airlines
ขอเริ่มที่สนามบินก่อนแล้วกันค่ะ แต่ตอนเชคอิน พอดีรีบไปหน่อยเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากกัน เคาท์เตอร์เชคอินที่สุวรรณภูมิของสายการบินเอเชียน่าจะอยู่ที่เคาท์เตอร์ K ค่ะ เราบินไฟลท์ OZ744 สำหรับไฟลท์ไปเกาหลีจากกทม. สายการบินให้น้ำหนักกระเป๋าคนละ 23 KG สามารถแชร์กันได้ไม่มีปัญหา
เวลาเครื่องออกคือตี 01.50 ก็มารอหน้าเคาท์เตอร์ก่อนสามชั่วโมงตามปกติ ตอนแรกใจไม่ดีเพราะไม่เจอช่อง Internet Check-in เห็นแต่แบบแถวธรรมดา กลัวเสียเวลาเพราะเราออนไลน์เชคอินมาแล้ว แต่เดินเข้าไปด้านในๆ ก็เจอกับช่อง Internet Check-in ค่ะ
สอบถามกราวด์สตาฟ ก็ได้รับคำตอบว่าไฟลท์เรากำลังจะเปิดให้เชคอินในอีก 15 นาที (เราไปก่อนเวลานิดนึง) ก็เลยเข้าแถวรอ พอเปิดก็ดรอปกระเป๋า ได้บอร์ดิงพาสแล้วก็เข้าเกทตามปกติเลย ราบรื่นและรวดเร็วดีค่ะสำหรับที่สุวรรณภูมิ
หลังจากเดินช็อปปิงดิวตี้ฟรี เข้าเลาจ์คิงพาวเวอร์เพลินๆ แป๊บเดียวก็ใกล้เวลาบอร์ดิง ก็เดินไปเกทแล้วก็นั่งรอที่เกทสักพัก ตรงเวลาค่ะ ตี 1.20 ก็ขึ้นเครื่องได้เลย ไฟลท์ OZ744 คนน้อยพอสมควร ส่วนใหญ่มีแต่คนเกาหลี คนไทยน้อย ที่นั่งไม่เต็มด้วยล่ะ
ที่นั่งว่างเยอะทีเดียว เลยมีโอกาสได้เก็บภาพมาฝากกันค่ะ
จอรุ่นเก่าแบบไม่น่าจะทัชได้ (หรืออาจจะได้ก็ไม่แน่ใจ แต่เราไม่ได้ใช้จอเลยเพราะหลับยาว) ไฟลท์ขาไปเป็น A330-300 ค่ะ ที่นั่งเป็น 2-4-2 เครื่องเก่าพอประมาณ แต่ว่าไม่ได้รู้สึกว่าเก่ามาก แม้จะเก่าแต่ก็นั่งสบายมากๆ ค่ะ คือเรานั่ง A330 มาหลายสายการบินมาก รู้สึกว่าของ OZ นี่กว้างและนั่งสบายสุดเลย
รีโมทจะฝังอยู่ในที่วางแขนของเก้าอี้ค่ะ แอบหยิบลำบากไปหน่อย น่าจะไว้ใต้จอมากกว่า จะสะดวกกว่าเยอะเลย
หลังจากถ่ายรูปเสร็จไรเสร็จก็หลับยาวตั้งแต่ล้อยังไม่หมุนออกจากงวง หลับจนเครื่องเทคออฟแล้วไรแล้ว คือตอนนั้นมันง่วงมากจริงๆ เตรียมตัวเองมานอนสุดๆ 55555 ตกหลุมอากาศอย่างแรงก็มีเบลอๆ ตื่นมานิดนึงละนอนต่อ ตื่นจริงอีกทีก็ตอนที่ไฟเปิด แอร์ปลุกเตรียมเสิร์ฟอาหารเช้าค่ะ เป็นเวลาเจ็ดโมงนิดๆ ของเกาหลี
อาหารเช้ามีให้เลือก 2 อย่างคือออมเล็ทและมันฝรั่ง กับ จุก 죽 (โจ๊กสไตล์เกาหลี) เรากับแฟนเลือกออมเล็ทแบบไม่คิด เราไม่ชอบกินโจ๊กตอนเช้าเท่าไหร่ ที่สำคัญกินบนเครื่องไม่อยากกินอะไรที่ร้อนๆ เป็นกึ่งน้ำซุปด้วยค่ะ ลำบาก 55555 ไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะมันก็แค่ออมเล็ทอ่ะเนอะ แต่ก็อร่อยถูกปากกว่าที่คิดนะคะ ไข่เนื้อเนียน ไส้กรอกกับมันฝรั่งก็ดีงาม ส่วนโยเกิร์ตไม่ได้กินเพราะกลัวท้องไส้ปั่นป่วน แต่ผลไม้กินเกลี้ยงเลยค่ะ แก้วมังกรหวานอร่อยมากๆ
ไฟลท์นี้แฟนมีโอกาสได้เข้าห้องน้ำ เลยมีรูปมารีวิวด้วยเล็กๆ น้อยๆ
มีแปรงสีฟัน หวี โลชั่นให้บริการ
รู้สึกว่าห้องน้ำขาไปแคบกว่าตอนกลับ ทั้งที่เป็นเครื่องบินรุ่นเดียวกัน หรืออาจจะเพราะขาไปแฟนเราไปเข้าห้องน้ำด้านหน้า แต่ตอนขากลับเราเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ตรงกลางลำ ทำให้กว้างกว่ารึเปล่าไม่แน่ใจค่ะ 55555
หูฟังที่ให้มาพร้อมผ้าห่มและหมอน ซึ่งไม่ได้ใช้เลยจนเครื่องแตะพื้นเพราะเอาแต่นอน ใส่ซองมายังไงคืนยังงั้นเลยค่ะ
เครื่องแลนดิงตรงเวลาถึงอินชอนโดยสวัสดิภาพตอน 9.20 น. เป็นไฟลท์ Red Eye ที่คนไทยน่าจะชอบนะ เพราะถึงก็ได้เที่ยวเลย แต่สำหรับเราแอบเหนื่อยไปหน่อย เพราะนอนได้ไม่เยอะ ยังง่วงอยู่ 55555 ถ้าเป็นไปได้อยากบินไฟลท์เช้าถึงบ่ายแก่ๆ มากกว่าค่ะ แต่โปรนี้มีเวลาให้เลือกน้อยไปหน่อย ได้ไฟลท์นี้ก็ถือว่าโอเคแหละ รับได้ ยังดีที่ถึงตอนเก้าโมง กว่าจะออกมาขึ้นบัส ไปเช็คอินที่พักก็เกือบเที่ยง กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ได้ห้องแล้วก็ได้นอนพัก ง่วงไปหน่อยแต่ยังไหว เพราะเป็นบินตรงเลยไม่ต้องขึ้นเครื่องลงเครื่องใหม่
มาถึงขากลับไทยกันบ้างค่ะ สายการบินเอเชียน่าเชคอินที่ Terminal 1 สนามบินอินชอน เคาท์เตอร์ตั้งแต่ A,B และ C / K, L และ M ด้วยความเป็นสายการบินเกาหลีเอง เค้าจะมีให้เลือกเชคอินที่ตู้ Kiosk แล้วไปแบคดรอปกระเป๋าด้วยเครื่องอัตโนมัติได้เลย หรือจะไปต่อคิวเช็คอินกับพนักงานก็ได้ เราเช็คอินผ่านเว็บมาล่วงหน้าแล้ว จริงๆ ไปปริ้นตั๋วเองที่ตู้แล้วโหลดกระเป๋าเองได้เลย แต่ด้วยความที่เราจะหารน้ำหนักกระเป๋ากัน เพราะมีใบนึงไม่ถึง 23 โล อีกใบเกิน 23 โล เลยต้องมาดรอปกระเป๋ากับพนักงานค่ะ
ไฟลท์กลับเราคือ OZ743 เวลาเครื่องออก 20.20 น. เราเอากระเป๋าไปโหลดตอนประมาณสี่โมงเย็น สายการบินไม่ว่าอะไร ออกตั๋วได้เลยไม่ต้องรอครบ 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก ถือว่าดีมากเพราะได้ใช้เวลาในเกทเต็มที่ เดินดูดิวตี้ฟรีเพลินเลยแหละ 555 กราวด์แจ้งให้ทราบว่าไฟลท์เราดีเลย์ประมาณ 25 นาทีค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรค่ะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ ถึงไทยตอนเที่ยงคืนห้าสิบ เวลาไม่ได้ห่างจากเดิมมากเลย
สายการบินนี้มีช่องสำหรับคุณแม่เดินทางกับลูกเล็กโดยเฉพาะด้วยค่ะ เค้าจะอำนวยความสะดวกให้เพื่อความรวดเร็วยิ่งขึ้น (ที่เคาท์เตอร์สุวรรณภูมิก็มีนะคะ ใครเดินทางกับลูกที่ยังเล็กอยู่ ก็ต่อแถวเข้าใช้บริการได้ค่ะ)
ไฟลท์กลับเรียกขึ้นเครื่องตรงตามเวลาที่ดีเลย์ค่ะ ขากลับคนเต็มลำ ทั้งเกาหลีและคนไทย แต่เจอคนไทยเยอะกว่าขามา น่าจะเพราะเวลากลับถึงกทม. กำลังดีด้วยค่ะ ไม่ดึกไปไม่เช้าไป คนไทยเลยเลือกกลับไฟลท์นี้เยอะพอสมควร คนเต็มเกือบทั้งลำเลยด้วย ไม่เหมือนตอนขาไป
ขากลับได้เครื่องที่ใหม่กว่าขามา เป็น A330-300 เหมือนเดิม ที่นั่งกว้างสบายเหมือนเดิม แต่ช่องว่างระหว่างถาดอาหาร ไฟลท์นี้แคบกว่าหน่อย
จอใหม่กว่าเดิม จิ้มๆ ได้ มีหนังให้ดูไม่มากนักแต่ก็พอใช้ได้ค่ะ หนังไม่เก่าไม่ใหม่ มี The Favorite / Beauty and the Beast ฉบับเอมม่า วัตสัน Lion King แบบ Live Action การ์ตูนก็พวก Big Hero / The Grinch ไรงี้ ก็คงอัพเดทเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลาค่ะ เปิดดูเล่นๆ ฆ่าเวลาไป สักพักก็หลับยาวอยู่ดี 555 แต่ไฟลท์นี้เสิร์ฟเป็นอาหารมื้อค่ำ หลังจากสัญญาณรัดเข็มขัดดับหลังไต่ระดับ แอร์ก็เตรียมคาร์ทแล้วค่ะ
อาหารมีให้เลือก 2 อย่าง เป็น Chicken with Rice กับ Fish with Rice ลูกเรือเกาหลีน่ารักมาก ตอนเราเลือกปลา เค้าถามก่อนว่าถ้าปลาจะค่อนข้าง spicy นะคะ โอเคมั้ยคะ เราก็โอเค แต่พอกินจริง ห่างไกลคำว่าเผ็ดมากค่ะ 55555 แต่อร่อยนะ จะเป็นฟีลปลาทอดราดซอสผัดกะเพราแต่ไม่มีกะเพรา แต่ไม่เผ็ดเลยค่ะ คนไทยร้อยทั้งร้อยกินแล้วต้องบอกว่าไม่เผ็ดชัวร์ เสียดายน้ำซอสน่าจะให้ชุ่มกว่านี้หน่อย มันเคลือบปลาไม่ทั้งหมด เลยทำให้บางชิ้นจืดไปเลย รวมๆ ก็อร่อยนะ แฮปปี้กับอาหารของสายนี้
แอพิไทเซอร์เป็นพาสต้าฟูซิลี่ซอสเพสโต้ มาแบบเย็นแต่อร่อย มีลูกเกดมาด้วย ปกติเราไม่กินลูกเกด แต่กินกับจานนี้เข้ากันดี ของหวานเป็นเค้กช็อกโกแลตโรยไอซิ่ง เนื้อเค้กฉ่ำแน่น ไม่แห้งไม่ติดคอ อร่อยเลยอ่ะ ครัวเกาหลีดีงามมมม
ของแฟนเลือกเป็นข้าวกับไก่ ก็เป็นไก่ทอดราดซอสหวานๆ หน้าตาดีน่ากิน แอบขอแฟนชิม อร่อยดี ไม่จกตา
ให้ไก่ชิ้นใหญ่และเยอะพอสมควรเลย มีผักกวางตุ้งโปะมาด้วย
หลังจากกินอิ่มก็หลับแบบไม่สนิทเท่าไหร่จนเครื่องเริ่มลดระดับ ก็หลับๆ ตื่นๆ จนล้อแตะพื้นค่ะ อยากชมอีกอย่างคือทั้งขาไปและกลับ นำเครื่องลงได้นิ่มมาก ไม่ค่อยกระเทือนเท่าไหร่ ที่สำคัญรู้สึกว่าตรงเวลาและทำงานกันมืออาชีพทั้งลูกเรือบนเครื่อง กราวด์สตาฟทั้งที่ไทยที่เกาหลี หลังจากที่ไม่ได้บินกับเอเชียน่ามาค่อนข้างนาน ได้กลับมาใช้บริการรอบนี้ค่อนข้างประทับใจค่ะ
แม้เครื่องจะเก่าไปบ้าง แต่ที่นั่งสบาย พนักงานต้อนรับทุกฝ่ายพูดจาดี เต็มใจให้บริการ แอร์โฮสเทสยิ้มแย้ม ไม่เห็นเค้าทำหน้าบึ้งเวลาทำหน้าที่เลย ถือว่าเค้าเก่งมากนะที่ต้องอมยิ้มตลอดเวลาที่คุยกับผู้โดยสาร สายการบินอื่นเรายังเจอหน้านิ่ง หน้าเฉยๆ บ้าง แต่นี่เค้าอมยิ้มตลอดเลย ไม่รู้เพราะโชคดีเจอคนที่พร้อมบริการ หรือเค้าเทรนมาแบบนี้ทุกคน 55555 คิดว่าคราวหน้าถ้ามีโปรอีกก็คงเลือกจอง OZ แบบไม่ลังเลเลยค่ะ
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.