กลับมาเขียนรีวิวสายการบินแล้วค่า หลังจากที่ห่างหายไปนาน รอบนี้มารีวิว Hongkong Airlines อย่างที่รู้กันว่า HX เค้ามีรูทบินจากไทยไปเกาหลีมาสักพักแล้ว เป็นการบินแบบต่อเครื่องที่ฮ่องกงค่ะ ซึ่งหลายคนอาจจะแบบ ห้ะ ต่อทำไมอ่ะ บินตรงดีกว่ามั้ย ห้าชั่วโมงเอง อะไรงี้เนอะ แต่ข้อดีของการบินต่อเครื่องไปเกาหลีเนี่ย ก็คือตั๋วที่ราคาถูกกว่าบินตรงหลายพันบาท โดยเฉพาะเวลาที่มีโปรโมชั่นเนี่ย 8,000 นิดๆ ก็มีให้เลือกกดกันนะคะ สำหรับเราคือคุ้มมากนะ แต่ใครที่มีเวลาจำกัดอาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์ค่ะ
ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพและเนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บไซต์ไปดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด
เพราะถึงจะเป็นการต่อเครื่อง แต่บริการที่ได้ก็เป็นฟูลเซอร์วิส ได้อาหาร/อาหารว่าง น้ำหนักกระเป๋า เลือกที่นั่งได้ฟรีตอนเช็คอินออนไลน์ คือราคานี้สำหรับเรา คุ้มกว่าโลว์คอสท์แน่ๆ และการต่อเครื่องสำหรับเราก็ไม่ใช่ประเด็นหรือปัญหาอะไร เพราะขั้นตอนมันง่ายมากค่ะ
หลายคนไม่กล้าซื้อตั๋วแบบแวะพักเพราะกลัวการต่อเครื่อง กลัวยุ่งยาก กลัวตกไฟลท์ที่สองบ้างไรบ้าง วันนี้เราจะมารีวิวให้ดูกันเลยว่าการ Transfer จากไฟลท์นึงไปอีกไฟลท์มันไม่ยากอย่างที่กังวลเลย ยิ่งรูทที่พักสั้นๆ ไม่นานมากแบบนี้ อยู่แต่ในสนามบินค่ะ ไม่ได้ไปไหนไกลก็ต้องไปขึ้นเครื่องอีกรอบแล้ว ใครที่กำลังสนใจหรือลังเลเรื่องต่อเครื่อง ลองมาอ่านโพสต์นี้กันดูนะคะ 🙂
อ่านรีวิวรูทบินกทม-โซลอื่นๆ ได้ที่นี่: Korean Air / Asiana Airlines
เริ่มกันที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ แนะนำให้เช็คอินออนไลน์มาเลยนะคะ เราจะได้เลือกที่นั่งเลย กันปัญหาถูกโอเวอร์บุ้คหรือโดนแยกนั่งด้วย เพราะรูทนี้ขายดีค่ะ ราคาโปรมันออกมาเรื่อยๆ ไม่เกินหมื่นตลอด คนใช้บริการกันเยอะเลย เช็คอินไว้ก่อนชัวร์สุดแล้วค่ะ กระเป๋าที่จะโหลดจะไปโผล่ที่ปลายทางสุดท้าย ซึ่งก็คือสนามบินอินชอนเลยนะคะ เราจะได้ Boarding Pass มา 2 ใบเลย เก็บให้ดีๆ นะ
มาบนเครื่องค่ะ ไฟลท์นี้ HX780 ออกจากไทยตี 4 บินด้วย A330 ทุกรูท ไม่ว่าจะจากไทยไปฮ่องกง หรือจากฮ่องกงไปเกาหลี ขากลับก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นบนเครื่องหน้าตาเหมือนกันหมดเลยค่ะ เราจะถ่ายละเอียดๆ มาแค่ไฟลท์แรกนะคะ เพราะมันเหมือนกันหมดจริงๆ 5555
รีโมทไว้กดนั่นนี่ เรียกแอร์โฮสเทส เปิดปิดไฟอ่านหนังสือ เล่นเกม ดูหนัง ปรับเสียงแสงบลาๆ ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์เช้ามืด ไม่ได้เสิร์ฟอาหารเป็นมื้อนะคะ ได้เป็นขนมปังชิ้นเดียว ไม่อร่อยเท่าไหร่เลยไม่ได้ถ่ายมาค่ะ
เวลาบินทั้งหมด 3 ชั่วโมง 10 นาทีค่ะ ถึงฮ่องกงตอน 8.10 น. (เวลาท้องถิ่นฮ่องกง) ตอนใกล้แลนดิง ขอบฟ้าจะสวยๆ แบบนี้
หลังจากลงจากเครื่อง ไม่ต้องร้อนรนนะคะ ป้ายสำหรับ Transfer จะมีบอกสถานะตลอดเลยค่ะ อย่างนี่พอลงมา จอก็ขึ้นบอกเลยว่าไฟลท์ถัดไปของเราจะต้องไปเกทอะไร แต่ต้องอย่าชะล่าใจนะ เพราะบางทีเกทที่บอกแต่แรกอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ คือเราต้องหมั่นเช็คจอและฟังประกาศเสมอๆ ตื่นตัวเอาไว้ค่ะ
สิ่งที่ต้องทำหลังจากลงเครื่องคือการเดินตามป้าย Transfer ไปค่ะ ป้ายมีบอกตลอดทางเดิน ไม่ต้องกลัวหลงเลย หรือถ้าหลงก็ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่นะคะ ให้จองไฟลท์ที่ต่อเครื่องเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ ถ้าน้อยกว่านั้นแล้วไม่เคยมีประสบการณ์ต่อเครื่อง อาจจะตกเครื่องได้
จอข้อมูลสำหรับ Transfer มีให้ดูเป็นระยะค่ะ สะดวกสุดๆ
ป้ายจะนำเรามาจนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงนะคะ เราไม่ได้แวะออกไปเที่ยว เพราะงั้นไม่ต้องไปตม. ค่ะ ให้เดินเข้าจุดสแกนสำหรับ Transfer ไปเลย จุดนี้เราต้องทำการสแกนกระเป๋าอีกครั้งค่ะ ของเหลวหรือน้ำดื่มที่เกิน 100 มล. ไม่อนุญาตให้ผ่านค่ะ พอสแกนเสร็จอะไรเสร็จ จะเจอเกทขาออกสนามบินฮ่องกง ระหว่างนี้ถ้ามีเวลาอยากเดินเล่น กินข้าว ช้อปปิงก็ได้หมด แต่ต้องอย่าไปเกทเกินเวลา Boarding Time นะ ทางที่ดีควรไปรอก่อนเวลาหน่อยค่ะ เผื่อเค้ามีการเปลี่ยนเกทเราจะได้ไปทัน ส่วนใหญ่ที่ฮ่องกงเกทเปลี่ยนบ่อยค่ะ
ไฟลท์ HX6628 รูท HKG-ICN บินด้วย A330 เหมือนเดิม ที่นั่ง จอเหมือนเดิมหมดเลย เวลาบิน 3 ชั่วโมง 50 นาทีค่ะ เครื่องออก 10.05 น. แต่ก่อนขึ้นเครื่อง มีการดีเลย์นิดหน่อยค่ะ แล้วก็มีการเปลี่ยนเกทด้วย เรานั่งรอหน้าเกทที่แจ้งไว้เกือบชั่วโมง สรุปโดนเปลี่ยนเกทที่ขึ้นเครื่อง
อยากให้ระวังเรื่องตรงนี้ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะบินจากประเทศไหน อย่าชะล่าใจนั่งรอหน้าเกทแบบไม่ฟังอะไรเลย ไม่ก็ต้องมองรอบข้างเรื่อยๆ ถ้าผิดสังเกตว่าใกล้เวลาบินทำไมคนยังไม่มารออีก ก็อาจจะมีวี่แววว่าเกทเปลี่ยนแล้วเราไม่รู้ก็ได้ เพราะงั้นต้องมีสติตลอด
ไฟลท์นี้ได้อาหารค่ะ เพราะตรงกับมื้อเที่ยงพอดี อันนี้เป็นข้าวเนื้ออบสไตล์จีนๆ หน่อย อีกอย่างที่อยู่ในตัวเลือกจำไม่ได้ค่ะ พอดีกินแบบเดียวกับของแฟนเลย แต่รสชาติดีนะ ติดใจอยากกินอีก เครื่องถึงเกาหลีตอน 14.55 น. ตรงเวลาเป๊ะแม้จะดีเลย์ตอนเทคออฟก็ตาม กัปตันซิ่งมากเว่อร์ 5555
มาที่ขากลับไทยกันค่ะ ไม่ได้ยากเช่นกัน สเต็ปเดียวกันกับขามาเลย แต่แถวเช็คอินที่เกาหลีคนไม่เยอะเท่าไทยเนอะ 5555
กราวด์เกาหลีเปิดเคาท์เตอร์เช็คอินช้าไปเกือบ 1 ชั่วโมงเลย ปกติตามหลักแล้วต้องเปิดก่อนเวลาบอร์ดิง 3 ชม. ทำให้รอบนี้เข้ามาในเกทแล้วตาลีตาเหลือกพอสมควร ทั้ง Tax Refund ทั้งกินข้าวเที่ยง หิวมากเช็คเอาท์จากโรงแรมก็ไมไ่ด้กินไรมา TT งงมากทำไมเปิดให้เช็คอินช้ามากขนาดนี้
ได้เกทสุดทางเลยค่ะ แต่ก็ดีกว่าต้องเสียเวลานั่งรถไฟไปอีกอาคาร 55555
A330 เจ้าเก่าเจ้าเดิมค่า จริงๆ เราชอบลำนี้นะ เพราะที่นั่งมันเป็น 2-4-2 ตลอดเลย เวลาเดินทางแล้วนั่งกับแฟนสองคนแถวริมพอดี
ขาไปฮ่องกงจากเกาหลี ไฟลท์ HX6629 เครื่องออก 15.55 น. ค่ะ จอดูเก่ากว่ารุ่นที่บินกลับไทยนิดหน่อย แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะส่วนใหญ่ก็หลับตลอดไฟลท์อยู่ดี แต่หนังก็อัพเดทพอสมควรเลยนะคะ มีมาร์เวล มีดิสนี่ย์ให้ดูเยอะเลย
มี Legroom พอประมาณค่ะ แต่สำหรับใครที่สูงเกิน 180+ อาจจะมีเข่าติดนิดหน่อยได้ 55555
เตรียมพร้อมมมม
ขึ้นมาแล้ววววว
พอเครื่องได้ระดับ ลูกเรือก็เสิร์ฟแทบจะทันทีเลยค่ะ รอบนี้สั่งคนละอย่างกับแฟน จานนี้เป็นปลา(หรืออาจจะไก่) ผัดพริกหยวก
ของเราเป็นเนื้อกับมันฝรั่ง คล้ายๆ Stew อร่อยดีค่ะ แต่ไม่ค่อยอิ่มนะ 555555 ถ้ามีข้าวจะดีเลยอ่ะ
ถึงสนามบินฮ่องกงตอน 18.55 น. ค่ะ บิน 4 ชั่วโมงพอดี พอถึงก็รอขึ้นเครื่องไฟลท์ถัดไป ซึ่งเหมือนกับขามาทุกอย่าง คือได้ขนมปังก้อนนึง ซึ่งเราหลับ ไม่ได้ขอรับขนมด้วย ตื่นอีกทีก็ถึงไทยแล้วค่ะ ไม่ได้เก็บภาพอะไรมาฝากเลยเพราะมันเหมือนเดิมและไม่มีอะไร เป็นไฟลท์ดึกแอบง่วงด้วยแหละ
สรุปคร่าวๆ นะคะ เราว่าการบินแบบต่อเครื่องไปเกาหลีหรือญี่ปุ่นด้วย HX ถือว่าคุ้มราคาและได้รับบริการดีทีเดียว ลูกเรือน่ารัก ไม่ค่อยเจอบริการแย่นะ ทุกคนยิ้มแย้มดีค่ะ เราไม่เจอลูกเรือไทยเลยนะ เจอแต่คนจีน กระเป๋าตอนเราไปได้คนละ 20 กิโล แต่เหมือนตอนนี้เค้าปรับเพิ่มเป็น 30 กิโลแล้วนะคะ เห็นโปรล่าสุดบอกว่า 30 กิโลแล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นเท่านี้อีกนานแค่ไหน ยังไงก่อนซื้อตั๋วก็หานโยบายเรื่องน้ำหนักกระเป๋าให้ชัวร์ก่อนก็ได้ค่ะ โทรคอลเซนเตอร์ก็ได้ แต่ทางนี้ค่อนข้างช้าค่ะกว่าจะติดต่อได้ แนะนำให้ส่งเมลถามทางสายการบินโดยตรงเป็นภาษาอังกฤษน่าจะได้รับคำตอบเร็วกว่าโทรหาคอลเซนเตอร์ในไทยนะคะ
เนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ติดตามรีวิวร้านอาหาร ของกิน ที่เที่ยว ที่พัก และไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้ที่ facebook.com/twinklebabystyle นะคะ ❤️
Disclaimer: This post is NOT sponsored. All opinions are my own.